นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่ครอบครัวของนายเฉิ่นหงอกกวาง ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนหมายเลข 4 แขวงเบ๊นแถ่ง เขตที่ 1 ให้การต้อนรับสมาชิกของเรือเยาวชนอาเซียนและญี่ปุ่นตามโครงการโฮมสเตย์ สำหรับนายกวาง เยาวชนเรืออาเซียนและญี่ปุ่นที่เคยมาอยู่ในครอบครัวของเขา เขาถือว่าล้วนเป็นลูกบุญธรรมที่น่ารักและมีแต่ความทรงจำที่ดี แม้พวกเขาจะกลับไปแล้ว แต่ก็ยังคงติดต่อกับครอบครัวเป็นประจำด้วยความรักใคร่ที่นับวันมีมากขึ้น สำหรับนายกวางนั้น การเข้าร่วมโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เยาวชนชาวต่างชาติเห็นถึงคุณสมบัติที่ดีงามของคนเวียดนามและของชาวนครโฮจิมินห์ที่มีอารยธรรม ทันสมัยและอัธยาศัยดีต่อแขกที่มาเยือน “ผมอยากให้ชาวต่างชาติทราบว่า คนเวียดนามมีอัธยาศัยดี รักเพื่อนมนุษย์และรักสันติภาพ ผมพยายามให้การต้อนรับอย่างดีเพื่อให้พวกเขารู้สึกสนุกและคิดถึงเราเมื่อกลับประเทศ พอถึงตรุษเต๊ดประเพณี เยาวชนชาวลาวที่เคยพักกับผมจะส่งโปสการ์ดอวยพรมา ส่วนเยาชนชาวญี่ปุ่นก็เดินทางกลับมาเยี่ยมเรา”

ในระหว่างอยู่ในนครโฮจิมินห์ ลูกบุญธรรมสองคนที่มาจากอินโดนีเซียและญี่ปุ่นได้รับการดูแลจากนางเฉิ่นถิเตวี๊ยดเหื่อง แขวง 11 เขต 3 เหมือนลูกแท้ ๆ ของเธอ เธอมักจะไปตลาดในช่วงเช้าตรู่ทุกๆวันเพื่อเตรียมอาหารให้เพราะเธอคิดว่า มื้ออาหารเป็นสิ่งที่สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมของคนเวียดนาม เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่พร้อมหน้ากันและสร้างความผูกพันใกล้ชิดระหว่างสมาชิกในครอบครัว พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงสังคมของคนเวียดนาม แม้ทำอาหารที่ง่าย ๆ แต่เธอก็พิถีพิถันพยายามทำให้ถูกปากสมาชิกใหม่สองคนในครอบครัว เธอเผยว่า  “วันนี้ดิฉันทราบว่า จะมีเยาวชนชาวมุสลิมมา ดิฉันจึงเตรียมอาหารที่ทำจากปลาและกุ้งและทำขนมต่างๆ เช่น ขนมแบ่วและขนมเหนิม ส่วนในช่วงเช้า ดิฉันจะพาพวกเขาไปชมตลาดเพื่อศึกษาวัฒนธรรมของคนเวียดนาม ปีนี้ ดิฉันจะพาพวกเขาไปดูตลาดเขตตะวันตกภาคใต้ ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สุดในเขตนี้”

นอกจากครอบครัวนายเฉิ่นหงอกกวางและครอบครัวนางเฉิ่นถิเตวี๊ยดเหื่องแล้ว ในปีนี้ ในนครโฮจิมินห์ยังมีกว่า 170 ครอบครัวได้ลงทะเบียนโครงการโฮมสเตย์รับตัวแทนจากเรือเยาวชนอาเซียนและญี่ปุ่น 300 คน ซึ่งเยาวชนต่างได้รับการดูแลอย่างดีจากพ่อแม่บุญธรรม ไม่ว่าจะเป็นที่พัก การท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ นาย ณัทภพ จากประเทศไทยเผยว่า หลังการเข้าร่วมกิจกรรมบนเรือ การที่ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรมในโฮจิมินห์ได้ช่วยให้เขามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวัฒนธรรมและคนเวียดนามที่อ่อนโยนและให้การต้อนรับขับสู้ ซึ่งได้ช่วยสร้างความทรงจำที่ดีงามให้แก่พวกเขา “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเวียดนาม คือนครโฮจิมินห์ ผมชอบมาก ครอบครัวของคุณลุงกวางได้ให้การดูแลผมและเพื่อนเป็นอย่างดีและมอบไมตรีจิตมิตรภาพให้เหมือนเป็นลูกๆของเขา แม้ได้อยู่ที่นี่ไม่กี่วันเท่านั้นแต่ผมก็รู้สึกรักครอบครัวของคุณลุง เมื่อกลับประเทศผมจะโพสต์ความทรงจำนี้บน Facebook และจะติดต่อกับครอบครัวอยู่เสมอ”

แม้โครงการโฮมสเตย์ในปีนี้มีขึ้นเป็นเวลาแค่สองวันหนึ่งคืนเท่านั้น แต่ก็สามารถช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีงามเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่สันติภาพ ผสมผสานพร้อมกับครอบครัวที่อบอุ่นและอัธยาศัยดีต่อแขกที่มาเยือนของประชาชาติเวียดนาม.