สื่อต่างชาติได้ชื่นชมเวียดนามที่ได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างรวดเร็วและทันการณ์จนได้ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และได้มีการอ้างความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีน้อยและยังไม่มีผู้เสียชีวิต เวียดนามกำลังมีความได้เปรียบต่างๆในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเร็วกว่าประเทศอื่นๆ
จุดเด่นที่น่าประทับใจต่อนักลงทุน
บรรดาที่ปรึกษาของบริษัทต่างชาติที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการย้ายฐานการผลิตได้แสดงความคิดเห็นว่า ความสำเร็จของเวียดนามในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ได้ช่วยให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อเวียดนามมากขึ้น นาย Fred Burke หุ้นส่วนฝ่ายบริหารของบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศ Baker McKenzie ให้ข้อสังเกตว่า มาตรการที่ทันการณ์ของเวียดนามได้ช่วยให้ผู้ประกอบการต่างชาติไม่ต้องกังวลมากเกินไปและรู้สึกปลอดภัยกว่าถ้าหากอยู่ในเวียดนาม นาย Michael Sieburg หุ้นส่วนของบริษัทให้คำปรึกษา YCP Solidiance ที่ดูแลย่านเอเชียยืนยันว่า ถ้าหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสายตาของบรรดานักลงทุน เวียดนามเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจมากกว่าประเทศอื่น ส่วนตัวแทนของบริษัทพัฒนาร่วมทุน Kizuna ซึ่งกำลังก่อสร้างโรงงานต่างๆในเวียดนามได้พยากรณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะสนใจเข้ามาลงทุนในเวียดนามช่วงหลังการระบาดผ่านพ้นไป ทางบริษัทจึงเร่งก่อสร้างโรงงานขนาด 100,000 ตารางเมตรในภาคใต้เวียดนามให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้เพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในเวลาข้างหน้า
สิ่งที่น่าสนใจคือ แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สถานประกอบการที่มีโรงงานในประเทศจีนได้หันมาสนใจตลาดเวียดนาม ควบคู่กันนั้น การย้ายเงินลงทุนมายังบรรดาประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศเวียดนามได้เปิดโอกาสใหม่ๆให้แก่เวียดนาม นาย เหงียนวันแอ๊ง ผู้บริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมเวินจุง 2 จังหวัดบั๊กยางเผยว่า ในบางวัน มีสถานประกอบการต่างชาติถึง 10 แห่งมาขอข้อมูลและขอทำการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเวินจุง 2 “ในการมาขอข้อมูลที่นิคมอุตสาหกรรม นักลงทุนต่างชาติมักจะให้ความสนใจถึงนโยบายการลงทุนของจังหวัด ว่ามีความโปร่งใสและสะดวกหรือไม่ นอกจากนี้พวกเขาก็สนใจเรื่องสถานที่และโครงสร้างพื้นฐานของเขตนิคมอุตสาหกรรมว่าสามารถตอบสนองความต้องการหรือไม่ เรื่องที่ 3 คือ ในจังหวัดมีแหล่งบุคลากรที่หลากหลายและมีคุณภาพหรือไม่”
ใช้โอกาสเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่อไป
ความสำเร็จในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ได้ช่วยยืนยันความได้เปรียบในการรักษาเสถียรภาพ ความปลอดภัยและบรรยากาศการลงทุนที่อำนวยความสะดวกของเวียดนามมากขึ้น ซึ่งหนังสือพิมพ์ Nikkei Asian Review ให้ข้อสังเกตว่า การย้ายแหล่งเงินลงทุนมายังบรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งเวียดนามนั้นเป็นแนวโน้มที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ในรายงานเกี่ยวกับศักยภาพของเศรษฐกิจโลกปี 2020 ที่ประกาศเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทาง IMF ได้ให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพการขยายตัวที่ดีที่สุดในกลุ่มอาเซียน” ส่วนธนาคารโลกมองว่า เวียดนามสามารถรับมือได้ดีในด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ และเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นาย Adam Sitkoff ผู้อำนวยการหอการค้าสหรัฐหรือ AmCham ได้ยืนยันว่า เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในเอเชียต่อไป ส่วนนาย Hirai Shinji หัวหน้าตัวแทนของ JETRO สาขานครโฮจิมินห์ประเมินว่า เมื่อเวียดนามควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดี เงินลงทุน FDI รวมทั้งของสถานประกอบการญี่ปุ่นจะไหลเข้าเวียดนามต่อไป ส่วนหนังสือพิมพ์ ChosunBiz ของเครือบริษัทสื่อสารมวลชนที่มีชื่อเสียงของสาธารณรัฐเกาหลี Chosun ให้ข้อสังเกตว่า ความตั้งใจของรัฐบาลเวียดนามในการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในทั่วโลก พร้อมทั้งอ้างกรณีของบริษัท Samsung ว่า ทางบริษัทต้องปิดโรงงานในประเทศต่างๆทั่วโลกแต่ยังคงเปิดในประเทศเวียดนาม หนังสือฉบับนี้ยังเสนอข่าวว่าจะมีการผลิตหูฟังไร้สายประมาณ 3 ถึง 4 ล้านชิ้นในเวียดนามในไตรมาสที่สองของปี 2020 ส่วนสำนักข่าว Bloomberg ได้ให้ข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจเวียดนามยังคงเป็นจุดมุ่งหมายของนักลงทุนต่างชาติต่อไป โดยสามารถเห็นได้ชัดจากยอดเงินลงทุนจดทะเบียนใน 4 เดือนแรกของปี 2020 ที่ได้บรรลุกว่า 1หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า จะพยายามให้ GDP ของปี 2020 บรรลุร้อยละ 5 ส่วนองค์กร Fitch Ratings ได้พยากรณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวสูงขึ้นภายในปี 2021 โดย GDP จะบรรลุประมาณร้อยละ 7.3.