( VOVworld )- ผลสำเร็จของการประชุมที่ปารีสเกี่ยวกับการยุติสงครามของสหรัฐในเวียดนามที่นำไปสู่การลงนามข้อตกลงปารีสนั้นมีส่วนร่วมอันใหญ่หลวงของเพื่อนมิตรที่ใฝ่สันติภาพในทั่วโลก ซึ่งความทรงจำของพวกเขาเกี่ยวกับช่วงเวลาทำการเจรจาของคณะผู้แทนเวียดนาม ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศสนั้นยังคงตราตรึงในหัวใจของพวกเขามาตราบเท่าทุกวันนี้
|
ท่านเหงวียนถิ่บิ่งผู้ลงนามในข้อตกลงปารัสกับเพื่อนมิตรต่างประเทศที่ให้การสนับสนุนเวียดนาม |
“ ผมยังจำสหายเวียดนามได้แม่นมาก และยังจำเส้นทางที่ร่วมเดินทางกับพวกเขาในตลอดระยะเวลาที่ติดตามคณะ ” ๔๐ ปีได้ผ่านพ้นไป แต่นายมิแชล สตราชินเนสกูยังจำเรื่องราวและอนุสรณ์กับเพื่อนๆเวียดนามในคณะผู้แทนแนวร่วมปลดปล่อยประชาชาติของภาคใต้เวียดนามในช่วงที่อยู่ในฝรั่งเศส เขาเป็นคนขับรถให้แก่คณะผู้แทนเวียดนามตลอด ๔ ปีที่ทำการเจรจาที่ปารีสที่มีทั้งระยะที่ยากลำบากและความสุขเมื่อเดินทางถึงจุดหมายหลายทาง นายมิแชล สตราชินเนสกูยังจำช่วงนาทีการลงนามข้อตกลงปารีสเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ก่อนหน้านี้ ๔๐ ปีว่า “ วันนั้นเรารู้สึกตื้นตันใจพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ซึ่งเป็นความรู้สึกเช่นเดียวกับเพื่อนๆชาวเวียดนาม ประเทศเวียดนามที่เล็กๆแต่สามารถชนะประเทศอภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ผมถือประธานโฮจิมินห์เป็นประทีปส่องทางให้แก่ประชาชนในทั่วโลก ผมจำได้แม่นเลยว่า ก่อนหน้านี้ ๔๐ ปี พวกเราได้ร่วมฉลองชัยชนะกับเพื่อนคนเวียดนาม แต่ในขณะนั้น ทุกคนต่างรู้ได้เลยว่า การต่อสู้ของชาวเวียดนามยังไม่ได้ยุติและพวกคุณต้องใช้เวลาในการต่อสู้อีกระยะหนึ่งที่แสนยากลำบากจนกว่าจะสามารถรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวในปัจจุบัน ”
|
นักประวัติศาสตร์อะลัน รุสซีโอ |
ความโดดเด่นและความสวยงามแห่งสัมพันธไมตรีของขบวนการชาวโลกสามัคคีและสนับสนุนเวียดนามอยู่ตรงที่ มีการเข้าร่วมของกองกำลังการเมืองและมวลชนในประเทศยุโรปและในโลกอย่างกว้างขวาง สำหรับเพื่อนชาวต่างชาติที่เข้าร่วมเดินขบวนสนับสนุนเวียดนามและจัดขบวนการประณามสงครามรุกรานเวียดนามของสหรัฐอเมริกานั้นเป็นการเข้าร่วมขบวนการการเมืองครั้งแรกของพวกเขา ท่าน อะลัน รุสซีโอ นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่เดินขบวนประท้วงสงครามในเวียดนามเมื่ออายุ ๑๖ ปีเล่าว่า “ สมัยผมยังหนุ่มก็ตรงกับช่วงที่สหรัฐอเมริกาทำการรุกรานเวียดนาม ผมกับหนุ่มสาวหลายๆคนในทั่วโลกได้คัดค้านสงครามของสหรัฐในเวียดนามและสนับสนุนเวียดนามเพื่อปกป้องความเป็นธรรม ผมได้เดินขบวนประท้วงสงครามในเวียดนามและเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส ตั้งแต่นั้นมาจึงได้มีโอกาสพบปะกับพี่ๆชาวคอมมิวนิสต์ที่เป็นเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่ของเวียดนามไม่ว่าจะเป็นท่าน ชาร์ล์ ฟวกนีโอ แอนรี มาร์ติน ไรมอนด์ เดียง มาเดแลน รีโฟด์และไรมอน โอบรัค ”
