นาย เหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

ในด้านการทูต ในการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย เนื่องในโอกาสที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นาย เหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้แสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา ทั้งในกรอบความสัมพันธ์ทวิภาคีและในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งเสนอให้ทั้งสองประเทศพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านยังหารือเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของการขยายความสามัคคี การธำรงจุดยืนของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก ประสานงานในการเจรจาเพื่อบรรลุซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982เพื่อมีส่วนร่วมธำรงบรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ส่วน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยได้แจ้งว่า รัฐบาลไทยได้มอบเงิน 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐให้แก่เวียดนามเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลางเวียดนาม

ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19  ในทั่วโลกรวมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะประธานไอป้า นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้ส่งจดหมายถึงประธานรัฐสภาที่เป็นสมาชิกไอป้า รวมทั้งประเทศไทยโดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายขยายความร่วมมือในการรับมือการแพร่ระบาด ซึ่งในจดหมายตอบกลับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยได้แสดงการสนับสนุนประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เหงวียนถิกิมเงินในฐานะประธานไอป้าที่มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการสนับสนุนและร่วมมือกับประธานสภาแห่งชาติเวียดนามในช่วงที่เต็มไปด้วยความยากลำบากนี้

ในการพูดคุยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามและนาย  ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศไทยได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนในทุกระดับ ประสานงานในการจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2021 และธำรงการปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ลงนามข้อตกลงการรับสมัครแรงงานทวิภาคีฉบับใหม่ ขยายความร่วมมือในด้านที่สำคัญต่างๆ เช่น การศึกษาและฝึกอบรม การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน...

รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งกดปุ่มเปิดตัวโครงการคอมเพล็กซ์โรงงาน CPV Food Binh Phuoc

ในด้านเศรษฐกิจและการค้า ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมการค้าทวิภาคี เช่น งาน Top Thai Brand สัปดาห์สินค้าไทยที่เกิ่นเทอและเมืองท่าไฮฟองและงานสีสันไทยบนแผ่นดินเวียด เป็นต้น ที่น่าสนใจคือโครงการมอบปะการังเทียมเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลในจังหวัดก่าเมา ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 7.7 พันล้านด่ง โดยรัฐบาลไทยสนับสนุนเงินกว่า 3 พันล้านด่ง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเวียดนามในการแก้ไขปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำที่ลดลง โดยเฉพาะปริมาณปลาในเขตทะเลภาคใต้ของเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งโครงการนี้จะได้รับการปฏิบัติเป็นเวลา 1 ปี

ถึงแม้ประสบอุปสรรคนานัปการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่กลุ่มบริษัทรายใหญ่ของไทยยังคงขยายการลงทุนในเวียดนาม เช่น บริษัท Gulf Energy Development ได้ประกาศซื้อโครงการพลังงานลม 2 แห่งในเวียดนาม นั่นคือโครงการพลังงานลมบนบก 2 โครงการจากบริษัท Dien Xanh Gia Lai Investment Energy มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเริ่มก่อสร้างในปี 2021 และจะสามารถทำการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021

บริษัท ซี. พี. เวียดนามคอร์ปอเรชั่น ได้เปิดตัวโครงการคอมเพล็กซ์โรงงาน CPV Food Binh Phuoc ซึ่งเป็นโครงการเลี้ยงไก่แปรรูปครบวงจรเพื่อการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมยอดเงินลงทุน 250ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่า จะมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกของจังหวัดบิ่งเฟือก 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในระยะที่ 1 และ 200 ล้านเหรียญสหรัฐต่อ ปีในระยะที่ 2

ในปี 2020 บริษัท ซี. พี. เวียดนามคอร์ปอเรชั่นยังได้เปิดโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย CPPC ที่มีกำลังการผลิตถึง 1.2 ล้านชิ้นต่อเดือนและจะสนับสนุนหน้ากากอนามัยฟรีจำนวน 8 ล้านชิ้นให้แก่ชุมชนเวียดนามในระยะแรก

นางสาว มรกต เจนมธุกร อุปทูตสถานทูตไทยประจำกรุงฮานอยมอบเงินช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภาคกลางเวียดนาม (Photo: สถานทูตไทยประจำกรุงฮานอย)

ปี 2020 จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และเหตุอุทกภัยต่างๆ กิจกรรมการกุศลระหว่างสองประเทศได้รับการผลักดันเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลไทยได้มอบเงินบริจาค 30,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภาคกลางเวียดนาม ส่วนรัฐบาลเวียดนามก็มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนชาวไทยที่ประสบเหตุน้ำท่วมในภาคใต้ของไทยเช่นกัน รวมทั้งมอบอุปกรณ์การแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันและชุดตรวจหาเชื้อไวรัส SARS – CoV -2 ที่ผลิตโดยเวียดนามเพื่อสนับสนุนประเทศไทยในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

ภาคเอกชนไทย ชุมชนชาวไทยที่อาศัยในประเทศเวียดนามยังได้ร่วมกันเรี่ยไรเงินบริจาคนับหมื่นล้านด่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลางเวียดนาม จัดคณะลงพื้นที่ภาคกลางเวียดนามเพื่อมอบสิ่งของที่จำเป็น ยารักษาโรคและอาหารให้แก่ผู้ประสบภัย รณรงค์และเข้าร่วมการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนโลหิตในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 รวมทั้งมอบอาหารและสิ่งของที่จำเป็นให้แก่ผู้ยากจนในช่วงที่เวียดนามปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น ส่วนที่ประเทศไทย ชมรมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในจังหวัดอุดรธานีและหนองคายได้ร่วมกันบริจาคเงินนับร้อยล้านด่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคกลางเวียดนาม มอบ Face Shield หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย

การจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่างๆทั้งในระดับรัฐบาล สถานประกอบการและประชาชนในปี 2020 ได้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาตร์อย่างกว้างลึกมากขึ้นในปี 2021 และปีต่อๆไป.