เหตุการณ์เด่นในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยในปี๒๐๑๓ คือการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของท่าน เหงวียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์และคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามในปลายเดือนมิถุนายน  การเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของท่าน เหงียนฟู้จ๋อง เป็นนิมิตหมายที่มีความหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมโดยประกาศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับไทย ไทย-เวียดนามภายใต้ ๕เสาหลักซึ่งประกอบไปด้วย ความสัมพันธ์ทางการเมือง ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ความร่วมมือทางวัฒนธรรมสังคม ความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าการค้าเป็นร้อยละ๒๐ ต่อปี เพื่อบรรลุเป้าหมาย๑ หมื่น ๕ พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๒๐

 

      ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ณ ประเทศลาวเมื่อกลางเดือนมีนาคม ท่านเหงวียน เติ้น หยุง นายกฯได้มีการพบปะกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกฯไทย โดยนายกฯทั้งสองท่านได้เห็นพ้องว่า จำเป็นที่จะต้องรักษาบรรยากาศความมั่นคงของแหล่งน้ำในแม่น้ำโขง การประสานงานกันและสนับสนุนจุดยืนของอาเซียนที่ได้ระบุในแถลงการณ์เกี่ยวกับหลักการ ๖ ข้อว่าด้วยทะเลตะวันออก  สำหรับความร่วมมือระหว่างสองรัฐสภา  เวียดนามและไทยได้เห็นพ้องกันที่จะผลักดันกิจกรรมพบปะสังสรรค์ระหว่างสองรัฐสภาให้มากยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมความเข้าใจ การประสานงานในฟอรั่มพหุภาคีและผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ   

ความสัมพันธ์และร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างเวียดนามกับไทย โดยเฉพาะกับกองทัพเรือมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพอันดีงามระหว่างสองประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่าจะผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมตามข้อตกลงร่วมมือด้านกลาโหมที่ได้ลงนามกันเมื่อเดือนกันยายน ๒๐๑๒ในโอกาสการเยือนประเทศไทยของพลเอก ฝุ่งกวางแทง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม  

สำหรับด้านเศรษฐกิจ  ถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่มีสัญญาณที่สดใสแต่การที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ให้กลายเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ได้มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา  สิ่งที่น่าสนใจคือ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศใน๑๐เดือนที่ผ่านมาของปี๒๐๑๓ได้บรรลุ๗.๘พันล้านเหรียญสหรัฐ  เพิ่มขึ้นร้อยละ๑๕เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  ไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ๙ของเวียดนาม ไทยมีโครงการลงทุนในเวียดนามรวม๓๒๔โครงการด้วยยอดเงินลงทุนประมาณ๖.๕พันล้านเหรียญสหรัฐ  นอกจากนี้ ตามการประเมินของนาง  วัชรี วิมุกตายน  ปลัดกระทรวงพานิชย์ไทยในการพบปะกับนาย เลแหม่งห่า รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ในโอกาสมาเยือนเวียดนามเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  เวียดนามมีศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต  รัฐบาลไทยจะส่งเสริมและให้การสนับสนุนสถานประกอบการไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนามเพื่อพัฒนาธุรกิจและใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

 ปี๒๐๑๓ก็เป็นปีที่มีความหมายสำคัญต่อสื่อต่างๆของทั้งสองประเทศ  โดยเหตุการณ์เด่นคือพิธีฉลอง๒๐ปีความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามและสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  ในโอกาสนี้  คณะผู้แทนสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามได้เดินทางไปเยือนไทย  โดยทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนผลความร่วมมือในตลอด๒๐ปีที่ผ่านมา  พร้อมทั้ง เห็นพ้องกันที่จะผลักดันและเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือนี้เพื่อบรรลุเป้าหมาย “ความสัมพันธ์มิตรภาพอย่างยั่งยืน” โดยนาย ถวนหิ๊ว ประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามได้ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ร่วมมือนี้จะนับวันยิ่งได้รับการพัฒนาอย่างกว้างลึกและยั่งยืนมากขึ้น  ก่อนหน้านั้น  คณะผู้แทนของสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้เดินทางมาเยือนเวียดนามและเข้าร่วมการพบปะสังสรรค์เพื่อรำลึกครบรอบ ๒๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองสำนักงานฯ  บรรดาผู้แทนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สำนักงานสื่อสารมวลชนเวียดนามและไทยจะมีส่วนร่วมยกระดับจิตสำนึกเกี่ยวกับการก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนในปี๒๐๑๕      

        ด้านวัฒนธรรม  สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง ๑๑ ได้เผยแพร่ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเวียดนาม ๔๐ ตอน  ซึ่งแต่ละตอนยาว ๔ นาที  โดยนำเสนอเกี่ยวกับประเทศ คน ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเวียดนามผ่านมุมมองของผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ ศิลปินและคนไทย รวมทั้งมีบทกลอนที่ประพันธ์โดยคุณเนาวรัตน์ พงษไพบูลย์ กวีผู้มีชื่อเสียงของไทยประกอบภาพยนตร์ ซึ่งบทกลอนเหล่านี้ถูกประพันธ์ขึ้นในช่วงที่ท่านเดินทางมาเวียดนามพร้อมกับทีมถ่ายทำภาพยนตร์