การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 13 มกราคมปี 2020 (Photo: TTXVN |
ในช่วงครึ่งปีแรก มีการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศใหญ่ เกิดการปะทะในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและเอเชีย การปะทะระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ความไร้เสถียรภาพในประเทศลิเบีย เยเมน ซูดาน เอธิโอเปีย อัฟกานิสถานและเมียนมาร์ ควบคู่กันนั้นคือความท้าทายต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงด้านอาหารและแหล่งน้ำ เป็นต้น โดยเฉพาะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆตระหนักได้ดีถึงความต้องการในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง การผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศ ปฏิบัติการพหุภาคีเพื่อรับมือความท้าทายนี้
ในสภาวการณ์ดังกล่าว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ส่งเสริมบทบาทการเป็นองค์กรสำคัญที่มีความรับผิดชอบในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ โดยได้อนุมัติเอกสาร 63 ฉบับ หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคต่างๆและปัญหาร้อนระอุของโลก
เวียดนามเป็นฝ่ายรุกและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆอย่างเข้มแข็ง
ในฐานะสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020 -2021 เวียดนามได้ส่งเสริมบทบาท เป็นฝ่ายรุกและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการที่เวียดนามประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 2 ในเดือนเมษายน นาย ดั๋งหว่างยาง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า การประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศใหญ่ถือเป็นความท้าทายต่อทุกประเทศที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งเวียดนาม แต่ด้วยจุดยืนและหลักการที่เสมอต้นเสมอปลายของแนวทางการต่างประเทศ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการเสนอและผลักดันความคิดริเริ่มและปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในเดือนที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
“จากการเป็นประเทศที่เข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของประชาคมโลก สหประชาชาติและอาเซียนและประสบการณ์ของประเทศที่ใฝ่สันติภาพ มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อคุณค่าของสันติภาพ ความสูญเสียและความปวดร้าวจากสงครามและการปะทะ เวียดนามสนับสนุนความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและประสิทธิภาพระหว่างสหประชาชาติกับองค์การต่างๆในภูมิภาคในการป้องกันและแก้ไขการปะทะ ซึ่งมาตรการป้องกันการปะทะอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดคือการให้ความเคารพกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล โดยเฉพาะหลักการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยของประเทศ ไม่แทรกแซงกิจการภายใน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆต้องได้รับการปฏิบัติบนพื้นฐานของการสร้างความไว้วางใจ การแก้ไขปัญหาการพิพาทผ่านการสนทนาและมาตรการที่สันติ ไม่ใช้กำลังหรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง สันติภาพและการพัฒนาเดินพร้อมกัน ดังนั้น นอกจากการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ต้องมีวิธีการเข้าถึงโดยรวม ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อปัญหาการพัฒนาอย่างยั่งยืนของทุกประเทศและทุกภูมิภาค”
จุดยืนและทัศนะนี้ของเวียดนามได้รับการสนับสนุนจากบรรดาประเทศสมาชิก ในวาระที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติได้พิจารณาแก้ไขทุกปัญหาที่เวียดนามนำเสนอ โดยอนุมัติเอกสาร 10 ฉบับด้วยเสียงสนับสนุนทั้งหมด 15 เสียง
นาย ดั๋งหว่างยาง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (Photo: กระทรวงการต่างประเทศ) |
ส่งเสริมผลสำเร็จที่ได้บรรลุ
จากการสานต่อผลงานที่ได้บรรลุใน 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่บัดนี้จนถึงการหมดวาระสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปลายปี 2021 โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกยังมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ เวียดนามจะส่งเสริมจิตใจความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมต่อกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติ โดยเฉพาะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พยายามร่วมกับประเทศต่างๆในการแสวงหามาตรการต่างๆเพื่อธำรงสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ นี่เป็นเป้าหมายร่วมในกระบวนการนี้ สิ่งที่สำคัญคือต้องทำอย่างไรเพื่อให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีความสามัคคีและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ นาย โด๋หุ่งเวียด อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศสังกัดกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า
“เวียดนามจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติบทบาทนี้เพื่อค้ำประกันความมีภาวะวิสัย มีความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหาที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างประเทศสมาชิก ค้ำประกันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีเสียงพูดเดียวกัน ส่งเสริมความสามัคคีและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการแก้ไขความท้าทายร่วม”
ในเวลาที่จะถึง เวียดนามจะผลักดันการประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลและพยากรณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคและโลก มุ่งสร้างความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในช่วงปี 2020 -2021 แสดงให้เห็นถึงส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อกิจกรรมต่างๆของประชาคมโลก ยกระดับชื่อเสียงและสถานะของประเทศผลักดันความร่วมมือกับประเทศและหุ้นส่วนต่างๆบนเจตนารมณ์ “ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพอย่างยั่งยืน”.