ครอบครัวเป็นรากฐานเพื่อสอนให้ลูกเป็นคนดีทำประโยชน์เพื่อสังคม

Thanh Tu- VOV
Chia sẻ

(VOVWORLD) -ครอบครัวของครู เลวันเก๋ยในแขวงอานกือ เขตนิงเกี่ยว นครเกิ่นเทอเป็นครอบครัวที่มีเกียรติประวัติเป็นครูที่รักษาธรรมเนียมปฏิบัติในครอบครัว   โดยลูกๆปฏิบัติตามคำสอนของพ่อแม่และประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะสมาชิกในครอบครัวรักและช่วยเหลือจุนเจือกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านซึ่ งครอบครัวของครูเลวันเก๋ยเป็นตัวอย่างในการสอนลูกให้เป็นคนดีและส่งเสริมความรักครอบครัว

ครอบครัวเป็นรากฐานเพื่อสอนให้ลูกเป็นคนดีทำประโยชน์เพื่อสังคม - ảnh 1ครู เลวันเก๋ยและภริยา 

แม้ตอนนี้จะอายุเกือบ 80 ปีแล้วแต่นาย เลวันเก๋ย อดีตครูของโรงเรียนประถมศึกษาตอนปลายโจววันเลียม นครเกิ่นเทอ ซึ่งเป็นผู้ที่เขียนบทความต่างๆเกี่ยวกับการเป็นครู ยังคงมีความจำที่ดี พวกเรามีโอกาสมาเยือนบ้านของครูเลวันเก๋ยและนาง เหงวียนแทงมายที่ถนนโซเวียดเหงะติ๋ง แขวงอานกือ เขตนิงเกี่ยว ซึ่งเราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขของครอบครัวครูเก๋ย ครูเก๋ยบอกว่า ก็เหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆ เขาและภรรยามีความประสงค์ว่า จะสอนลูกให้เป็นคนดีทำประโยชน์เพื่อสังคม การที่เป็นคนดีไม่เพียงแต่เรียนเก่งและประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะเท่านั้นหากยังต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบอีกด้วย  เมื่อกล่าวถึงแนวทางการอบรมลูกชายทั้ง 2 คน ครูเก๋ยเผยว่า ตัวเขาและภรรยามีความเห็นไปในทางเดียวกัน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ดูแลกันและสร้างบรรยากาศครอบครัวที่อบอุ่นให้แก่ลูก

“พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างให้แก่ลูก พ่อแม่ต้องรู้จักการใช้ความอดกลั้น ถ้าหากพ่อแม่ดุด่าลูก เมื่อลูกโตขึ้นก็อาจทำตามที่เราเคยทำกับเขา ดังนั้น พ่อแม่ต้องมีความสุขุม สร้างบรรยากาศแห่งความรักใคร่และความอบอุ่นในครอบครัวให้แก่ลูก”

ส่วนคุณ เหงวียนแทงมาย ภรรยาของครูเก๋ย ที่ปีนี้ก็อายุเกือบ 80 ปีแล้วเช่นกัน เผยว่า แม้จะแต่งงานมาแล้วเกือบ 50 ปีและประสบอุปสรรคมากมายแต่นายเก๋ยยังรักเธอสม่ำเสมอและดูแลลูกเป็นอย่างดี

“เรามีลูกชาย 2 คน ลูกคนหนึ่งกำลังสอนที่มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคนครโฮจิมินห์ ส่วนลูกคนที่สองกำลังทำงานที่มหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ ดิฉันหวังว่า ครอบครัวเราจะมีชีวิตที่มีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรง”

ครอบครัวเป็นรากฐานเพื่อสอนให้ลูกเป็นคนดีทำประโยชน์เพื่อสังคม - ảnh 2ครอบครัวของครูเก๋ย 

ในตลอดนับสิบปีที่ผ่านมา ครูเก๋ยและภรรยาไม่เพียงแต่ดูแลเอาใจใส่ให้ลูกได้ไปเรียนหนังสือเท่านั้น หากยังเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้แก่ลูกเมื่อประสบอุปสรรคในชีวิต ลูกชายสองคนของพวกเขาต่างประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะ   ปัจจุบัน นาย เลเหงวียนดวานยวี ลูกชายคนโตที่เรียนจบระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Montperllier ประเทศฝรั่งเศส รองหัวหน้าคณะวิชาเทคโนโลยีอาหารของมหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคนครโฮจิมินห์  ส่วนลูกชายคนเล็กก็เรียนจบระดับปริญญาจากเอกมหาวิทยาลัย Groningen ประเทศเนเธอร์แลนด์  รองหัวหน้าฝ่ายบริหารวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ ซึ่งแม้ลูกชาย 2 คนจะแต่งงานแล้วและงานยุ่งมาก แต่พวกเขาก็มาทักทายพ่อแม่เป็นประจำ   

นาย เลเหงวียนดวานเทย ลูกชายคนเล็กของครูเก๋ยเผยว่า บ้านของเขาใกล้บ้านของพ่อแม่ ดังนั้น เขาสามารถไปเยี่ยมเยือนและดูแลพ่อแม่ได้เป็นประจำ นาย โทยเผยว่า เมื่อโตขึ้นและได้ไปเรียนและไปทำงาน  พ่อแม่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่และให้กำลังใจให้แก่เขา ซึ่งเขารู้สึกโชคดีและมีความสุขมากๆ สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากพ่อแม่คือ ต้องทำงานอย่างเต็มที่และให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆ ซึ่งเขามีความภาคภูมิใจในตัวพ่อและจะปฏิบัติตามตัวอย่างของพ่อ

“พ่อของผมสอนว่า ในชีวิตสมรส ต้องให้ความเคารพและรักกันเหมือนวันที่เพิ่งแต่งงาน ต้องรักและดูแลภรรยาและเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก  โดยเฉพาะ  เมื่อมีลูกแล้ว สามีภรรยาต้องใกล้ชิดกันมากขึ้น พ่อของผมให้ความสำคัญต่อครอบครัวและการทานอาหารพร้อมหน้ากันยกเว้นถ้าหากติดธุระในต่างจังหวัด พ่อพยายามกลับบ้านเพื่อทานข้าวกับครอบครัว”

เพื่อนบ้านต่างให้ความเคารพครอบครัวครูเลวันเก๋ยเพราะครอบครัวครูเก๋ยเป็นครอบครัวที่มีลูกที่ได้รับปริญญาเอกและเป็นมิตรกับชาวบ้าน นาง ลี้ถิแทงเวียด แขวงอานกือ เขตนิงเกี่ยวได้เผยว่า ครอบครัวครูเก๋ยเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐ โดยเฉพาะ สมาชิกครอบครัวครูเก๋ยมีความสามัคคีและรักใคร่กัน

“ ครอบครัวครูเก๋ยให้การสนับสนุนกิจกรรมการส่งเสริมการศึกษาในท้องถิ่น ลูกชายและลูกสะใภ้ของครูเก๋ยต่างก็เป็นครู ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงระดับการศึกษาของครอบครัวเขา”

ครูเก๋ยเผยว่า ครอบครัวมีบทบาทที่สำคัญในการสร้างสรรค์บุคลิกภาพของลูกหลาน ดังนั้น ครอบครัวจึงให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรมและเกียรติประวัติที่ดีงามของครอบครัว ซึ่งเป็นตัวอย่างเพื่อให้ครอบครัวต่างๆปฏิบัติตาม.

 

Komentar