 ภาพการประชุม (quochoi,vn) |
ในนัดเปิดการประชุมครั้งที่ 8 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้อ่านรายงานเกี่ยวกับผลการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2019 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2020 โดยระบุว่า คาดว่า เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่เวียดนามสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งหมด 12 ข้อ
รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค
ถึงแม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ แต่ในปี 2019 เวียดนามยังคงมีการเปลี่ยนแปลงที่เข้มแข็งในทุกด้านและสามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆของสภาแห่งชาติ ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งหมด 12 ข้อที่สภาแห่งชาติได้วางไว้ โดยเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ อัตราการขยายตัวจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 6.8 เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าร้อยละ 3 และอัตราการขาดดุลงบประมาณคิดเป็นร้อยละ 3.4 ของจีดีพีท่ามกลางสถานการณ์ภายในประเทศและโลกที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อน นโยบายการเงินได้รับการบริหารอย่างคล่องตัว นโยบายด้านงบประมาณแผ่นดินได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รายรับงบประมาณแผ่นดินเพิ่มขึ้น โครงสร้างเศรษฐกิจได้รับการปรับปรุงอย่างเข้มแข็ง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า“หลังการปฏิบัติพินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์ในตลอดกว่า 50ปีที่ผ่านมา ประเทศเวียดนามมีศักยภาพการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด ซึ่งมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการเสริมสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของประชาชนทุกภาคส่วน สถานประกอบการและนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ประเทศและหุ้นส่วนต่างชื่นชมและยืนยันว่า เวียดนามคือจุดเด่นในภูมิภาคและโลก เวียดนามถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 8 ในกลุ่มเศรษฐกิจที่น่าลงทุนที่สุดปี 2019 ส่วนฟอรั่มเศรษฐกิจโลกได้ประเมินว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามได้รับการปรับปรุงอย่างข้ามขั้นผ่าน 3 เสาหลักคือระเบียบการ โครงสร้างพื้นฐานและทักษะความสามารถ”
สำหรับผลการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2019 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2020 นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปและการประดิษฐ์ประสบผลที่น่ายินดี อัตราการขยายตัวด้านการเกษตร สัตว์น้ำและป่าไม้อยู่ในระดับค่อนข้างสูง การรักษาเสถียรภาพของภาคปศุสัตว์ได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ งานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกประสบผลงานที่สำคัญ ความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศของสภาแห่งชาติมีการพัฒนาตามส่วนลึกอย่างเข้มแข็ง การบริหารของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เน้นแก้ไขปัญหาต่างๆในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
เน้นรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ยกระดับประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า คาดว่า สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดการณ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ศักยภาพการพัฒนาด้านต่างๆของเวียดนามนับวันเพิ่มมากขึ้น สถานการณ์การเมืองและสังคมมีเสถียรภาพ ความไว้วางใจของประชาชนได้รับการเสริมสร้าง แต่เศรษฐกิจยังคงมีอุปสรรค ความท้าทายและข้อบกพร่องต่างๆ ดังนั้น เวียดนามจึงควรใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 และยุคทองของประชากรเพื่อรับมือความท้าทายจากปัญหาประชากรสูงอายุ พยายามปฏิบัติเป้าหมายและแผนการต่างๆในปี 2020 และระยะปี 2016-2020 เน้นรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่ ปรับปรุงระเบียบการ ระดมแหล่งพลังต่างๆ สร้างบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจที่โปร่งใส่และสะดวก รักษาความมั่นคง กลาโหม ยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนปี 2020 สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ให้ลุล่วงไปด้วยดี ปกป้องเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน บรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อการพัฒนา ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามให้สูงเด่นมากขึ้นบนเวทีโลก“เวียดนามจะตั้งเป้าหมายต่างๆในปี 2020 เช่น อัตราการขยายตัวจีดีพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 ดัชนีราคาผู้บริโภคต่ำกว่าร้อยละ 4 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 อัตราการเสียเปรียบดุลการค้าต่ำกว่าร้อยละ 3 ของยอดมูลค่าการส่งออก ยอดเงินลงทุนเพื่อการพัฒนาสังคมคิดเป็นร้อยละ 33-34 ของจีดีพี อัตราครอบครัวที่ยากจนลดลงร้อยละ 1-1.5 ส่วนอำเภอที่ยากจนลดลงร้อยละ 4”
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้กำชับให้กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม อำนวยความสะดวกเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคต่อไปเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน เสริมสร้างศักยภาพด้านกลาโหม ความมั่นคง รักษาเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม ยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ยืนหยัดแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย กระชับความสัมพันธ์กับประเทศและหุ้นส่วนต่างๆให้แน่นแฟ้นมากขึ้น.