แอ๊ป เครื่องใช้ที่ผูกพันกับสตรีชนเผ่าไทในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือเวียดนาม

Duc Anh-To Tuan/VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ทุกครั้งที่ไป เก็บหน่อไม้ในป่าหรือไปทำไร่ทำนา ผู้หญิงเผ่าไทไม่ลืมที่จะนำแอ๊ปหรือก็คือกะเหล็บติดตัวไปด้วย กะเหล็บเป็นภาชนะทำจากไม้ไผ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของเผ่าไทและช่วยเสริมความงามของผู้หญิงเผ่าไทในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม
แอ๊ป เครื่องใช้ที่ผูกพันกับสตรีชนเผ่าไทในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือเวียดนาม - ảnh 1แอ๊ป เครื่องใช้ที่ผูกพันกับสตรีชนเผ่าไทในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือเวียดนาม 

สำหรับคนเผ่าไท แต่ก่อนจนถึงทุกวันนี้ การไปเก็บหน่อไม้ เก็บผักผลไม้ ในป่าและตามลำธารเพื่อเป็นอาหารให้ครอบครัวเป็นกิจวัตรประจำวันของผู้หญิง  เพราะฉะนั้นเวลาที่ออกจากบ้านไปทำไร่หรือผู้หญิงเผ่าไทในชนบทและบนเขา จะต้องสะพายกะเหล็บและมีมีดติดตัวไปด้วย  การที่ผู้หญิงสะพายกะเหล็บจะแสดงให้เห็นถึงความขยันหมั่นเพียรและเก่งงานบ้านงานเรือน  ผู้หญิงคนไหนยิ่งหาหน่อไม้ ผักผลไม้ได้มากเท่าไร ยิ่งแสดงว่าเธอเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่เก่ง สามารถดูแลเรื่องอาหารการกินของครอบครัวได้  นางลอ ถิ เฟิ้ง ที่บ้านก๊า ตำบลเชียงอัน เทศบาลเมืองเซิน ลา เล่าว่า “ตั้งแต่ตอนเด็กที่ตามแม่เข้าป่าไปหาฟืน เก็บหน่อไม้ ขุดมัน ดิฉันก็รู้จักกะเหล็บของเผ่าไทเราแล้ว  เวลาจะไปไร่ก็ไม่ลืมที่จะหากะเหล็บมาสะพาย มันกลายเป็นนิสัยของผู้หญิงเผ่าไทในชนบท        กะเหล็บเป็นภาชนะที่ขาดไม่ได้ ใช้งานสะดวก มีประโยชน์มาก”

ผู้ชายเผ่าไทรุ่นแล้วรุ่นเล่าต่างเก่งงานจักสาน และสามารถทำของใช้ประจำวันด้วยตัวเอง  กะเหล็บสานด้วยไม้ไผ่เป็นผลงานจากฝีมือผู้ชายเผ่าไททำให้แก่ผู้หญิงในครอบครัวของพวกเขา

กะเหล็บมีสองแบบ ได้แก่ กะเหล็บที่สานเป็นเส้นห่าง เรียกว่า กะเหล็บซา และกะเหล็บที่สานเป็นเส้นถี่ เรียกว่ากะเหล็บถี่  ปากกะเหล็บกว้าง ไม่มีฝา สะดวกต่อการใช้งาน มีสายสะพายบ่า  กะเหล็บแต่ละแบบใช้งานต่างกัน มีขนาดและรูปทรงไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับผู้สานและวัตถุประสงค์การใช้งาน

แอ๊ป เครื่องใช้ที่ผูกพันกับสตรีชนเผ่าไทในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือเวียดนาม - ảnh 2

