นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในฟอรั่ม (VNA)

ตามข้อมูลจากทบวงสถิติ แหล่งเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ที่จดทะเบียนใหม่ใน 5 เดือนแรกของปี 2022 ได้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 แต่ยอดเงินทุนเพิ่มเติมและเงินทุนสำหรับซื้อหุ้นได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แหล่งเงินลงทุนเน้นในด้านคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ   เทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นด้านที่กำลังได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

ดึงดูดเงินทุนจำนวนมากเข้าสู่ด้านต่างๆ

นครดานังในภาคกลางเวียดนามถือว่าเป็นนครที่มีความโดดเด่นในเรื่องของที่ตั้ง มีเงื่อนไขที่สะดวกในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอุตสาหกรรมไฮเทค มีแรงงานฝีมือดีจำนวนมาก และมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเพรียง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดานังได้รับรางวัลเมืองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ นครดานังมีบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 44,000 คนโดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ของสถานประกอบการด้านดิจิทัล 24,000 แห่ง นาย เจืองญาบิ่ง ประธานกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี FPT กล่าวว่า ดานัง กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากขึ้น และหนึ่งในแนวทางเชิงยุทธศาสตร์คือดานังต้องพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจสตาร์ทอัพ ศูนย์กลางด้านการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ  ศูนย์กลางพัฒนาเกมส์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

"โครงสร้างพื้นฐานของดานังได้เปลี่ยนแปลงไปมาก บรรดาผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาดานัง รายได้จากการส่งออกซอฟต์แวร์ของดานังบรรลุถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเลข 2 หลัก สถานประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของดานังคิดเป็นร้อยละ 8.2 ของ GRDP"

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งได้ตั้งสำนักงานตัวแทนในดานัง เช่น กลุ่มบริษัท Sumitomo ของญี่ปุ่น กลุ่มบริษัท Adani Ports & SEV ของอินเดีย และในฟอรั่มลงทุนดานังเมื่อเร็วๆนี้ นาย Sandeep Mehta ประธานกลุ่มบริษัท Adani Ports & SEV ได้กล่าวว่า อาจลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนามในด้านท่าเรือและโครงสร้างพื้นฐาน

ในขณะเดียวกัน เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศก็ไหลเข้าสู่จังหวัดและนครต่างๆในภาคใต้อย่างเข้มแข็งในช่วงเดือนแรกของปี 2022 คิดเป็นร้อยละ 88 ของยอดทุนจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงการลงทุนของกลุ่มบริษัท Lego ในจังหวัดบิ่งเยือง รวมมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลงทุนของ Coca-Cola ในจังหวัดลองอาน รวมมูลค่า 136 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เขตเศรษฐกิจหลักในภาคใต้ยังเป็นท้องถิ่นนำหน้าของประเทศในด้านทุนจดทะเบียนใหม่ของโครงการแปรรูปและโรงงานผลิตเครื่องจักรกล โดยเมืองไตนิงห์ได้มอบใบรับรองการลงทุนให้แก่บริษัท Libra International Investment ที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ด้วยโครงการผลิตผ้าคุณภาพสูงในนิคมอุตสาหกรรมแถ่งกง รวมมูลค่า 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าได้รับเงินทุน 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัท Shinkong Synethetic Fibers ที่ประกอบธุรกิจในด้านการผลิตเส้นด้ายและการทอผ้า

ในขณะเดียวกัน ถึงแม้จะมีโครงการจดทะเบียนใหม่ไม่มากนักในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แต่เขตเศรษฐกิจหลักในภาคเหนือได้มีการเพิ่มเงินลงทุนจำนวนมากในโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่  เช่น โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการบริการ VSIP ของสิงคโปร์ที่ได้เพิ่มเงินลงทุนเป็นเกือบ 941 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ โรงงาน Goertek Vina ของฮ่องกง ประเทศจีนได้เพิ่มทุนเกือบ 306 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เครือข่าย ในขณะที่ทางบริษัท Samsung ของสาธารณรัฐเกาหลีได้เพิ่มเงินลงทุนจำนวน 920 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการ Samsung Electro-Mechanics ในเมืองท้ายเงวียน

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง มอบใบรับรองการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการ (VNA)

คำมั่นที่เข้มแข็งของรัฐบาลเวียดนาม

ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน ประกอบธุรกิจ ความมีเสถียรภาพทางการเมือง การฟื้นตัวที่เข้มแข็งและยั่งยืนของเศรษฐกิจ ตามดัชนี Good Government Index ที่เผยแพร่โดยสถาบัน Chandler ของสิงคโปร์เมื่อเร็วๆ นี้ การดึงดูดเงินลงทุนของเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 39 จาก 104 ประเทศ เลื่อนขึ้น 18 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2021 โดยการยังคงได้รับความสนใจในการขยายการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติและแบรนด์ใหญ่ๆเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เป็นจริงดังกล่าว

นอกจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ความคล่องตัวของเศรษฐกิจ คำมั่นที่เสมอต้นเสมอปลายและความชัดเจนของรัฐบาลเวียดนามต่อนักลงทุนยังเป็นพื้นฐานสำหรับการสร้างความไว้วางใจให้แก่บรรดานักลงทุน ในฟอรั่มลงทุนดานัง 2022 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวว่า

“สำหรับสถานประกอบการ เราอยากให้พวกเขาลงทุนให้มากขึ้นด้วยความจริงใจ ความไว้วางใจและความรับผิดชอบ เพื่อที่เราจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน หวังว่า บรรดานักลงทุนจะร่วมมือกับเราในการปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมให้มีความสมบูรณ์ สร้างสรรค์เศรษฐกิจที่เป็นอิสระและพึ่งตนเองในเชิงรุกและมีความกระตือรือร้นในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกที่กว้างขวาง จริงจังและมีประสิทธิภาพ”

สามารถเห็นได้ว่า ความผันผวนทั่วโลกได้ทำให้กระแสการลงทุนและบริษัทข้ามชาติต้องปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทางการลงทุนเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยและความคล่องตัวของภาคการผลิต เวียดนามซึ่งมีความได้เปรียบและศักยภาพมากมาย บวกกับนโยบายดึงดูดการลงทุนที่มีการคัดเลือก กำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ปลอดภัย น่าดึงดูดใจและมีศักยภาพสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าเชื่อถือและยั่งยืนสำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ.