เพลง “ใจประสานใจเด็กในทั่วโลก” ที่เรากำลังได้ฟังนั้นเป็นเพลงเปิดงานคาร์นิวัลในพิธีปิด “ ASEAN+ Children Festival 2017” ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้แก่เด็กๆที่เข้าร่วมงาน

เวลาบ่าย 3 ท่ามกลางอุณหภูมิกว่า 40 องศาเซลเซียส บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์ลี้ท้ายโต๋ ที่กรุงฮานอย คุณ สิริกร กิตติธงโสภณ ในชุดไทยสไบเรียบสีม่วง ผมเกล้ามวยติดดอกไม้อย่างสวยงามกำลังฝึกรำไทยเพื่อร่วมกับเพื่อนๆแสดงในงานปิดเฟสติวัลครั้งนี้ เธอบอกว่า “เราแสดงรำไทย เป็นวัฒนธรรมของไทยที่โดดเด่น เป็นการแสดงที่สวยงาม มีการแต่งกายที่แตกต่างกับประเทศอื่นๆ ตอนนี้กำลังใส่ชุดบายศรีสู่ขวัญ เป็นชุดของภาคอีสานของประเทศไทย”

ก็เหมือนกับสิริกร คุณ Alexsa Ledistira จะแสดงท่ารำพื้นเมืองของอินโดนีเซียและเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก “หนูรู้สึกยินดีแต่ก็มีความตื่นเต้นเพราะอยากรำให้ดีที่สุด หนูจะคิดถึงเวียดนามและเพื่อนๆที่นี่มาก ในงานครั้งนี้หนูได้มีเพื่อนใหม่ที่มาจากหลายประเทศ เช่น เมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซียและประเทศต่างๆ พวกเขาเป็นมิตร ใจดี ตลกและน่ารักมาก”

ในชุดประจำชาติสีแดงของอินโดนีเซีย สวมชฎาแบบอินโดนีเซียสีเหลือง คุณ Alexsa Ledistira กับเพื่อน 6 คนในคณะกำลังมอบของที่ระลึกให้แก่เพื่อนๆในคณะอื่น ทุกคนรับของที่ระลึกพร้อมรอยยิ้มแห่งมิตรไมตรี ส่วนงานเฟสติวัลครั้งนี้ได้ช่วยให้ Alexsa Ledistira มีเพื่อนใหม่ที่สนิท “สำหรับหนูเอง เพื่อนหญิงจากกัมพูชาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเพราะเธอดูแลเอาใจใส่หนู เธอตลก เป็นมิตรและน่ารักมาก หนูได้เตรียมเครื่องดนตรีพื้นเมืองของอินโดนีเซีย เช่น ขลุ่ยของเมืองโบกอร์และของขวัญที่เต็มไปด้วยความเป็นอินโดนีเซีย เช่น ของขวัญที่มีรูปของ Borobudur และผ้าบาติก เพื่อมอบให้แก่เพื่อนๆ”

คณะอินโดนีเซีย

ในงานเฟสติวัลครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมต่างๆให้แก่เด็กๆกว่า 100 คนที่มาจาก 9 ประเทศอาเซียน + ซึ่งประกอบด้วย เวียดนาม ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา สาธารณรัฐเกาหลีและจีน โดยเด็กทุกคนได้เข้าร่วม “กระบวนการของการศึกษาค้นคว้า” ผ่านการเยือนโบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในกรุงฮานอย เช่น พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์เวียดนาม ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงวัฒนธรรมของบรรดาประเทศอาเซียน ชมการเชิดหุ่นกระบอกน้ำ ซึ่งเป็นศิลปะพื้นเมืองที่ปรากฎในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง ภาคเหนือเวียดนามเมื่อ 10 ศตวรรษก่อน โดยเฉพาะเด็กๆได้มีโอกาสศึกษาวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมงาน

“ในเฟสติวัลครั้งนี้ แต่ละประเทศมีการแสดงศิลปะที่แตกต่างกัน น่าสนใจมาก แต่หนูชอบการเต้นรำของคณะอินโดนีเซียมากที่สุดเพราะนอกจากมีชุดแต่งกายที่สวยงามและน่าทึ่งแล้ว ทางคณะยังมีการเต้นที่พร้อมกัน โดยเฉพาะสามารถแสดงอารมณ์ทางใบหน้าได้ดีมาก ทุกสิ่งทุกอย่างได้ทำให้สายตาของหนูจดจ้องไปที่การเต้นของพวกเขาตั้งแต่เริ่มจนจบการแสดง”

“หนูได้มีโอกาสเจอเพื่อนๆและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความร่วมมือ ความเป็นเอกภาพและสามัคคีสูง เนื่องจากสามารถดึงดูดการเข้าร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของแต่ละประเทศสมาชิก”

“ก็ถามว่าคิดถึงบ้านไหมมันก็มีนิดหน่อยแต่ว่าเวลาได้มาอยู่ที่เวียดนามได้มาเจอกับเพื่อนๆในอาเซียน มันได้ทำกิจกรรมด้วยกัน ได้คุยกันแล้วก็ได้เล่นกัน จึงไม่ได้คิดถึงมาก ก็อยากอยู่ต่อค่ะ”

แม้เฟสติวัลได้จบลงแล้วแต่ความเป็นเพื่อนข้ามชาติเพิ่งเริ่มขึ้น ทุกคนรีบแลกเบอร์ติดต่อกันและนัดพบกันใหม่ในเวลาข้างหน้า.