รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท เลมิงฮวาน (baoquocte.vn) |
การปรับตัวและความคล่องตัว
หลายประเทศทั่วโลกได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ กำหนดแนวทางปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับโรคระบาด ซึ่งแนวทางนี้ทำให้วัคซีนและยากลายเป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาวและเป็นเครื่องมือชี้ขาด หลายประเทศกำลังพยายามมุ่งสู่การอยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยมองโควิด-19ว่าเป็น "โรคระบาดตามฤดูกาล" โดยใช้มาตรการลดการแพร่กระจายของเชื้อโดยไม่ทำการล็อกดาวน์ นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กลายเป็น “0” ได้อย่างสมบูรณ์
ถึงกระนั้น แนวทางของเวียดนามก็ยังคงดำเนินตามมาตรการ 5K + วัคซีน + เทคโนโลยี อีกทั้ง ปรับยุทธศาสตร์ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในระยะใหม่บนเจตนารมณ์ "เกิดการแพร่ระบาดที่ไหนก็สามารถขจัดการระบาดได้โดยสิ้นเชิง" โดยจังหวัดที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดจะยังคงปฏิบัติการป้องกัน ทำการตรวจหาเชื้อทำการคักกรอง แบ่งเขต แยกตัวอย่างทันการณ์และรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กันนั้น คือการทยอยเปิดการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจในยุคชีวิตวิถีใหม่ มีการปรับเปลี่ยนในเชิงบวกเพื่อจัดตั้งรูปแบบการอยู่ร่วมกับการระบาดอย่างปลอดภัย เช่นการให้การศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัย การเดินทางที่ปลอดภัยและการผลิตที่ปลอดภัย
ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการเปิดด้านและแขนงอาชีพที่สำคัญ
จนถึงขณะนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นไปไม่ได้ที่สถานประกอบการทุกแห่งจะสามารถกลับมาประกอบธุรกิจหรือกลับมาประกอบธุรกิจได้เหมือนก่อนเกิดการระบาด ดังนั้นต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการฟื้นฟูสถานประกอบการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและมีบทบาทในการค้ำประกันขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
จากการตระหนักว่า โควิด-19 จะยังคงแพร่ระบาดเป็นเวลานาน อุตสาหกรรมการเกษตรจึง จัดทำรูปแบบการจำหน่ายสินค้าเกษตร "อยู่ร่วมกับโรคระบาด" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท เลมิงฮวานได้เผยว่า
“ทางกระทรวงฯจะจัดทำฐานข้อมูลที่อัพเดตเป็นประจำสำหรับระบบจำหน่ายเพื่อทราบว่า จังหวัดไหนกำลังจะเก็บเกี่ยวผลผลิตอะไร มีปริมาณเท่าไหร่เพื่อให้ระบบการจำหน่ายคลังสินค้าและการขนส่งสามารถดำเนินการในเชิงรุก เราจะจัดทำรูปแบบการขนส่งจากสวนไปสู่ระบบการจำหน่ายด้วย”
จากการกำหนดว่า การเกษตรเป็นจุดแข็ง กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมกำลังเป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติมาตรการสนับสนุนท้องถิ่นต่างๆเพื่อผลักดันการจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตรในตลาดภายในประเทศ อีกทั้งขยายการส่งออกไปยังตลาดที่มีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ ตามความเห็นของนาย โด๋ทั้งหาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ทางกระทรวงฯได้ตรวจสอบ วิเคราะห์และประเมินตลาดที่มีศักยภาพสำหรับกลุ่มสินค้าและผลิตภัณฑ์การเกษตร ป่าไม้และสัต์น้ำในการส่งออกผลิตภัณฑ์หลักของเวียดนาม 9 รายการในภูมิภาคและตลาดส่งออกที่สำคัญ 14 แห่ง โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงตลาดซึ่งเป็นหุ้นส่วนของเวียดนามในข้อตกลงเอฟทีเอ
บนพื้นฐานการตรวจสอบดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีสั่งให้คณะกรรมการประชาชนจังหวัดและนครส่วนกลางอาศัยการวิเคราะห์ การประเมินศักยภาพตลาดส่งออกแล้วมอบหมายหน้าที่ให้แก่สำนักงาน หน่วยงานเพื่อแนะนำและให้การสนับสนุนสถานประกอบการในท้องถิ่นในการกลับไปทำการผลิต ฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานการส่งออกในท้องถิ่นเพื่อใช้โอกาสจากตลาดส่งออกในเวลาที่จะถึง เร่งจัดทำและปฏิบัติตั้งแต่ปลายปี 2021 แผนการส่งเสริมการส่งออกสำหรับช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อค้ำประกันความเป็นฝ่ายรุก
นาย โด๋ทั้งหาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม (danviet.vn) |
ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ห่วงโซ่คุณค่า เสาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจต้องได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนั้น ต้องมีนโยบายสนับสนุน เช่น การขยายเวลาหรือเลื่อนการชำระ ภาษีและค่าธรรมเนียม สถานประกอบการทุกแห่งต้องมีแผนการระยะสั้นและในระยะยาวเพื่อฟื้นฟูอย่างเหมาะสม นาย เลก๊วกแยวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้แสดงความเห็นว่า สถานประกอบการควรจัดทำแผนการพัฒนาปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดในเชิงรุก
“เราจะควบคุมการแพร่ระบาดโดยเร็ว เราต้องกลับไปสู่ชีวิตปกติ เราต้องเตรียมตัวด้วยจิตใจและปฏิบัติการ ในยามลำบาก เรายังมองเห็นถึงโอกาสในตลาด ปัจจุบัน ตลาดที่มีความต้องการสินค้าเวียดนามมีมากมายซึ่งได้รับการควบคุมและฟื้นฟูสู่การผลิต เช่น สหรัฐและประเทศในสหภาพยุโรป ต้องเห็นถึงโอกาสในเวลาที่จะถึง โดยเฉพาะต้องเตรียมฟื้นฟูขั้นพื้นฐานและความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ นี่เป็นโอกาสเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการบริหารของสถานประกอบการแต่ละแห่ง ในระยะยาว ไม่เพียงแต่ฟื้นฟูเท่านั้น หากต้องปรับตัวให้เข้ากับโรคระบาดเพื่อพัฒนาอีกด้วย”
ตามรายงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียหรือADB ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กันยายน องค์กรนี้ยังคงประเมินในเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเวียดนามในระยะกลางและระยะยาว การเติบโตสามารถได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ การเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ การขยายการดำเนินงานไปยังตลาดส่งออกใหม่จากข้อตกลงทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมโรคระบาดและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนทั้งในปีนี้และปีหน้า.