(VOVworld) – ความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างหุ้นส่วนญี่ปุ่นกับนครโฮจิมินห์ในหลายปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากโครงการพบปะสังสรรค์ การแลกเปลี่ยนนักนักศึกษาและครูอาจารย์ โครงการประสานงานและให้การช่วยเหลือพัฒนาการศึกษาและฝึกอบรมระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น ต่อไปนี้ขอเชิญท่านฟังบทความเรื่อง “ประสิทธิผลจากโครงการร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น”

ประสิทธิผลจากโครงการร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น (Photo Internet)

ในหลายปีมานี้ กลุ่มบริษัทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นได้ปฏิบัติโครงการผลักดันการพัฒนาสร้างบรรยากาศการศึกษาที่ทันสมัยและเป็นมิตรในโรงเรียนหลายแห่งทั่วนครโฮจิมินห์ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มบริษัท Ajinomoto ได้ช่วยสำนักงานการศึกษาและฝึกอบรมนครโฮจิมินห์ปฏิบัติโครงการ “มื้ออาหารในโรงเรียน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงโภชนาการสำหรับนักเรียนชั้นประถม ในกรอบของโครงการ โรงเรียนประถมศึกษาจึงจั๊กในเขต 11 ได้ก่อสร้างห้องครัวที่ทันสมัยตามรูปแบบของญี่ปุ่นด้วยเงินทุนก่อสร้าง 1.3 พันล้านด่งที่ได้รับอุปถัมภ์จากบริษัท Ajinomoto นายฟานวันจี๊ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาจึงจั๊กประเมินว่า “ ห้องครัวที่ทันสมัยนี้ได้ช่วยรักษาความปลอดภัยด้านอาหาร ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มที่และลดขั้นตอนการทำอาหารให้แก่แม่ครัว ซึ่งมีส่วนร่วมนำมื้ออาหารที่อร่อยและปลอดภัยมาให้แก่นักเรียน”

ความร่วมมือดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นในโครงการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีในระดับมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยการเกษตรและป่าไม้นครโฮจิมินห์ได้ร่วมมือกับโรงเรียนและสถาบันวิจัยญี่ปุ่นกว่า 20 แห่ง ซึ่งรวมทั้งมหาวิทยาลัยด้านการเกษตร เช่น โคเบะ คิวซู โอซาก้า ซากะ ฮิโรชิม่าและคานาซาวะ ส่วนมหาวิทยาลัยฮวาแซนได้ปฏิบัติโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับญี่ปุ่น โดยนักศึกษากว่า 70 คนของทั้งเวียดนามและญี่ปุ่นมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเก็บประสบการณ์จากการใช้ชีวิตทั้งในเวียดนามและญี่ปุ่น นางดิงลานแอง หัวหน้าหน่วยงานประชาสัมพันธ์ และสื่อสารมวลชนของมหาวิทยาลัยฮวาแซนเผยว่า “การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการศึกษาคือพื้นฐานในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น โดยหลังจากจบการศึกษา นักศึกษาเหล่านี้แม้จะทำงานในบริษัทและสำนักงานต่างๆ แต่จะเป็นผู้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

ในกรอบความร่วมมือระหว่างสองประเทศ การฝึกสอนอาชีพก็ถือเป็นด้านที่ประสบความสำเร็จ นายเจิ่นแทงหาย อธิการบดีวิทยาลัยเหวียนดงเผยว่า ตั้งแต่ปี 2014 ทางวิทยาลัยได้ร่วมมือกับวิทยาลัยรถยนต์ Nakanihon เมืองนาโกย่าของญี่ปุ่น โดยในเดือนเมษายนนี้ ทางวิทยาลัยจะส่งครูอาจารย์ไปฝึกงานด้านรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ Hybrid ที่วิทยาลัย Nakanihon และนักศึกษาของวิทยาลัยเหวียนดงจะไปศึกษาที่วิทยาลัยนี้เป็นเวลา 1.5 ปีในด้านวิศวกรรมยานยนต์ระดับสากล นอกจากนั้น ทางวิทยาลัยยังส่งเสริมความร่วมมือในการฝึกอบรมอาชีพพยาบาล การก่อสร้างและเครื่องจักรกลกับหุ้นส่วนญี่ปุ่น ซึ่งความร่วมมือรูปแบบนี้ได้ช่วยเปลี่ยนจิตสำนึกและวิธีการเรียนการสอนของวิทยาลัย นายเจิ่นแทงหายเผยว่า  “เราเลือกวิชาที่เรียนรู้ได้รวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการและมาตรฐานสากล ส่วนนักศึกษาก็มีการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเกี่ยวกับอาชีพที่ได้รับการฝึกอบรม สร้างบรรยากาศที่คึกคักมากขึ้นให้แก่การเรียนการสอน”

ควบคู่กับโครงการร่วมมือฝึกอบรมกับหุ้นส่วนญี่ปุ่น หน่วยงานการศึกษาของนครโฮจิมินห์ยังเน้นการสอนภาษาญี่ปุ่นให้แก่ประชาชน โดยประสานงานกับกองทุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมญี่ปุ่นจัดการฝึกอบรมให้แก่ครูอาจารย์ที่สอนภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนมัธยมศึกษาและมอบใบอนุญาตให้แก่ศูนย์สอนภาษาญี่ปุ่นกว่า 40 แห่ง

ความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างนครโฮจิมินห์กับหุ้นส่วนญี่ปุ่นได้สร้างประสิทธิภาพอย่างจริงจัง ซึ่งช่วยให้หน่วยงานการศึกษาของนครเข้าถึงรูปแบบที่ทันสมัยเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานระดับภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์มานานกว่า 40 ปี.