นาย เหงวียนวันมิง ต้องดูแลลูกชายคนโตที่มีภาวะผิดปรกติทางร่างกาย |
นาย เหงวียนวันมิง อาศัยที่เมืองดงห่า จังหวัดกว๋างจิเป็นทหารอาสาที่เคลื่อนไหวในประเทศลาว ซึ่งถูกสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน ซึ่งผลกระทบนี้ก็ได้ถูกส่งต่อมายังลูกชายคนโตของเขาที่อายุกว่า 20 ปีที่มีภาวะผิดปรกติทางร่างกาย ทำให้คุณ เหงวียนวันมิงและภรรยาต้องดูแลลูกชาย ไม่มีงานทำที่มั่นคง และประสบอุปสรรคมากมาย นาย มิงมีความฝันว่า อยากเป็นเจ้าของโรงผลิตวัสดุการก่อสร้างขนาดเล็กเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้น จากความเข้าใจความปรารถนาของนาย มิง สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินสาขาจังหวัดกว๋างจิได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินมูลค่า 10 ล้านด่งเพื่อช่วยนาย มิง สร้างฐานะ โดยนาย มิงได้ใช้เงินดังกล่าวไปซื้อวัสดุ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อผลิตอุปกรณ์ก่อสร้าง
“ทางการทุกระดับ เช่น สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ครอบครัวของผมเพื่อสร้างฐานะ ในเวลาที่ผ่านมา ฐานะของครอบครัวเราดีขึ้น ลูกได้ไปโรงเรียน ผมมีความประสงค์ว่า ทั้งสังคมจะร่วมกันช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินให้หลุดพ้นจากความยากจน”
ส่วนนาง เยืองถิบิ่ง อาศัยที่ตำบลเตินหลิบ อำเภอกรงบุก จังหวัดดั๊กลัก ซึ่งก็เป็นผู้ที่ถูกสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน โดยมีอัตราการบาดเจ็บร้อยละ 80 และไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้น นาง บิ่งต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากพี่สาวคือนาง เยืองถิลาน แต่ทั้งคู่ไม่มีงานทำ รายได้ที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตมาจากผักที่ปลูกเองในสวนเล็ก ๆ ชีวิตประสบอุปสรรคมากมาย หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินสาขาอำเภอกรงบุกและสำนักงานแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมประจำอำเภอฯ เมื่อปี 2018 พี่สาวนางบิ่งได้รับบ้านเอื้ออาทร มูลค่า 40 ล้านด่ง ต่อจากนั้น ทางสมาคมฯได้รณรงค์ผู้ที่มีใจกุศลให้ความช่วยเหลือด้านวัวพันธุ์ มูลค่า 15 ล้านด่ง ความช่วยเหลือนี้ ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวนางบิ่งดีขึ้น
“เมื่อก่อนนี้ บ้านของเราชำรุดทรุดโทรม แต่ตอนนี้พวกเรามีบ้านใหม่ นอกจากนี้ ทางอำเภอฯยังมอบสมุดออมสินและวัวพันธุ์ การเลี้ยงวัวสร้างรายได้ให้แก่พวกเราและช่วยฟันฝ่าอุปสรรค”
นาง เยืองถิลาน |
ครอบครัวนาย เหงวียนวันมิงและพี่สาวนาง เยืองถิบิ่งเป็น 2 ในผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินกว่า 3 ล้านคนในทั่วประเทศที่ได้รับความสนใจและช่วยเหลือจากสังคม โดยเฉพาะ สมาคมผู้เคราะห์จากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินทุกระดับในหลายปีที่ผ่านมา บนเจตนารมณ์ “สามัคคี-ความรับผิดชอบ-เพื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน” สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินทุกระดับได้ช่วยเหลือและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ทั้งด้านวัตถุและจิตใจให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินผ่านกิจกรรมต่างๆที่มีความหมาย เช่น เยือนและมอบของขวัญให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน ก่อสร้างและซ่อมแซมบ้านให้แก่สมาชิกสมาคมฯที่มีฐานะยากจน มอบสมุดออมสิน เป็นต้น นาย เลวันยัง อุปนายกสมาคมคนพิการ ผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินและปกป้องสิทธิของเด็กจังหวัดกว๋างจิได้เผยว่า นอกจากการช่วยเหลือเพื่อสร้างอาชีพแล้ว ทางสมาคมฯยังให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการฝึกสอนอาชีพที่เหมาะสมกับผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินแต่ละคน
“ ทุกปี ทางสมาคมฯร่วมกับท้องถิ่นต่างๆมอบของขวัญให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินที่มีฐานะยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในการสร้างฐานะ เพิ่มรายได้และปรับตัวเข้ากับสังคม”
ผ่านปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินทุกระดับได้กลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินเพื่อช่วยให้พวกเขาฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิต นาย โงซองห่าว นายกสมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินจังหวัดดั๊กลักได้เผยว่า
“ พวกเราพยายามให้ความช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มที่ประสบอุปสรรคอย่างทันการณ์ ผลักดันการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษาเพื่อให้หน่วยงานทุกระดับและประชาชนตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนต่อผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินเพื่อระดมการช่วยเหลือ หาทางปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินให้ดีขึ้น”
การช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินให้มีงานทำที่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งใน “กุญแจ”เพื่อสร้างงานทำที่มั่นคงและยาวนานให้แก่พวกเขา นี่เป็นกิจกรรมด้านมนุษยธรรม ตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในเวลาที่จะถึง สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินทุกระดับและสำนักงานที่เกี่ยวข้องได้มีแผนการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างรายได้ที่มั่นคง.