( VOVworld )-การร้องเพลงพื้นเมืองทำนองเสิม( Xam )เป็นศิลปะการร้องเพลงพื้นเมืองที่โดดเด่นแขนงหนึ่งของจังหวัดภาคเหนือเวียดนาม แต่การร้องเพลงทำนองเสิมได้ถูกชาวฮานอยพัฒนาเป็นแขนงหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นฮานอยนั่นคือ “ เสิมเต่าเดี่ยน ” ( Xam tau dien )หรือ “ การร้องเพลงพื้นเมืองเสิมบนรถราง ”
|
การแสดงร้องเพลงพื้นเมืองเสิมเต่าเดี่ยน ณ พิพิธพัณฑ์สตรีเวียดนาม |
ที่ท่านกำลังรับฟังอยู่ขณะนี้คือเพลงทำนองเสิมเต่าเดี่ยนหรือเสิมบนรถรางที่คุ้นหูคนฮานอยที่โดยสารรถรางจนกลายเป็นชีวิตทางวัฒนธรรมส่วนหนึ่งของชาวฮานอยมาระยะหนึ่งนั่นคือช่วงปี ๑๙๐๐-๑๙๙๒ สถานีรถรางตั้งอยู่ที่บริเวณทะเลสาบเบ่อโห่( Bo Ho )หรือ( Hoan Kiem )หว่านเกี๊ยม จากที่นี่จะมีเส้นทางรถรางไปยังพื้นที่ต่างๆชานกรุงฮานอยเช่น เอียนฝู ( Yen Phu ) ตลาดเบื๋อย( Cho Buoi ) ตลาดเมอ( Cho Mo ) เกิ่วเยิ้ย( Cau Giay ) ห่าดง( Ha Dong ) และหวอง( Vong ) รถรางแต่ละเที่ยวได้กลายเป็นเวทีแสดงเพลงพื้นเมืองทำนองเสิม โดยผู้แสดงเป็นคนพิการร้องเพลงด้วยพลังเสียงสูงต่ำลากตามเนื้อร้องและทำนองพร้อมเล่นซอด้วงและกลับคู่ประกอบ นายซวนแหวก( Xuan Hoach ) ศิลปินประชาชนที่รักเพลงทำนองเสิมเป็นชีวิตจิตใจเผยว่า “ เสียงรถรางวิ่งปนกับเสียงพูดคุยของผู้โดยสารแต่เสียงคนร้องดังกว่า เพลงเสิมทำนองต่างๆเป็นเพลงเพื่อชีวิตที่ใกล้ชิดกับทุกคนดังนั้นจึงจำได้ง่ายและซึมซับเข้าไปในจิตใจของแต่ละคนจนกลายเป็นอาหารทางใจของคนฮานอยที่ขาดมิได้ ”
|
ศิลปินยอดเยี่ยมแทงงวานร้องเพลงเสิมเต้าเดี่ยนสวมบทภรรยา |
รายการ “ เสิมเต่าเดี่ยนหรือเสิมบนรถรางคือวัฒนธรรมบนท้องถนนของฮานอย ” โดยพิพิธภัณฑ์สตรีเวียดนามกับสมาคมมรดกจัดขึ้นได้พาผู้ชมย้อนอดีตกลับสู่ช่วงเวลาที่เสิมเต่าเดี่ยนพัฒนารุ่งเรืองระยะหนึ่ง ซึ่งการร้องเพลงพื้นเมืองทำนองเสิมเต่าเดี่ยนแตกต่างกับทำนองเสิมทั่วไปอยู่ตรงที่ เนื้อร้อง เครื่องดนตรีและชุดแต่งกายของผู้แสดง โดยผู้ชายจะสวมใส่กางเกงสีน้ำตาล สวมหมวกแก็ปทรงทหารและใส่แว่นสีดำ ส่วนผู้หญิงจะสวมเสื้อสีทึบและเอี๊ยมหรือบราเซียของผู้หญิงเวียดนามสมัยโบราณสีสดใส พร้อมกระโปรงยาวถึงเข่า เนื่องจากรถรางวิ่งเร็ว ดังนั้นจังหวะร้องก็ต้องเร็ว เนื้อร้องเข้าใจง่าย ซึ่งเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ความในใจและจิตใจของคนฮานอยเช่น เพลงพื้นเมืองเสิม นายคว้า( Anh Khoa ) สนุกที่นครหลวง( Vui nhat Ha