หน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามส่งเสริมรูปแบบการผลิตแบบครบวงจรเพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลง EVFTA |
ตามข้อตกลง EVFTA ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสิ้อผ้าสำเร็จรูปของเวียดนามจะได้รับการลดภาษีอย่างต่อเนื่องเมื่อส่งออกไปยังประเทศสมาชิกของอียู โดยจะทยอยลดภาษีให้อยู่ที่ 0%ภายใน 7 ปี โดยอียูจะยกเลิกภาษีต่อผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่นำเข้าจากเวียดนามกว่าร้อยละ 77 ภายใน 5ปีและจะยกเลิกภาษีต่อผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่เหลือร้อยละ 22.7 ภายใน 7ปี ซึ่งข้อตกลง EVFTA มีความหมายสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่หน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีศุลกากร ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก หรือ CPTPP ที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์และมาตรฐานที่เข้มงวดในขั้นตอนต่างๆจะช่วยผลักดันการสร้างสรรค์ระบบการผลิตแบบครบวงจรเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่หน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปของเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติข้อตกลง EVFTA ก็เช่นเดียวกันข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่อื่นๆที่สร้างอุปสรรคต่างๆต่อเวียดนาม นาย เทินดึ๊กเหวียด ผู้อำนวยการใหญ่เครือบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าหมายเลข 10 ได้เผยว่า ทางบริษัทฯกำลังคำนึงถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาแหล่งจัดสรรวัตถุดิบภายในประเทศเพื่อช่วยให้สถานประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA และข้อตกลงการค้าเสรีฉบับอื่นๆได้อย่างเต็มที่“ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่ส่งออกไปยังยุโรป มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีทันที พวกเราสามารถใช้ระบบห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศเพื่อตอบสนองมาตรฐานที่เข้มงวดในการตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ แต่มีบางผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถหาวัตถุดิบภายในประเทศได้ แต่นี่คืออุปสรรคในระยะสั้น โดยข้อตกลง EVFTA จะนำผลประโยชน์มากมายมาให้แก่เวียดนาม สิ่งที่สำคัญคือโรงงานทอผ้าและบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าเวียดนามจะสร้างสรรค์ระบบห่วงโซ่อุปทานและลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป”
นาย เทินดึ๊กเหวียด ผู้อำนวยการใหญ่เครือบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าหมายเลข 10 (baodautu.vn) |
เมื่อเทียบกับข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามได้เข้าร่วม ข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ที่ระบุในข้อตกลง EVFTA มีข้อใหม่และมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยสำหรับหน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนาม เพื่อได้รับประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA ต้องใช้วัตถุดิบที่ผลิตในเวียดนามหรืออียูและมีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในเวียดนามเท่านั้น นอกจากนี้ EVFTA ได้อนุญาตให้สถานประกอบการเวียดนามใช้วัตถุดิบจากสาธารณรัฐเกาหลีหรือประเทศที่ 3 ที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี เช่น ญี่ปุ่น นาย เลเตี๊ยนเจื่อง ประธานคณะกรรมการบริหารเครือบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าเวียดนามได้เผยว่า“ถ้าหากเวียดนามสามารถบรรลุข้อตกลงกับสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นเกี่ยวกับการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าเพื่อได้รับประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA นอกจากต้องใช้วัตถุดิบภายในประเทศร้อยละ 20 แล้ว เวียดนามก็จะสามารถใช้วัตถุดิบจากสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นอีกร้อยละ 25 เพื่อตอบสนองความต้องการของ EVFTA สิ่งนี้มีความสำคัญมาก โดยกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้บรรลุความตกลงกับสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น แล้วได้แจ้งให้ฝ่ายอียูทราบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ข้อตกลง EVFTA เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบจากสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นยังไม่ถูกบังคับใช้ ซึ่งถ้าหากสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ พวกเราก็จะผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อาจได้รับการยกเลิกภาษีเมื่อส่งออกไปยังอียู”
ในหลายปีมานี้ สถานประกอบการสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้วางยุทธศาสตร์พัฒนาวัตถุดิบภายในประเทศเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA และข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่อื่นๆอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งลดความเสี่ยงผ่านการใช้วัตถุดิบจากตลาดต่างๆ ควบคู่กันนั้นเวียดนามได้เน้นปรับปรุงระเบียบราชการเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการนำเข้าส่งออก ปรับปรุงกรอบทางนิตินัยเพื่อตอบสนองเงื่อนไขเกี่ยวกับแรงงาน สิ่งแวดล้อมและลิขสิทธิ์ทางปัญญาให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและกระบวนการบริหารของสหภาพยุโรป
สถานประกอบการสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามตั้งความหวังว่า ข้อตกลง EVFTA จะนำผลประโยชน์ระยะยาวในการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังอียู อีกทั้งช่วยผลักดันการสร้างสรรค์ระบบการผลิตแบบครบวงจร เพิ่มมูลค่าให้แก่หน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามและลดการพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ.