ห้องเรียนแห่งความอารี

Huong Lan,Thu Hang- VOV
Chia sẻ
(VOVworld)- ณ โรงเรียนมัธยมต้น อานเยือง แขวงเอียนฝุ เขตเตยโห่กรุงฮานอยมีการเปิดชั้นเรียนพิเศษมากว่า15ปีแล้ว ซึ่งนี่ไม่เหมือนชั้นเรียนทั่วไปเพราะนักเรียนที่เข้าร่วมนั้นมีอายุตั้งแต่6-30ปีและล้วนเป็นคนพิการส่วนครูผู้สอนนั้นมีอายุมากถึง80ปี

(VOVworld)- ณ โรงเรียนมัธยมต้น อานเยือง แขวงเอียนฝุ เขตเตยโห่กรุงฮานอยมีการเปิดชั้นเรียนพิเศษมากว่า15ปีแล้ว ซึ่งนี่ไม่เหมือนชั้นเรียนทั่วไปเพราะนักเรียนที่เข้าร่วมนั้นมีอายุตั้งแต่6-30ปีและล้วนเป็นคนพิการส่วนครูผู้สอนนั้นมีอายุมากถึง80ปี
ห้องเรียนแห่งความอารี - ảnh 1
ห้องเรียนแห่งความอารีของคุณครูโห่เฮืองนาม(internet)

ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว แดดหรือฝน คุณครูโห่เฮืองนามก็ยังคงทำหน้าที่เป็นครูสอนอาสาสมัครที่ห้องเรียนพิเศษนี้ครบ6วันต่อสัปดาห์โดยไม่เว้นแม้แต่วันเดียว ซึ่งในห้องเรียน นอกจากได้ยินเสียงของครูนามแล้วก็ยังมีเสียงร้องให้หรือเสียงหัวเราะแบบไร้เดียงสาของนักเรียนที่บกพร่องทางสมองและปัญญาโดยคุณครูได้บอกว่า ครูในโรงเรียนก็เสมือนแม่อีกคนดังนั้นเราต้องทำตัวให้พวกเขาได้รู้สึกถึงความใกล้ชิดเหมือนคุณแม่หรือคุณยายในครอบครัว การสอนให้คนที่มีความบกพร่องด้านสติปัญญานั้นต้องพยายามมากกว่าการสอนคนปกติ50เท่า ซึ่งดิฉันรักและสงสารเด็กเหล่านี้เหมือนลุกหลานของตัวเองเพราะพวกเขาเป็นเด็กด้อยโอกาสกว่าเด็กทั่วไป

นักเรียนของครูนามมีทั้งหมด15คนและต่างคนต่างมีฐานะที่น่าสงสารไม่เหมือนกัน  คนเล็กสุดอายุ8ขวบส่วนคนที่อายุมากที่สุดก็กว่า30ปีแล้วบางคนเป็นอัมพาต บกพร่องทางสมอง หูหนวก หรือเด็กออทิสติก บางคนไม่มีครอบครัวหรือพ่อแม่เสียหมดแล้วต้องอยู่กับปู่ย่าตายาย พวกเขาเหล่านี้ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่กล้าคบค้ากับไครแต่เมื่อได้เข้าร่วมชั้นเรียนของครูนามทุกคนเหมือนได้มีโอกาสสังสรรค์กับคนที่มีฐานะเดียวกันจึงรู้สึกมีความสุขมากขึ้น คุณ โด๋กิมถวี๊ อายุ22ปีเป็นอัมพาตครึ่งซีกไม่รู้หนังสือและไม่ได้รับความเอาใจใส่จากแม่เพราะท่านได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งภายหลังเข้าร่วมในชั้นเรียนดังกล่าวมา15ปีก็สามารถเรียนถึงระดับป.4โดยอ่านออก เขียนได้และคิดเลขได้รวดเร็วและเธอก็มีความมั่นใจในชีวิตมากขึ้นใน15ปีที่ผ่านมา หนูได้เรียนหนังสือกับคุณครูที่เมตตาอารีและรู้สึกซาบซึ้งใจมาก เดี๋ยวนี้หนูรู้จักคิดเงินเมื่อไปจ่ายตลาด หรือดูทีวีก็อ่านตัวหนังสือได้เข้าใจดี คุณพ่อหนูก็ดีใจมาก หนูรักคุณครูมากๆจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ ทั้งครอบครัวหนูสำนึกในบุญคุณของท่าน