การสานกะเหล็บ ผู้ชายเผ่าไทจะต้องเตรียมไม้ไผ่ที่มีความเหนียว ไม่โดนปลวกกิน ที่สำคัญต้องไม่ใช่ไม้ไผ่ที่ตัดจากต้นไม่มียอดเพราะไผ่แบบนี้นำไปสานแล้วก็จะถูกปลวกกินภายหลัง  เมื่อได้ลำต้นไผ่มาแล้วจะตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 1.2 เมตร (หากปล้องไผ่สั้น ท่อนไผ่ยาว 1.2 เมตรจะประมาณ 3 ปล้อง แต่หากปล้องยาวก็ตัดประมาณ 2 ปล้อง)  ไผ่ปล้องสั้นจะสานได้กะเหล็บใบเล็ก ส่วนไผ่ปล้องยาวจะสามารถสานกะเหล็บใบใหญ่ได้  การจักตอกต้องใช้ฝีมือที่ละเอียดรอบคอบ ทำอย่างไรให้เส้นออกมาเสมอกัน บาง เรียบ และยิ่งได้ตรงเนื้อแกนของลำต้นยิ่งดี เพราะจะได้งานสานที่ทนทาน และสวยงามกว่า  ระหว่างสานต้องประพรมน้ำไปด้วยเพื่อให้เส้นตอกนิ่ม ไม่แข็งกระด้าง ไม่หักง่าย  เมื่อสานเสร็จแล้วให้แขวนกะเหล็บไว้ตามผนังห้องครัวสักระยะหนึ่งจะทำให้กะเหล็บทนทานขึ้น จึงค่อยนำไปใช้  นายต่อง วัน เฮียะ ผู้เฒ่าเผ่าไทที่เก่งงานจักสานของหมู่บ้าน หม่อง ตำบลฮั่วล่า เทศบาลเมืองเซิน ลา เล่าว่า“กะเหล็บของผู้หญิงเผ่าไทมีมาแต่เนิ่นนาน แต่การสานกะเหล็บกลับเป็นงานของผู้ชาย  เพราะฉะนั้น เมื่อโตเป็นหนุ่ม ผู้ชายเผ่าไทต้องเรียนสานกะเหล็บให้ครอบครัวตัวเอง  ส่วนชายที่เป็นผู้ใหญ่ มีฝีมือแล้วยังสานกะเหล็บไปขายด้วย  อย่างผมเองทำงานไม่ได้พักเลยก็ต้องใช้เวลา 2 วันถึงทำกะเหล็บซาเสร็จ 1 ใบ ถ้าสาน  กะเหล็บถี่ต้องใช้เวลา 3 วันถึงจะเสร็จ”

ผู้หญิงเผ่าไทไม่เพียงใช้กะเหล็บเมื่อเข้าป่าเก็บหน่อไม้ ใช้ใส่ข้าวเหนียวและกับข้าวเวลาไปไร่ไปนา แต่ยังสะพายกะเหล็บไปตลาด ไม่ต่างจากตะกร้าหรือถุงหิ้วของผู้หญิงในพื้นที่ราบลุ่มและในเมืองใหญ่  เวลาเดินจ่ายตลาดจะซื้ออะไรก็ใส่กะเหล็บสะพายบ่าไว้ ทั้งสะดวก ใช้งานได้ทนทาน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้ากับประเพณีของชนเผ่าไท ดังนั้นในบ้านคนเผ่าไทต้องมีกะเหล็บไว้ใช้งานเสมอ

ปัจจุบัน กะเหล็บถูกนำมาขายตามตลาดต่างๆ ในเขตที่ราบสูงภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และยังได้รับการจัดแสดง แนะนำในงานแสดงสินค้า ส่วนพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา ได้ใช้ในการแสดงศิลปะพื้นบ้าน และการประกวดชุดประจำเผ่า  แม้ว่ากะเหล็บจะเป็นเพียงภาชนะที่ใช้ในชีวิตประจำวันแต่ก็มีความสำคัญช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่สวยงามของผู้หญิงเผ่าไทในภาคตะวันตกเฉียงเหนือเวียดนาม.

Komentar