เฮื้อเจื่องยาง |
หลังจากจบมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ คณะป้องกันศัตรูพืช นาย เฮื้อเจื่องยาง ได้สมัครเข้าทำงานในบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่งโดยได้รับเงินเดือนเกือบ 20 ล้านด่ง แต่ด้วยความชอบในการเลี้ยงไส้เดือนและมีความฝันที่จะเห็นการพัฒนารูปแบบการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในจังหวัดเกียนยาง นาย เจื่องยาง ได้ตัดสินใจกลับบ้านเกิดสร้างฟาร์มเลี้ยงไส้เดือนโดยใช้เครื่องหมายการค้า “ไส้เดือนเกียนยาง” นาย เจื่องยางเป็นคนรักอิสระโดยตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 เขาได้เริ่มหางาน Part-time เพื่อหาเงินจ่ายค่าที่พักและค่าเรียนมหาวิทยาลัย จากนั้น เขาก็รู้จักอาชีพเลี้ยงไส้เดือนเพื่อขายปุ๋ยอินทรีย์ จากการเล็งเห็นศักยภาพของอาชีพนี้ นาย เจื่องยาง ได้ตัดสินใจซื้อพันธุ์ไส้เดือนมาลองเลี้ยงในบ้านโดยใช้ผลิตภัณฑ์การเกษตรที่เป็นความได้เปรียบของจังหวัดฯ “จังหวัดเกียนยางเลี้ยงวัวและควายจำนวนมาก เราสามารถใช้มูลวัวและควายมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน”
เจื่องยางเริ่มเลี้ยงไส้เดือนตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2018 ในพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร และถึงขณะนี้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาด เจื่องยางบอกว่า การเลี้ยงไส้เดือนไม่ยากเนื่องจากสภาพอากาศในเขตนี้เอื้ออำนวยและใช้เวลาเลี้ยงแค่ 2 เดือนเท่านั้น เนื่องจากมีความรู้ในด้านการเกษตร นาย เจื่องยางจึงมีความสะดวกมากในการเลี้ยง โดยใช้ส่วนประกอบที่หาง่ายในท้องถิ่น เช่น มูลวัว มูลควาย ฟางและผักตบชวาเพื่อทำปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพขายให้บริษัทที่ปลูกดอกไม้ ผักและผลไม้สะอาดในจังหวัดต่างๆ เช่น ซอกจัง หวิงลอง ด่งท้าปและนครโฮจิมินห์ เจื่องยางเผยว่า ไส้เดือนสามารถทำปุ๋ยอินทรีย์ได้หลายชนิด โดยมีเวลาเก็บผลผลิตและราคาแตกต่างกัน ตั้งแต่ 3,500 ด่ง – 9,000 ด่งต่อกิโลกรัม โดยแต่ละเดือน การขายไส้เดือนสร้างกำไรประมาณ 40-50 ล้านด่ง “สิ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจคือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นผมพยายามผลิตไส้เดือนที่มีคุณภาพ โดยต้องใช้วิธีการผลิตอย่างถูกต้อง เราไม่เพียงแต่มีรายได้เพียงพอเพื่อพัฒนาบริษัทเท่านั้น หากยังสร้างงานทำให้แก่แรงงานในท้องถิ่นอีกด้วย ช่วยให้พวกเขาไม่ต้องไปทำงานในต่างจังหวัด”
ปุ๋ยอินทรีย์ของนาย เฮื้อเจื่องยาง |
นอกจากเลี้ยงไส้เดือน นาย เจื่องยาง ยังใช้ฟางเพื่อเพาะเห็ดฟางตามมาตรฐานVietGap แล้วใช้ฟางเน่าหลังการเพาะเห็ดมาเลี้ยงไส้เดือน การทดลองเพาะเห็ดฟางในครั้งแรกมีกำไรเกือบ 10 ล้านด่งภายในเวลา 15 วัน
เมื่อปลายปี 2019 นาย เจื่องยางได้สมัครเข้าร่วมการประกวดสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมของจังหวัดเกียนยาง โดยได้รับรางวัลที่ 3 และได้รับการยกย่องมให้เป็น 1 ในเยาวชนดีเด่นในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพจังหวัดเกียนยางประจำปี 2019
จากความคล่องตัว ความคิดสร้างสรรค์และความหลงไหลในด้านการเกษตร เฮื้อเจื่องยาง เป็นหนึ่งในเยาวชนดีเด่นในท้องถิ่น เป็นตัวอย่างให้เยาวชนในตำบลปฏิบัติตามและสร้างแรงจูงใจให้แก่เยาวชนในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อสร้างฐานะที่มั่นคง.