ห้องเรียนแห่งความอารี - ảnh 2
ท่านรักหน้าที่เป็นผู้สร้างคนและรักเด็กๆทุกคนเหมือนลูกหลานของตน(internet)
ห้องเรียนแห่งความอารี - ảnh 3
นักเรียนของครูนามมีทั้งหมด15คนและต่างคนต่างมีฐานะที่น่าสงสารไม่เหมือนกัน(internet)

คุณครูโห่เฮืองนามเคยเป็นครูสอนในโรงเรียนประถมอานเยืองแขวงเอียนฝุ ซึ่งหลังจากเกษียรอายุราชการแล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ท่านไปจุดธูปรำลึกผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตใน12วันคืนที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดกรุงฮานอยในเขตชุมชนอาเยืองก็พบยายแก่คนหนึ่งบนหลังมีหลานพิการเป็นอัมพาตครึ่งตัวยืนอยู่ข้างทาง ซึ่งภาพอันน่าสงสารนั้นได้ทำให้เธอคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแบ่งเบาความสูญเสียในชีวิตของเด็กที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ ในที่สุดห้องเรียนแห่งความอารีของคุณครูนามก็เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการโดยได้รับความช่วยเหลือจากทางการท้องถิ่น โดยตั้งอยู่ในโรงเรียนมัธยมต้นอานเยือง ทุนที่ใช้สำหรับการซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนคุณนามออกเองโดยที่ครอบครัวเด็กไม่ต้องสบทบ ส่วนหลักสูตการสอนนั้นคุณครูก็ทำเองเพราะในชั้นเรียนนี้มีนักเรียนหลายระดับ บางคนเรียนคิดเลข บางคนหัดเขียนหรือหัดพูด ซึ่งแม้จะเป็นงานที่ลำบากต้องใช้สติปัญญาและความอดทนแต่คุณครูก็พยายามทำอย่างเต็มที่เพราะท่านรักหน้าที่เป็นผู้สร้างคนและรักเด็กๆทุกคนเหมือนลูกหลานของตน เมื่อกล่าวถึงความหมายของชั้นเรียนนี้ นาย ดั๋งก๊วกฮึง รองประธานคณะกรรมการประชาชนแขวงเอียนฝุเขตเตยโห่เผยว่าพวกเราได้โน้มน้าวให้ทางโรงเรียนสงวนห้องเรียน1ห้องให้คุณครูโห่เฮืองนามใช้เป็นสถานที่สอนหนังสือให้แก่เด็กพิการ โดยให้เด็กเหล่านี้ร่วมในบรรยากาศการเปิดปีการศึกษาใหม่เหมือนชั้นเรียนทั่วไป ซึ่งนับเป็นงานที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาจนมีผู้ปกครองหลายคนจากที่อื่นก็ส่งลูกมาเรียนที่นี่ด้วย

คุณครูนามได้แสดงความหวังว่า ทุกท้องถิ่นจะมีห้องเรียนแบบนี้เกิดขึ้นเพื่อให้เด็กพิการที่ด้อยโอกาสได้มีชีวิตที่ดีขึ้น และปีนี้แม้อายุจะมากแล้วและร่างกายไม่กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อนแต่ความรักและความเมตตาที่มีต่อเด็กพิการได้เป็นแรงบันดาลใจให้คุณครูนามฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างเพื่อเด็กทุกคน./.

Komentar