บริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าในเมืองฮาลองรับคนพิการมาทำงาน

เวียดนามมีคนพิการประมาณ 7ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 7ของประชากรทั่วประเทศ ในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา รัฐเวียดนามได้ให้ความสนใจสงวนแหล่งพลังต่างๆและมีแนวทาง นโยบายด้านสังคมสงเคราะห์เพื่อค้ำประกันสิทธิต่างๆของคนพิการและส่งเสริมการเข้าร่วมของคนพิการในกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น จากการปฏิบัตินโยบายดูแลคนพิการ จนถึงปัจจุบัน แต่ละเดือน มีคนพิการกว่า 2ล้านคนได้รับเงินสวัสดิการ รวมมูลค่า 7ล้านล้านด่ง ควบคู่กับการสนับสนุนและดูแลสุขภาพให้แก่คนพิการ ยังมีการจัดทำนโยบายและกลไกช่วยเหลือการฝึกสอนอาชีพและสร้างงานทำเพื่อช่วยให้คนพิการยกระดับคุณภาพชีวิตและผลักดันการปรับตัวเข้ากับชุมชน ในหลายปีมานี้ รัฐได้มีนโยบายให้สิทธิพิเศษในการฝึกสอนอาชีพและการสร้างงานทำให้แก่คนพิการ เช่น การฝึกสอนอาชีพให้แก่คนพิการในเขตชนบท โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย การสนับสนุนที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนการแนะนำงานทำให้แก่คนพิการ แต่อย่างไรก็ตาม  การฝึกสอนอาชีพและสร้างงานทำให้แก่คนพิการยังประสบอุปสรรคต่างๆ นาง เหงวียนถิลานแอง ผู้อำนวยการศูนย์การพัฒนาชุมชนได้ให้ข้อสังเกตว่า“หนึ่งคือ ยังมีการฝึกสอนอาชีพที่ไม่เหมาะสมกับความต้องการของคนพิการและท้องถิ่น สองคือการพัฒนาถนนหนทางและระบบคมนาคมขนส่งยังไม่ตอบสนองความต้องการของคนพิการ”

นอกจากนี้ ข้อจำกัดในการรักษาสุขภาพ โอกาสการฝึกสอนอาชีพและมีงานทำที่เหมาะสมก็ถือเป็นอุปสรรคของคนพิการเพราะการทำงานในแขนงต่างๆต้องการแรงงานที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีทักษะด้านวิชาชีพในขณะที่คนพิการส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกอบรม ทักษะวิชาชีพเพื่อตอบสนองการทำงาน ดังนั้น การหางานทำให้แก่คนพิการจึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย คุณ เหงวียนถิเยวียน ผู้พิการที่กำลังฝึกอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าในกรุงฮานอยได้เผยว่า เธอเคยไปหางานหลายที่ แต่ก็ประสบความล้มเหลวเนื่องจากเหตุผลต่างๆ“ดิฉันเคยเรียนการปักผ้า แต่ก็ไม่สามารถหางานได้เพราะอาชีพนี้ไม่ต้องการแรงงานเยอะและดิฉันก็ไม่ค่อยแข็งแรงจึงไม่ได้รับเข้าทำงาน ดังนั้น ดิฉันจึงกลับมาฝึกอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า”

การเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศได้สร้างโอกาสงานทำให้แก่คนพิการ

นาง เหงวียนถิลานแอง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชุมชนได้เผยว่า ต้องปฏิบัตินโยบายและมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงเพื่อแก้ไขปัญหางานทำให้แก่คนพิการ“หนึ่งคือ ต้องตรวจสอบและปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับผู้ใช้แรงงานที่เป็นคนพิการ สองคือต้องจัดทำและปฏิบัตินโยบายสำหรับคนพิการอย่างเคร่งครัดเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่คนพิการ นอกจากนี้ สถานประกอบการก็ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดเกี่ยวกับการใช้แรงงานคนพิการ ส่วนสำหรับคนพิการ ควรพยายามแสวงหาโอกาสเพื่อพัฒนาตนเองและพยายามฟันฝ่าอุปรรคต่างๆ”

เพื่อสามารถให้โอกาสและใช้ศักยภาพของคนพิการที่สามารถทำงานได้ นอกเหนือจากนโยบายด้านสวัสดิการสังคมแล้ว ยังต้องมีมาตรการส่งเสริมและสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การทำงานของคนพิการ อีกทั้ง ต้องผลักดันการประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับความรู้ของประชาชนเกี่ยวกับศักยภาพการทำงานของคนพิการถ้าหากมีงานทำที่เหมาะสม ตลอดจนต้องผลักดันการฝึกอบรมและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับงานทำเพื่อตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการและตลาด เพื่อให้ผู้พิการมีความมั่นใจในการทำงานและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาสังคม.