สหภาพยุโรปกำลังแสดงความปรารถนาที่จะเพิ่มอิทธิพลในอินโด - แปซิฟิก (Photo: UM)

ความร่วมมือต่างๆที่ถูกระบุในยุทธศาสตร์นี้ได้ประกอบทั้งด้านการค้าและการลงทุน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและเสรีภาพในการเดินเรือ การปฏิบัติตามกฎหมายสากล อีกทั้งย้ำถึงการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในภูมิภาคเกี่ยวกับความมั่นคงและกลาโหมต่อไป รวมถึงการแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางทะเล ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การก่อการร้ายและแก๊งอาชญากรรม

การปรับแกนหมุนสู่ศูนย์กลางทางภูมิรัฐศาสตร์แห่งใหม่ของเอเชีย

ยุทธศาสตร์ใหม่ของอียูแสดงให้เห็นถึงความตระหนักของกลุ่มนี้เกี่ยวกับความสำคัญที่นับวันเพิ่มมากขึ้นของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและคำมั่นเสริมสร้างบทบาทของกลุ่มฯผ่านความร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆในภูมิภาคนี้ อีกทั้งอำนวยความสะดวกในการสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือที่นำประโยชน์มาให้แก่ทั้งสหภาพยุโรปและภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ความร่วมมือในภูมิภาคนี้ยังช่วยให้อียูปฏิบัติตามระเบียบวาระการประชุมโลกของประชาคมโลก รวมถึงการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติหรือ SDGs

นอกจากนั้น การที่อียูปฏิบัติยุทธศาสตร์ร่วมมือกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มอิทธิพลของตนในภูมิภาค ขานรับคำเรียกร้องของสหรัฐที่เร่งรัดให้พันธมิตรผลักดันการปรากฎตัวในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกหลังจากอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เสนอความคิดริเริ่ม "อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง" แต่อันที่จริง เป้าหมายหลักในยุทธศาสตร์ของทางการวอชิงตันคือการทวงคืนอิทธิพลในภูมิภาคนี้เพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ อำนาจทางการเมือง ความแข็งแกร่งทางทหารและการทูต

ก่อนสหภาพยุโรป เมื่อเดือนมีนาคมปี 2021 อังกฤษได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ รวมทั้งการปรับแกนหมุนสู่ "ศูนย์กลางทางภูมิรัฐศาสตร์" ใหม่ของโลกคืออินโด – แปซิฟิก กำหนดบทบาทของอังกฤษในความสัมพันธ์นี้หลังจากถอนตัวออกจากอียู ก่อนหน้านั้น ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ประกาศยุทธศาสตร์เฉพาะของตนต่อภูมิภาคนี้ ในขณะที่หลายประเทศในยุโรปก็กำลังสนใจถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเช่นกัน

ทหารของกองทัพเรือรั่งเศสบนเรือTonnerre เตรียมพร้อมที่จะเทียบท่าที่ท่าเรือ Cochin ในเมือง Kochi ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 30 มีนาคม (AFP)

การเสริมสร้างบทบาทในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก

การที่หลายประเทศหันมาปฏิบัติยุทธศาสตร์นี้แสดงให้เห็นถึงความจริงที่ว่า ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกำลังกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญ

ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมีประชากรคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของโลก เป็นภูมิภาคที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีเส้นทางทะเลที่สำคัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีคล่องตัวที่สุด ภูมิภาคนี้นับวันมีบทบาทที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 และในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกำลังปรากฎการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อการค้าและห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนความตึงเครียดในด้านเทคโนโลยี การเมืองและความมั่นคง ทำให้ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลียและอินเดียต่างก็มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มอิทธิพลและปกป้องผลประโยชน์ของตนในภูมิภาคนี้

ในหลายปีที่ผ่านมา อียูได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกผ่านความร่วมมือในการพัฒนาและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพและมลพิษ  ตลอดจนการธำรงกฎหมายสากลว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในการเดินเรือ

"ยุทธศาสตร์ความร่วมมือของสหภาพยุโรปในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก" ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ระบุว่า สหภาพยุโรปมีผลประโยชน์มากมายในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและมีผลประโยชน์ในการธำรงโครงสร้างภูมิภาคที่เปิดกว้างและเป็นไปตามกฎเกณฑ์ สหภาพยุโรปยืนยันว่า จะผลักดันการมีส่วนร่วมมากขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆในภูมิภาคนี้เพื่อปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันคือแก้ไขผลกระทบของโควิด-19ต่อเศรษฐกิจและมนุษย์เพื่อค้ำประกันการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความมั่นคง ยั่งยืนและครอบคลุม.