ปี 2025 เป็นปีที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อเวียดนาม เป็นปีแห่งการเร่งสร้างก้าวกระโดด เพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายที่วางไว้และเป็นปีสุดท้ายของการปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025 และมีการเตรียมพร้อมเสริมสร้างปัจจัยขั้นพื้นฐานต่างๆ เพื่อให้ประเทศเข้าสู่ยุคใหม่อย่างมั่นใจ – ยุคแห่งการผงาด ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติ เวียดนามได้ฟันฝ่ามรสุม ความยากลำบากเพื่อเตรียมพร้อมสร้างก้าวกระโดดในปี 2025

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และนาย Jensen Huang ประธานและซีอีโอของเครือบริษัท NVIDIA เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเวียดนามกับเครือบริษัท NVIDIA (VNA)

เวียดนาม: จุดหมายของการเลือกเฟ้น 

“วันนี้เป็นวันแห่งการกำเนิดของ NVIDIA Vietnam! ขอขอบคุณที่ต้อนรับพวกเรามาสู่เวียดนามและทำให้เวียดนามเป็นบ้านของ NVIDIA ยินดีต้อนรับสู่งานเลี้ยงวันแห่งการก่อตั้งของเรา” (เสียงปรบมือ)

นี่คือคำประกาศของนาย Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและ CEO ของเครือบริษัท NVIDIA ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ณ กรุงฮานอยในขณะที่เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามของศูนย์วิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) – VRDC ร่วมกับศูนย์ข้อมูล AI ในเวียดนามผู้นำ NVIDIA ยืนยันว่า “เราเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะเป็นบ้านหลังที่สองของ NVIDIA และเป็นศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ NVIDIA”

ทางเครือบริษัท NVIDIA ยังให้คำมั่นที่จะย้ายโรงงานในห่วงโซ่อุปทานการผลิตมายังเวียดนาม โดยใช้เงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็น “แรงผลักดัน” ที่สำคัญที่จะช่วยให้เวียดนามมีก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีในเวลาที่จะถึง นาย Raymond Teh รองประธานเครือบริษัท NVIDIA เผยว่า 

“ผู้บริหารของเครือบริษัท NVIDIA เห็นว่า ชาวเวียดนามมีจิตใจและวัฒนธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างเข้มแข็ง เวียดนามมีแหล่งบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์เป็นจำนวนมาก ดังนั้น NVIDIA ให้คำมั่นที่จะทำให้เวียดนามกลายเป็นบ้านหลังที่สองของเครือบริษัทในเอเชีย NVIDIA มีความประสงค์ที่จะลงทุนศูนย์วิจัย R&D ในเวียดนามเพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถและทักษะด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ของเวียดนาม”

บรรดาผู้แทนเข้าร่วมพิธีประกาศข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเวียดนามกับเครือบริษัท NVIDIA (VGP)

ก่อน NVIDIA เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นาย Tim Cook CEO ผู้บริหารของเครือบริษัท Apple ประเทศสหรัฐได้เดินทางมาเวียดนาม และในเดือนธันวาคม Google ได้ประกาศว่า บริษัท Google Vietnam จะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนปี 2025 ส่วนเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา SpaceX ของมหาเศรษฐี Elon Musk ได้ประกาศแผนการลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม ในขณะที่ เครือบริษัทเทคโนโลยี Meta ของมหาเศรษฐี Mark Zuckerberg ยังได้ประกาศหลายครั้งเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในเวียดนาม นาย Nick Clegg ประธานฝ่ายดูแลความสัมพันธ์ระดับโลกของเครือบริษัท Meta ได้เผยว่า 

“เครือบริษัท Meta มีแผนการที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานในเวียดนาม ทางเครือบริษัท Meta เชื่อมั่นว่า เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนของเรา เครือบริษัท Meta มีความประสงค์ที่จะสนับสนุนเวียดนามให้กลายเป็นประเทศชั้นนำในการพัฒนา AI ในระดับภูมิภาคและโลก”

Marvell ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบชิปที่มีมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐของสหรัฐกำลังเร่งขยายการประกอบธุรกิจในเวียดนาม นาย เลกวางด่าม ประธานบริษัท Marvell Vietnam เผยว่า 

“การก่อตั้งสำนักงาน Marvell Vietnam ในนครดานังถือเป็นนิมิตหมายที่สำคัญอันดับแรก สำหรับการพัฒนาในอนาคต คำมั่นของบริษัท Marvell Vietnam ที่ให้ไว้ต่อนครดานังและเวียดนามคือการพัฒนาในระยะยาว”

นาย Dan Martin ที่ปรึกษาธุรกิจระหว่างประเทศของบริษัท Dezan Shira & Associates ประเมินว่า 

“ผมคิดว่า การลงทุนเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่ออนาคตของเวียดนาม การที่เครือบริษัท NVIDA จัดตั้งศูนย์ R&D, Google จัดตั้งบริษัทและ Foxconn ขยายโรงงานในเวียดนามถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เวียดนามไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการผลิตเท่านั้น หากกำลังพัฒนาเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่สร้างสรรค์อีกด้วย” 

ด้วยการมีภูมิรัฐศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ใกล้ตลาดจีนและอินเดียทำให้การแลกเปลี่ยนการค้ามีความสะดวก การเมืองมีเสถียรภาพทางบวกกับการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นมิตรของผู้นำเวียดนามได้ช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเมื่อเปิดทำธุรกิจในเวียดนาม นอกจากนี้ นโยบายดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ด้วยการให้สิทธิพิเศษในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ตลาดที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคน  เต็มไปด้วยศักยภาพในการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี และความมุ่งมั่นในระดับสูงของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลได้ทำให้เวียดนามเป็นจุดมุ่งหมายในทางเลือกใหม่เพื่อการลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก.