การสนับสนุนของสื่อต่างประเทศก็มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการขยายกระแสประท้วงสงครามในเวียดนามให้บานปลายไปทั่วโลก ผู้สื่อข่าวระดับโลก มาเดแลน รีโฟด์ ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ที่หายากเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สหรัฐส่งเครื่องบินบี ๕๒ มาทิ้งระเบิดกรุงฮานอยและเมืองท่าไฮฟองเมื่อปี ๑๙๗๒ ภาพยนตร์ชุดนี้ได้เปิดโปงสงครามที่ไร้เหตุผลของสหรัฐ และมีส่วนร่วมเรียกการสนับสนุนจากประชามติโลกต่อเวียดนามมากขึ้น รวมถึงทำให้เวียดนามมีฐานะได้เปรียบบนโต๊ะเจรจา ณ กรุงปารีส ท่านมาเดแลน รีโฟด์เผยว่า “ นี่เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของดิฉัน ดิฉันเป็นนักข่าวต่างประเทศคนเดียวที่ได้อยู่กับทหารและประชาชนเวียดนาม เมื่อกลับกรุงปารีส ดิฉันได้ให้แพร่ภาพยนตร์ชุดนี้ทางองค์การสื่อสารมวลชน ภาพยนตร์ชุดนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะยากลำบากขนาดไหน แต่ชาวเวียดนามจะไม่ย่อท้อ พวกเขายังเดินหน้าต่อสู้ต่อไปจนกว่ากอบกู้เอกราชให้กลับคืนมาสู่ผืนดินของประเทศได้ ”
|
ท่านเอเลน ลุค อดิึตวุฒิสภาฝรั่งเศสที่สนับสนุนเวียดนาม |
ข้อตกลงปารีสถือเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจบนเส้นทางแสวงหาสันติภาพของประชาชนเวียดนาม ทั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้นายดาเนียล รุสเซล ผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศสถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีที่มีชื่อว่า ข้อตกลงปารีส นายดาเนียล รุสเซลเล่าว่า “ ผมอยากชี้ให้เห็นว่า ความปรารถนาอย่างแรงกล้าในสันติภาพจะนำมาซึ่งชัยชนะ ข้อตกลงปารีสที่ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคมคศ. ๑๙๗๓ เป็นเรื่องราวแห่งความมหัศจรรย์และเป็นผลของการเจรจาระหว่าง ๔ ฝ่ายในเวลาเกือบ ๕ ปี และเรื่องราวแห่งความสามัคคีระหว่างคณะผู้แทนจากภาคเหนือกับชาวจวาซี เล รวาหรือเขตใกล้เคียง ซึ่งได้ให้การต้อนรับคณะและเชิญร่วมรับประทานอาหารอย่างเป็นกันเองเหมือนคนในครอบครัว น้ำใจของเพื่อนคนฝรั่งเศส ผู้ติดตามดูแลคณะ คนขับรถ ผู้คุ้มกันและทีมแพทย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่ามหัสจรรย์และนับร้อยคนได้ช่วยเหลือคณะผู้แทนจากภาคเหนือและภาคใต้เวียดนามตลอดระยะเวลา ๕ ปีเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ”
|
จัตุรัสที่มีชื่อ ข้อตกลงปารีส ณ จวาซี เลอ รวา จะได้เปิดป้ายในเร็วๆนี้ |
การต่อสู้ของชาวเวียดนามเพื่อกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศในช่วงนั้นได้กลายเป็นเสียงแห่งมโนธรรม ความชอบธรรมและศักดิ์ศรีของคนที่มีคุณค่าในการทำให้มนุษยชาติที่ก้าวหน้าตื่นตัว ดังนั้นขบวนการชาวโลกสนับสนุนประเทศหนึ่งจึงมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้ได้ช่วยให้เวียดนามประสบชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า ./.