กรุงฮานอยมีความแตกต่างกับตัวเมืองอื่นๆภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของนครหลวงที่มีอายุนับพันปีแห่งนี้ ในหลายปีมานี้ หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างโหวตให้ฮานอยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเอเชียและโลกหลายครั้ง เช่น บนเว็บไซต์ Trip Advisor ฮานอยอยู่อันดับที่ 8 ของโลกในปี 2016 และเมื่อเร็วๆนี้ หนังสือพิมพ์รายวัน Telegraph ของอังกฤษก็ได้เลือกฮานอยติดอันดับแรกของตัวเมืองที่มีอาหารที่น่าประทับใจมากที่สุดในโลก การที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามามาลิ้มลองเมนูบุ๊นจ๋าหรือขนมจีนหมูย่างที่ฮานอยที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐได้สร้างความประทับใจต่อผู้ชมนับล้านคนทั่วโลก นอกจากนั้น ฮานอยยังมีเมนูอาหารที่อร่อยๆ เช่น เฝอหรือก้วยเตี๋ยว บุ๊นอ๊กหรือขนมจีนแกงหอย แบ๊งก๊วนแทงจี่หรือข้าวเกรียบปากหม้อแทงจี่ กาแฟไข่ ขนมปังและอาหารริมฟุตบาทที่ถูกระบุชื่อในนิตยสารต่างๆ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นายโด๋ดิ่งโห่ง ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวกรุงฮานอยเผยว่า “เราให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อวัฒนธรรมอาหารการกินเพราะฮานอยมีอาหารพื้นเมืองที่น่าสนใจมากมาย การศึกษาความนิยมของนักท่องเที่ยวเป็นหน้าที่สำคัญของหน่วยงานการท่องเที่ยวและคนทำอาหาร เพราะจะต้องแนะนำและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน อย่างเช่น ก๊วยเตี๋ยวและบุ๊นจ๋ามีรสชาดยังไง”

การดื่มเบียร์สดราคาย่อมเยาที่ย่านถนนโบราณ 36 สายที่คึกคักก็เป็นอีกสิ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะร้านเบียร์สดริมฟุตบาทแถวสี่แยกถนนต่าเหียนและเลืองหงอกเกวี้ยน  นอกจากประทับใจในวัฒนธรรมอาหารการกินของฮานอย ชาวต่างชาติหลายคนดังเช่นคุณ โซเฟีย นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสและคุณฟิลิป นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษยังรู้สึกประทับใจต่อความเรียบง่าย ความเป็นกันเองและอัธยาศัยที่ดีของคนฮานอย 

“ดิฉันรักฮานอย ชอบความเรียบง่ายและอัธยาศัยที่ดีของคนฮานอย ดังนั้นถึงช่วงฤดูร้อนทุกๆปี ดิฉันมักจะพาครอบครัวมาเที่ยวเวียดนาม”

“คนฮานอยอ่อนโยน นอบน้อม เป็นกันเองและใจดี คนฮานอยยังคงใช้ชีวิตแบบดังเดิม อาศัยอยู่ร่วมกันและมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของฮานอย”

ย่านถนนโบราณ 36 สาย ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของกรุงฮานอยมีความคึกคักทั้งวัน มีความหลากหลายสีสันจากบ้านที่สวยงามและร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์ ควบคู่กันนั้น ความงามของเขตโบราณและความคึกคักของย่านค้าขายก็ได้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพักตามโรงแรมในย่านนี้เป็นจำนวนมาก นายพอล นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่มาอาศัยอยู่ในกรุงฮานอยกว่า 2 ปีเห็นว่า “ชาวฮานอยมีชีวิตที่คึกคักในร้านริมฟุตบาทและสถานที่สาธารณะ แต่ในประเทศแถบยุโรปเหนือของผม พวกเราส่วนใหญ่อยู่ในบ้านเพราะสภาพอากาศชื้นและหนาวจัด แต่ที่นี่มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น มีผู้คนมาเต้นรำในสวนสาธารณะในตอนค่ำ ผมรักฮานอยมาก”

แม้มีอายุเกือบ 1,000 ปีแต่วันเมี้ยวก๊วกตื๋อย้ามยังคงเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นของกรุงฮานอย ส่วนวัดหมดกดหรือวัดเสาเดียวไม่เพียงแต่สะท้อนความงามด้านวัฒนธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนาเท่านั้นหากยังเป็นสัญลักษณ์ของกรุงฮานอยอีกด้วย ควบคู่กันนั้น ในฮานอยยังมีตึกรามบ้านช่องสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่สวยงามและมีความหมายทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง เช่น ทำเนียบประธานประเทศ โรงละครใหญ่ฮานอย หอน้ำห่างโดว๋และสะพานลองเบียน เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

เมื่อเร็วๆนี้ การขยายพื้นที่จัดถนนคนเดินให้ครอบคลุมบริเวณโดยรอบทะเลสาปหว่านเกี๊ยมและบริเวณใกล้เคียงโดยทางการกรุงฮานอยได้ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินเล่น ชมการละเล่นพื้นเมือง ลิ้มลองอาหารที่อร่อยและชมการแสดงดนตรีพื้นเมืองและดนตรีร่วมสมัยริมฟุตบาท ซึ่งช่วยให้พวกเขาเข้าใจและรักการใช้ชีวิตที่คุ้มค่าของคนฮานอยมากขึ้น ส่วนผู้ที่เคยมาอาศัยหรือเยือนกรุงฮานอย ที่นี่เป็นจุดนัดพบที่ปลอดภัย เป็นกันเองและน่าสนใจตลอดไป.