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ตอบกระทู้ถามของผู้แทนสภาแห่งชาติในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 8 สมัยที่ 15 เมื่อบ่ายวันที่ 12 พฤศจิกายน (VGP)

ปรับเปลี่ยนสู่การขยายตัวแบบก้าวกระโดดอย่างเข้มแข็ง

ปีนี้ เวียดนามต้องเร่งสร้างก้าวกระโดดเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่วางไว้ โดยเวียดนามได้พร้อมปรับเปลี่ยนสู่การขยายตัวแบบก้าวกระโดดและมุ่งสู่การเติบโตที่เลขสองหลัก

ในมาตรการสร้างก้าวกระโดด ต้องย้ำถึงการปรับปรุงกลไกเพื่อระดมแหล่งพลังทั้งภายในและต่างประเทศสำหรับลงทุนในโครงการแบบก้าวกระโดดเพื่อการพัฒนา โดยในการตอบกระทู้ถามผู้แทนสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า

“เราให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการกระตุ้นการขยายตัว โดยต้องระดมทุกแหล่งพลังจากทั้งภาครัฐ ประชาชน สังคม ความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน การลงทุนจากต่างประเทศ ปรับปรุงกลไกเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนา ซึ่งต้องสร้างก้าวกระโดดในการปรับปรุงกลไกและนโยบายต่างๆ”

เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิมและนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ตอบกระทู้ถามของผู้แทนสภาแห่งชาติในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 8 สมัยที่ 15 เมื่อบ่ายวันที่ 12 พฤศจิกายน (VGP)

ทั้งนี้  เพื่อย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาด ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่แนวคิดและการปฏิบัติของทางการปกครองทุกระดับ โดยผู้นำพรรคและรัฐได้ชี้ชัดถึงปัญหาและข้อบกพร่องของระบบการเมือง เช่น เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้เร่งรัดให้เปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการบริหารชี้นำของพรรคเพื่อยกระดับประสิทธิภาพกิจกรรมของทั้งระบบการเมือง ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานในระบบการเมืองให้กระทัดรัด เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ ซึ่งนี่ถือเป็นการปฏิวัติที่นำไปสู่การพัฒนารุดหน้าต่อไป  เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้ย้ำว่า

“นี่คือช่วงเวลาที่สุกงอมเพื่อทำการปฏิวัติเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานในระบบการเมืองให้กระทัดรัดและมีประสิทธิภาพ โดยเราได้เตรียมพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง มุ่งมั่นและก้าวเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาดของประชาชาติด้วยความมั่นใจ”

ส่วนประธานประเทศ เลืองเกื่อง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมินและผู้บริหารระดับท้องถิ่นได้ชี้นำการส่งเสริมการปรับปรุงกลไกและโครงสร้างหน่วยงานในระบบการเมืองให้กระทัดรัด ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านต่างๆ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การนำประเทศก้าวรุดหน้าต่อไป

ความเชื่อมั่นในอนาคตของประเทศ

เวียดนามมุ่งมั่นสร้างหัวเลี้ยวหัวต่อและเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่ออนาคตที่สดใสมากขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ ความเข้าใจ การปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อการพัฒนา ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชามติทั้งภายในและต่างประเทศ

“โครงสร้างพื้นฐานได้รับการปรับปรุง เช่น ถนนไฮเวย์นับวันเพิ่มขึ้นและเวียดนามมีโครงการด้านการคมนาคมใหญ่ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของเวียดนาม นอกจากนี้ เวียดนามยังปฏิรูประเบียบราชการและปรับปรุงกลไกอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อธำรงและกระตุ้นการขยายตัวของเวียดนามในปี 2025”

“หลังจากเข้ามาลงทุนในเวียดนามเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เราได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการพัฒนาของประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะในไม่กี่ปีมานี้ สถานประกอบการจีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นได้ลงทุนในโครงการใหญ่ๆในกรุงฮานอย ซึ่งเวียดนามมีความได้เปรียบมากมายในการพัฒนาเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในภูมิภาค ทางบริษัทของเราจะขยายและเพิ่มเงินลงทุนในเวียดนาม”

“เวียดนามมีประชากรวัยทำงานอยู่ในระดับสูง มีทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยี สถานประกอบการสตาร์ทอัพที่คล่องตัวและการสนับสนุนจากรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ โดยรัฐบาลเวียดนามมียุทธศาสตร์การพัฒนา AI ระดับชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งคาดว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามจะขยายตัวในระดับที่น่าประทับใจ”

ทั้งนี้   เวียดนามมุ่งมั่นพัฒนารุดหน้าและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ซึ่งการปรับตัวให้เข้ากับเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้จะช่วยยกระดับสถานะของเวียดนามให้สูงเด่นมากขึ้นบนเวทีโลก.