ประมวลความสัมพันธ์ระหว่างวน.กับไทยประจำเดือนมกราคมปี 2015

Minh Lý - VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) - ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านกลาโหม เศรษฐกิจและการค้าเป็นกิจกรรมโดดเด่นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
(VOVworld) - ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านกลาโหม เศรษฐกิจและการค้าเป็นกิจกรรมโดดเด่นในความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ
ประมวลความสัมพันธ์ระหว่างวน.กับไทยประจำเดือนมกราคมปี 2015 - ảnh 1
ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามให้การต้อนรับพลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย

     รัฐบาลเวียดนามสนับสนุนกิจกรรมร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมทั้ง 2 ประเทศ นี่คือคำยืนยันของท่าน เหงวียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามในการให้การต้อนรับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในโอกาสมาเยือนเวียดนาม โดยท่าน เหงวียนเติ๊นหยุง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันในการลาดตระเวนร่วมกันในทะเล การจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำประมงของชาวประมงทั้งสองประเทศบนเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและมนุษยธรรม   ในด้านอื่นๆ นายกฯเวียดนามได้เรียกร้องให้ไทยร่วมมือกับเวียดนามและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆเพื่อผลักดันการปฏิบัติเป้าหมายของสมาคมให้เป็นผลสำเร็จตลอดจนสนับสนุนกันบนเวทีโลกและภูมิภาค  การผลักดันความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว  การร่วมมือกันในการผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรและการเชื่อมโยงการคมนาคมระหว่างสองประเทศ   นายกฯเวียดนามยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามยินดีต้อนรับและจะอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยในการร่วมมือและประกอบธุริจระยะยาวในเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาและลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านแรงงาน  ก่อนหน้านั้น คณะผู้แทนระดับสูงกระทรวงกลาโหมไทยนำโดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มีการเจรจากับผู้แทนระดับสูงกระทรวงกลาโหมเวียดนามนำโดยพลเอกฝุ่งกวางแทงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันประเมินผลของความร่วมมือด้านกลาโหมและหารือถึงมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ในด้านนี้ เช่น การแลกเปลี่ยนคณะ การฝึกอบรมและการลาดตระเวณร่วมในทะเล
       ที่ประเทศไทย ในการพบปะกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย นาย เหงวียนเติ๊ดแถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้แสดงความประสงค์ว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณจะกำชับให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องของไทยร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามในการปฏิบัติแผนปฏิบัติงานกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้ลงนามในกรอบการเยือนเวียดนามของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว   ส่วนพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณได้เห็นพ้องกับข้อเสนอของนาย เหงวียนเติ๊ดแถ่ง  พร้อมทั้ง ยืนยันว่า ในเวลาที่จะถึง ไทยและเวียดนามจะผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงต่อไป  ผลักดันการร่างและลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างสองประเทศให้ตรงตามกำหนดในไตรมาสที่ 2 ปีนี้  นอกจากนี้  ไทยและเวียดนามจะประสานกับประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคทำการวิจัยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขง

ประมวลความสัมพันธ์ระหว่างวน.กับไทยประจำเดือนมกราคมปี 2015 - ảnh 2
ห้างสรรพสินค้าเหงวียน คิม

ในด้านเศรษฐกิจและการค้า บริษัท Power Buy ของไทย ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเป็นบริษัทในเครือ Central Retail ที่เพิ่งเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินส์ (Robins) ที่กรุงฮานอย ได้ ซื้อหุ้นร้อยละ 49 ของบริษัท New Solution and Technology Development Investment (NTK) ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการห้างจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าเหงวียน คิม ซึ่งใหญ่ที่สุดในเวียดนาม  นอกจากบริษัท Power Buy แล้ว นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ที่เปิดนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ที่เบียน หว่า จังหวัดด่งนาย กำลังมีแผนสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยแห่งใหม่ในจังหวัดกว่างนิงห์ จังหวัดบิ่งห์ดิ่งห์และจังหวัดด่งนาย

ประมวลความสัมพันธ์ระหว่างวน.กับไทยประจำเดือนมกราคมปี 2015 - ảnh 3
นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้เข้าร่วมพิธีมอบเงินบริจาคแก่กองทุนคุ้มครองเด็กเวียดนาม
ซึ่งจัดขึ้นที่โรงละคร Au Co 

สำหรับข่าวปิดท้ายรายการของเราวันนี้คือข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมการกุศล โดยสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงฮานอย ได้มอบรายได้จากการจัดงาน Thailand Day 2014 มูลค่า 200 ล้านด่งให้แก่กองทุนคุ้มครองเด็กเวียดนามเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีฐานะยากจน เด็กด้อยโอกาส เด็กที่อยู่ในเขตเขาและเขตทุรกันดาร ให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้น  ส่วนที่ประเทศไทย สมาคมนักธุรกิจไทย-เวียดนามได้มอบเงิน1หมื่นเหรียญสหรัฐให้แก่กองทุนเพื่อผู้ยากจนเวียดนาม โดยเงินก้อนนี้มาจากการสมทบของนักธุรกิจเวียดนามในประเทศไทยและนักธุรกิจเวียดนามภายในประเทศ นอกจากนี้ทางสมาคมยังได้มอบเงินอีกกว่า1.500เหรียญสหรัฐให้แก่สภากาชาดแห่งประเทศไทย./.

Komentar