การประชุม COP –26 มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ปี 2021 เป็นช่วงที่ประเทศต่างๆที่เข้าร่วมกรอบอนุสัญญาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติต้องส่งข้อเสนอการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดถึงคณะเลขาธิการ ดังนั้น เป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือ ประเทศต่างๆต้องบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกของแต่ละประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสในปลายศตวรรษนี้เมื่อเทียบกับช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศอย่างยั่งยืนและตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2030

โอกาสเพื่อให้โลกปฏิบัติงาน

การประชุม COP26  มีขึ้นหลังจากถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลา 1 ปีเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  แถมยังแบกรับแรงกดดันที่ต้องพยายามผลักดันให้กิจกรรมการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสามารถบรรลุความตกลงที่สำคัญท่ามกลางวิกฤตพลังงานโลก  โดยมีการตั้ง4 เป้าหมายหลักในการประชุมครั้งนี้คือปกป้องเป้าหมายการไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯในโลกผ่านการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสในกลางศตวรรษนี้  ปรับตัวเพื่อปกป้องชุมชนและธรรชาติ บรรดาประเทศที่พัฒนาต้องปฏิบัติตามคำมั่นเกี่ยวกับการสงวนเงินอย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อมประจำปี  ร่วมกันจัดทำหลักการเพื่อให้ข้อตกลงปารีสสามารถแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศผ่านความร่วมมือระหว่างรัฐบาล สถานประกอบการและสังคม   4 เป้าหมายของ  COP26  จะได้รับการบรรลุถ้าหากมีความร่วมมือของประเทศต่างๆ

เวียดนามเสนอความคิดริเริ่มมต่างๆในการประชุม COP26  

จากการเป็นประเทศกำลังพัฒนาและปฏิบัติกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมในตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการมีส่วนร่วมกับประชาคมโลก เวียดนามได้ส่งข้อเสนอการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดหรือ NDC ถึงสหประชาชาติเมื่อปี 2015และระบุปัญหานี้ในกฎหมายเพื่อปฏิบัติอย่างจริงจัง  เมื่อเทียบกับเอกสาร   NDC ที่ได้ยื่นเสนอ  ข้อเสนอการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดฉบับการปรับปรุงปี 2020 ได้เพิ่มการลดปริมาณก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก  โดยจนถึงปี 2030 จากแหล่งพลังภายในประเทศ เวียดนามให้คำมั่นที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกร้อยละ 9 และร้อยละ 27 ถ้าหากได้รับความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ  เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเวียดนามเห็นว่า  คำมั่นต่างๆของเวียดนามสามารถปฏิบัติได้จริง

“เป้าหมายนี้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้านั้น แต่ผมคิดว่า เวียดนามยังคงสามารถตั้งเป้าหมายได้สูงขึ้นอีก ผมเชื่อมั่นว่า เวียดนามสามารถปฏิบัติเป้าหมายการลดปริมาณก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจำถึงร้อยละ 27 ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมทั้งเป้าหมายที่สูงกว่า   บรรดาผู้แทนเวียดนามจะมีความคิดริเริ่มใหม่และคำมั่นใหม่ในการประชุมครั้งนี้ ผมหวังว่า จะเห็นเป้าหมายใหม่ของเวียดนาม”

ในเงื่อนไขการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดฉบับปรับปรุงของเวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามสูงสุดของเวียดนามในการมีส่วนร่วมต่อการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  จนถึงขณะนี้ เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เพิ่มการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในข้อเสนอ NDC ของตน

นับตั้งแต่การประชุม COP21 เมื่อปี 2015 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้อัพเดทและปรับปรุงคำมั่นว่าด้วยการปฏิบัติของตน นาย ฝามวันเติ๊น รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสังกัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมได้ยืนยันว่า ก่อนที่จะปฏิบัติคำมั่นของตน เวียดนามได้พยายามสร้างพื้นฐานที่ดีเพื่อมีส่วนร่วมต่อการประชุม COP26

“เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นฝ่ายรุกในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หลังจากที่ข้อตกลงปารีสได้รับการอนุมัติเมื่อปี 2015 รัฐบาลได้มอบหน้าที่ให้แก่กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจัดทำแผนการปฏิบัติข้อตกลงปารีส  นอกจากแผนการปฏิบัติข้อตกลงปารีสในช่วงปี 2016 - 2030 พวกเราได้ระบุเนื้อหาคำมั่นการปฏิบัติข้อตกลงปารีสในกฎหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฉบับแก้ไข โดยได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ในการประชุม COP26 สามารถยืนยันได้ว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกที่ระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการปฏิบัติข้อตกลงปารีสในกฎหมายเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตาม”

จากการเข้าร่วมการประชุม COP -26 เวียดนามได้ยืนยันถึงความตั้งใจในการผลักดันการปฏิบัติคำมั่นระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในปัญหาระดับโลกที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประชาคมโลก นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามผลักดันความร่วมมือกับหุ้นส่วน องค์การระหว่างประเทศและหุ้นส่วนพหุภาคี แสวงหาโอกาสการช่วยเหลือด้านการเงินและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวียดนาม.