ชาวม้งได้เล่าต่อกันว่า ไม่มีใครรู้ว่าการเล่นที่เรียกว่า แด๊งเอี๊ยน หรือการตีลูกขนไก่นั้นมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะเป็นการละเล่นที่แพร่หลายในชุมชนชนเผ่าต่างๆที่อาศัยในเขตเขาสูงมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะชุมชนเผ่าม้งในเขตกว๋านบะ จังหวัดห่ายาง ซึ่งตามประเพณีนั้นแม้จะยุ่งงานการเกษตรทำไรทำนา ทอผ้า เดินป่ามาตลอดทั้งปี แต่เมื่อถึงช่วงจัดงานเทศกาลต่างๆโดยเฉพาะตรุษเต๊ตปีใหม่คนทั้งหมู่บ้านก็เตรียมไม้ตีและลูกขนไก่สวยๆสำหรับตัวเองเพื่อไปเล่นกันกับเพื่อนๆ โดยตอนแรกๆจะใช้มือตี ต่อมาก็มีการคิดค้นใช้แผ่นไม้ตี โดยดูจากลักษณะการเล่นก็คล้ายกับกีฬาแบดมินตัน ที่ใช้ไม้ตีไปมาระหว่างผู้เล่นสองคนเพื่อไม่ให้ลูกขนไก่ตกพื้นซึ่งเป็นการเล่นเพื่อความแข็งแรงโดยไม่ใช่การแข่งขัน คุณ หว่างหงอกซวน จากตำบลแทงเวิน อำเภอกว๋านบะ จังหวัด ห่ายาง กล่าวว่า "ชาวม้งที่ห่ายางมีการละเล่นแบบพื้นบ้านหลายอย่าง เช่นการเล่นทูลู การตีไม้ การแข่งชักเย่อ รวมถึงการเล่น ตีลูกขนไก่ เเต่ที่สนุกที่สุดและใครๆก็เล่นได้คือการตีลูกขนไก่"
ชาวม้งตีลูกขนไก่ด้วยแผ่นไม้ที่ทำจากไม้เลี่ยนหรือไม้สน ที่เบาแต่แข็งแรงมาก ในระหว่างการตีเมื่อลูกขนไก่กระทบกับไม้ตีก็จะเกิดเสียงก๊อกๆฟังสนุกมาก การเล่นตีลูกขนไก่นี้ยังแสดงให้เห็นถึงความคล่องแคล่ว การจับจังหวะและความยืดหยุ่นของมือของผู้เล่น คุณเวืองถิซิม ชาวบ้านแทงเวิน เผยว่า เมื่อถึงวันงานเทศกาลหรือวันขึ้นปีใหม่ประเพณี นอกจากเตรียมเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกแล้ว เธอกับสามียังทำไม้ตีและลูกขนไก่ที่สวยที่สุดสำหรับครอบครัวเพื่อใช้เล่นสนุกในช่วงปีใหม่ เกี่ยวกับวิธีการทำไม้ตีและลูกขนไก่ คุณซิม บอกว่า"เพื่อให้ลูกขนไก่บินสูงๆและหมุนให้สวยงามจะต้องใช้ขนปีกไก่งามประมาณ5-7ขนปักเข้าท่อนไผ่เล็ก การทำไม้ตีก็ต้องใช้แผ่นไม้ขนาดความยาว35-40เซ็นติเมตร กว้าง25-30เซ็นติเมตร ปลายด้านหนึ่งเหลาให้เป็นด้ามถือ อีกด้านเหลาให้แบนสำหรับตี
|
การเล่นตีขนลูกไก่นั้นจะจัดในพื้นที่โล่งและกว้าง หนุ่มสาวแต่ละคู่ในระหว่างการเล่นจะส่งสายตาแสดงความรู้สึกกัน ยิ้มให้กันและใบหน้าแก้มอมชมพูดูน่ารักมาก ซึ่งจากรูปแบบการเล่นได้สะท้อนให้เห็นว่าการละเล่นพื้นบ้านนี้นอกจากจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคนในหมู่บ้าน ยังเป็นการสานความรักระหว่างหนุ่มสาวอีกด้วย โดยชาวบ้านเชื่อว่าหากคู่ไหนตีขนลูกไก่ได้นานกว่า 10 นาทีแล้วยังไม่ตกพื้นก็เป็นการแสดงว่าทั้งคู่ถูกลิขิตมาให้เป็นคู่กัน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มมีการพบปะสังสรรค์เพื่อทำความรู้จักกันและตัดสินใจใช้ชีวิตผูกพันกันเป็นฝั่งเป็นฝา คุณเวืองถิซิม เผยอีกว่า"ทั้งเด็กทั้งผู้สูงอายุหรือหนุ่มสาวในชุมชนสามารถเล่นตีลูกขนไก่ได้หมดเพราะมันสนุกเพลิดเพลินมาก ช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจกันและส่งเสริมความสามัคคีในช่วงต้อนรับปีใหม่"
เมื่อมาเที่ยวเมืองห่ายางในช่วงตรุษเต๊ตคุณจะได้ฟังเสียงก๊อกๆของลูกขนไก่ก็เหมือนเป็นการเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมสนุกกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นและร่วมกันรักษาคุณค่าทางวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวม้งในเขตที่ราบสูงหินให้คงอยู่ต่อไป.