 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เอกอัครราชทูต ฟานชี้แถ่ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ (Photo: TTXVN) |
ในโอกาสที่นาย ฟานชี้แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลลาในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชื่นชมความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในรอบด้านและมีประสิทธิภาพระหว่างสองประเทศ รวมทั้งส่วนร่วมของเอกอัครราชทูตฟานชี้แถ่งในวาระที่ผ่านมา ส่วนเอกอัครราชทูต ฟานชี้แถ่งได้กล่าวขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและชมรมชาวเวียดนามในไทยในหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการไทยในการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยให้ไปเที่ยวเวียดนามมากขึ้น
ในโอกาสเดินทางไปเยือนอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ในจังหวัดนครพนม นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยได้ยืนยันว่า อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์เป็นสถานที่ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์มิตรภาพไทย-เวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์มีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ มีส่วนร่วมผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม ในการพบปะกับผู้นำเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมมาตรการผลักดันความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ในจังหวัดนครพนม
ในโอกาสตรุษเต๊ตปีมะโรง 2024 กิจกรรมต่างๆของชมรมชาวเวียดนามในประเทศไทยได้มีขึ้นอย่างคึกคักในท้องถิ่นต่างๆของไทย ในการพบปะกับผู้บริหารสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนามและสถานประกอบการไทย นาย ฟานชี้แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้กล่าวขอบคุณการประสานงานของสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนามและสถานประกอบการไทยกับทางสถานทูตฯในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า สถานประกอบการไทยจะขยายการลงทุนและการค้าในเวียดนาม ส่วนนาย สนั่น อังอุบลกุล นายกสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม ประธานหอการค้าไทยได้ให้คำมั่นที่จะมีกิจกรรมต่างๆเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับเวียดนามในปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่มีการจัดกิจกรรมใหญ่ระหว่างสองประเทศ
 กิจกรรมฉลองตรุษเต๊ตปีมะโรง ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี |
ในการกล่าวปราศรัยในกิจกรรมฉลองตรุษเต๊ตปีมะโรง 2024 นาย ซองพล เบาโลเปต ตัวแทนของศูนย์เวียดนามศึกษาได้เผยว่า นี่เป็นโอกาสเพื่อให้ศูนย์เวียดนามศึกษาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศ คนและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเวียดนามสู่นักเรียนและนักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ตลอดจนโรงเรียนมัธยมในพื้นที่ใกล้เคียง ในกรอบของงานได้มีการจัดการประกวดความรู้และการประกวดภาพวาดเกี่ยวกับตรุษเต๊ตและรายการแสดงศิลปะ เช่น การร้องเพลงทำนองเจิ่ววัน การเดินแฟชั่นโชว์ชุดอ๊าวหย่าย เป็นต้น
ในด้านการเกษตร นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามได้เดินทางไปเยือนไทยเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศ ในการนี้ รัฐมนตรี เลมิงฮวาน ได้มีการพบปะกับตัวแทนของเครือบริษัทเซ็นทรัลกรุ๊ป เยือนตลาดจริงใจ GoodGoods, Food Hall Concept ที่ขายผลิตภัณฑ์อินทรีย์ รวมทั้งผลไม้ ผลิตภัณฑ์การเกษตรที่นำเข้าจากเวียดนาม เช่น แก้วมังกรและลำใย เป็นต้น หลังการเยือน รัฐมนตรี เลมิงฮวานได้แสดงความเชื่อมั่นต่อการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศ
สำหรับความร่วมมือระหว่างไทยกับท้องถิ่นต่างๆของเวียดนาม ในการพบปะกับนาย นิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามกับผู้บริหารจังหวัดเดียนเบียน ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดเดียนเบียนกับจังหวัดและนครในภาคอีสานและภาคเหนือของไทย ผลักดันการลงทุนของนักลงทุนไทยในด้านที่จังหวัดเดียนเบียนมีศักยภาพและผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนระหว่างสองประเทศ ผู้บริหารจังหวัดเดียนเบียนยังเสนอให้ท่านเอกอัครราชทูตไทยส่งเสริมให้สถานประกอบการและนักลงทุนไทยมาสำรวจและปฏิบัติโคงการลงทุนในด้านการเกษตร การค้าและการท่องเที่ยวในจังหวัดฯ เชื่อมโยงกับจังหวัดต่างๆในภาคเหนือของไทยในการประสานงานจัดสัปดาห์วัฒนธรรม การท่องเที่ยวเขตตะวันตกเฉียงเหนือในปี 2025 แนะนำศิลปะการฟ้อน xoe ไทและการร้องเพลงทำนองแทนของชาวเผ่าไต หนุ่งและไทของเวียดนามที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมระดับชาติในจังหวัดต่างๆในภาคเหนือของไทย
 ภาพของการสัมมนา |
สำหรับความร่วมมือด้านการศึกษา ในงาน “EduConnect beyond Frontier – Thailand and Vietnam 2024” นาย ฟานชี้แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำไทยได้ย้ำว่า แหล่งบุคคลากรเป็นกุญแจที่สำคัญของความร่วมมือในทุกด้าน ดังนั้น การหารือเกี่ยวกับปัญหาความร่วมมือด้านการศึกษา การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อเตรียมให้แก่ความสัมพันธ์ที่นับวันพัฒนาอย่างดีงามระหว่างสองประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น ทั้งสองฝ่ายควรผลักดันความร่วมมือและมุ่งสู่เป้าหมายการเพิ่มจำนวนนักศึกษาเวียดนามที่ศึกษาในประเทศไทยขึ้นเป็น 5 พันคนในเวลาที่จะถึง
ในการพบปะระหว่างกงสุลใหญ่ไทยประจำนครโฮจิมินห์และตัวแทนมหาวิทยาลัยฮวาแซนและ ศูนย์ฝึกอบรมการทูตและภาษาต่างประเทศของสำนักงานการต่างประเทศนครโฮจิมินห์(CEFALT) ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการผลักดันความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฮวาแซน CEFALT สถานกงสุญใหญ่ของไทย ณ นครโฮจิมินห์กับมหาวิทยาลัยต่างๆของไทยผ่านกิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนนักศึกษา แผนการเปิดหลักสูตรภาษาไทยนอกเวลาสำหรับประชาชนทั่วไปและการจัดตั้ง “ห้องประเทศไทย” เป็นต้น.