เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนต่อไป

Vinh Phong - VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) - รายงานของรัฐบาลต่อสภาแห่งชาติในนัดเปิดการประชุมครั้งที่ 5 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 เมื่อเช้าวันที่ 21 พฤษภาคมเกี่ยวกับการประเมินและเสริมเพิ่มเติมผลการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมปี 2017 สถานการณ์ช่วงต้นปี 2018  หน้าที่และมาตรการหลักในเวลาที่จะถึงได้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเวียดนามกำลังมีการพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ รัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นได้มีมาตรการแก้ไขเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รวมทั้งป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน
เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนต่อไป - ảnh 1การประชุมครั้งที่ 5 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 

รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ – สังคมในปี 2017 สถานการณ์ในต้นปี 2018 หน้าที่และมาตรการหลักในเวลาที่จะถึงของรองนายกรัฐมนตรีเจื่องหว่าบิ่งห์ระบุว่า หน่วยงานทุกระดับต้องพยายามปฏิบัติหน้าที่และมาตรการต่างๆเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ – สังคมต่างๆที่วางไว้

ในปี 2017 เป้าหมายทางเศรษฐกิจ – สังคมของประเทศ 7เป้าหมายจาก13เป้าหมายได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ อัตราการขยายตัวของจีดีพีบรรลุร้อยละ 6.81 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 21 และความได้เปรียบดุลการค้าอยู่ที่ 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ปี 2018 มาจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจมหภาคยังคงมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอเฉลี่ยใน 4 เดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.34 นโยบายการเงินได้รับการบริหารอย่างเป็นฝ่ายรุกและคล่องตัว ซึ่งสามารถช่วยเหลือองค์การสินเชื่อที่กำลังประสบความยากลำบากได้อย่างทันการณ์ ค้ำประกันสภาพคล่องและรักษาความปลอดภัยของทั้งระบบ ดอกเบี้ยมีเสถียรภาพ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพ อัตราสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 6 หมื่น 3 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่างบิ่งห์ย้ำว่า            “อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีในไตรมาสแรกอยู่ที่ร้อยละ 7.38 สูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่ายินดีคือ เศรษฐกิจทั้ง 3 ภาคได้มีการขยายตัวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผลผลิตการเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.05 การเกษตรและการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 โดยเฉพาะหน่วยงานแปรรูปและประดิษฐ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.56 การบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 ปริมาณการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและวัสดุการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การส่งออกเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงต้นปี 2018 มีใบสั่งซื้อสินค้าจากประเทศต่างๆในระดับที่น่ายินดี ส่วนมูลค่าการค้าใน 4 เดือนที่ผ่านมาได้บรรลุเกือบ 7 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสินค้าการเกษตรเปิดกว้างมากขึ้น มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 ซึ่งส่วนใหญ่คือการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรเพื่อสนับสนุนการผลิตและส่งออก กิจกรรมการค้าชายแดนและมาตรการป้องกันตนเองตามคำมั่นระหว่างประเทศได้รับการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ได้เปรียบดุลการค้า 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญต่อการปรับปรุงระบบการชำระให้ดีขึ้น”

รายงานของรัฐบาลยังระบุอย่างชัดเจนว่า บรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปฏิรูประเบียบราชการมีความก้าวหน้า ดัชนีขีดความสามารถใน การแข่งขันระดับจังหวัดหรือPCI สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 รัฐบาลและท้องถิ่นต่างๆได้ปรับปรุงกลไก นโยบาย แก้ไขอุปสรรค โดยเฉพาะข้อกำหนดต่างๆเกี่ยวกับการลงทุน การก่อสร้างและสิ่งแวดล้อม ใน 4 เดือนที่ผ่านมา มีการจัดตั้งสถานประกอบการใหม่กว่า 4 หมื่น 1 พันแห่งและมีสถานประกอบการที่ฟื้นฟูการประกอบธุรกิจอีก 1 หมื่น 1 พันแห่ง รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียนกว่า 1พัน 1 ร้อยล้านล้านด่ง

ปรับปรุงความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อและผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นับตั้งแต่ปี 2018 ภายใต้แนวทาง “ระเบียบวินัย บริสุทธิ์ซื่อสัตย์ ปฏิบัติ มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ” กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นได้ประกาศโครงการและแผนปฏิบัติการ จัดทำแผนการขยายตัวตามไตรมาสสำหรับแต่ละหน่วยงานและแต่ละด้าน รัฐบาลปฏิบัตินโยบายการเงินและนโยบายงบประมาณแผ่นดินอย่างพร้อมเพรียง มีประสิทธิภาพและเหมาะสมเพื่อค้ำประกันเป้าหมายการปรับปรุงความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมอัตราการเพิ่มดัชนีราคาผู้บริโภคประมาณร้อยละ 4 และผลักดันการขยายตัวของจีดีพีให้บรรลุกว่าร้อยละ 6.7 พยายามลดดอกเบี้ย โดยเฉพาะในด้านที่ให้สิทธิพิเศษ ปรับปรุงตลาดเงินตราต่างประเทศให้มีเสถียรภาพ เพิ่มการสำรองเงินตราต่างประเทศ ควบคุมสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมพร้อมกับการยกระดับคุณภาพและควบคุมด้านที่มีความเสี่ยงสูง รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์เผยว่า            “ต้องปฏิบัติตามมติของรัฐบาลว่าด้วยมาตรการผลักดันการส่งออก การส่งเสริมการค้า การขยายตลาด การลดขั้นตอนระเบียบราชการ โดยเฉพาะในการตรวจสอบเชิงวิชาการ ต้องเป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติมาตรการปกป้องตนเองด้านการค้าและมีกำแพงทางเทคนิกที่สอดคล้องกับคำมั่นระหว่างประเทศ เพิ่มการบริหาร ควบคุมการนำเข้า ปรับปรุงสถานการณ์เสียเปรียบดุลการค้ากับหุ้นส่วนและตลาดที่ได้เปรียบดุลการค้า พยายามสร้างความสมดุลในการนำเข้าและส่งออกอย่างยั่งยืน พัฒนาตลาดภายในประเทศ สร้างสรรค์ระบบจำหน่ายให้มีความพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ กระจายสินค้าไปยังตลาดชนบท เขตเขาและเขตที่ห่างไกลความเจริญ”

รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์ยืนยันว่า รัฐบาลยืนหยัดปฏิบัติมติต่างๆของพรรค สภาแห่งชาติและรัฐบาลเกี่ยวกับก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ ปรับปรุงโครงสร้างของเศรษฐกิจพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นฝ่ายรุกในการเตรียมพร้อมเงื่อนไขที่จำเป็นต่างๆ ใช้โอกาสของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ตรวจสอบและปรังปรุงยุทธศาสตร์ แผนการ กลไกและนโยบายการปฏิรูปโครงสร้างของหน่วยงานอุตสาหกรรมและการก่อสร้างให้มีความสมบูรณ์ พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตเพื่อสนับสนุนการเกษตรและอุตสาหกรรมพร้อมกับการเชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่าของกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ผลักดันขั้นตอนการก่อสร้างและเปิดกิจการอุตสาหกรรมหลักๆ ลดค่าใช้จ่าย สร้างความหลากหลายให้แก่สินค้า เพิ่มผลผลิตและผลักดันการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายการค้า พยายามเพิ่มอัตราการขยายตัวจีดีพีของภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างให้บรรลุร้อยละ 7.7 ในปี 2018.

Komentar