Thanh ) ชนบท( Chan que ) ปลาสวยงาม( Lung lo con ca vang ) ทั้งนี้เป็นภาพของชีวิตประจำวัน การทำมาหากินและค้าขายไม่ว่าจะเป็นเสียงของคนขายไม้จิ้มฟัน ยาพื้นเมืองกามห่างบาก( Thuoc cam Hang Bac ) และยาหม่อง( dau cu la ) ของชาวฮานอยศตวรรษที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีการฉายภาพ ๓ มิติขนาดใหญ่เกี่ยวกับถนนเก่าแก่ของฮานอยพร้อมด้วยภาพรถรางวิ่งตามถนนสายต่างๆ ซึ่งนับเป็นภาพที่คุ้นเคยสำหรับคนฮานอยระยะหนึ่ง ศิลปินยอเยี่ยมแทงงวาน( Thanh Ngoan ) รองผู้อำนวยการโรงละครแจ่วของเวียดนามเผยว่า “ เสิมไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชาวนครหลวงอีกแล้ว การร้องเพลงเสิมได้ซึมซับเข้าชีวิตของชาวกรุงฮานอยที่เป็นวัฒนธรรมแขนงหนึ่งของศตวรรษที่ผ่านมา เราหวังว่า คณะร้องเพลงพื้นเมืองทำนองเสิมจะมีหน้าใหม่เข้าร่วมพร้อมๆกับคนเดิมที่รักศิลปะแขนงนี้เป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งจะอนุรักษ์เวทีแสดงเสิมนี้นานแสนนานเพื่อบริการผู้ชม
|
ศิลปินยอดเยี่ยมหว่างแองตู้สวมบทสามี |
รายการ “ เสิมเต่าเดี่ยนหรือเสิมบนรถรางคือวัฒนธรรมบนท้องถนนของฮานอย ” ได้วาดภาพบรรยากาศของฮานอยในอดีตด้วยเสียงระฆังที่ดังขึ้นเมื่อรถรางออกจากสถานีวิ่งไปตามถนนสายเก่าแก่ของตัวเมืองออกสู่ชานเมือง ภาพบรรยากาศที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน และการค้าขายคึกคักของย่านโบราณ ๓๖ สาย ทั้งนี้เป็นภาพแห่งอดีตที่สวยงามระยะหนึ่งของฮานอยที่ยังคงสถิตอยู่ในความทรงจำของชาวนครหลวงตราบเท่าทุกวันนี้ ศิลปินยอดเยี่ยมหว่างแองตู๊ ( Hoang Anh Tu )ของโรงละครนาฏศิลป์และดนตรีทังลอง( Thang Long )เห็นว่า “ จากรายการดังกล่าว เราประชาสัมพันธ์ศิลปะอันโดดเด่นแขนงหนึ่งของฮานอยในอดีตคือ เสิมเต่าเดี่ยน ที่ได้พัฒนาผ่านการร้องเพลงพื้นเมืองทำนองเสิมหลายบทเกี่ยวกับน้ำใจไมตรีของมนุษย์ที่มีต่อกันและชีวิตของชาวนครในช่วงนั้น ”
|
เด็กแืทงเติ้ม ๑๐ ขวบร้องร้องเพลงเสิมเต่าเดี่ยน
|
แม้ปัจจุบัน ระบบรถรางในฮานอยจะไม่มีอยู่แล้ว แต่การร้องเพลงพื้นเมืองทำนองเสิมเต่าเดี่ยนยังมีคุณค่าและจะได้รับการฟื้นฟูแสดงในเวทีอื่นเสมือนเป็นวัฒนธรรมแขนงหนึ่งของกรุงฮานอยเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาดนตรีพื้นเมืองให้อยู่นานเท่านาน
เพลงเสิม ความสนุกของนครหลวง
|
ระบบรถรางของฮานอยในอดีต |
|
เสิมเต่าเดี่ยนสมัยก่อน |
|
ขบวนรถรางเข้าสู่สถานี |