 ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและนาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน |
นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่ 3 ของนาย สีจิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีนและเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของนาย สีจิ้นผิง หลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อเดือนตุลาคมปี 2022 ซึ่งเป็นกิจกรรมการต่างประเทศที่มีความหมายที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคและสองรัฐ เป็นการยืนยันถึงการให้ความสำคัญและความสนใจเป็นอันดับต้นๆของทั้งสองประเทศต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ
จุดเด่นในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับจีน
ภายหลัง 15 ปีที่ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆโดยมีจุดเด่นมากมาย นาย สูงปัว เอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนามได้ประเมินว่า
“ความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างสองประเทศได้บรรลุระดับสูงที่สุด จุดเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่เพียงแต่เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองเท่านั้น หากยังเป็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศ ในหลายปีที่ผ่านมา จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียนและอาเซียนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน”
ความเข้าใจและความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศได้รับการยกระดับผ่านการเยือนระดับสูง โดยเฉพาะระหว่างเลขาธิการใหญ่พรรคฯของทั้งสองประเทศ ผู้นำรัฐ รัฐบาล รัฐสภาและแนวร่วมปิตุภูมิทั้งของทั้งสองประเทศได้พบปะสังสรรค์ ในขณะที่การแลกเปลี่ยนระหว่างท้องถิ่นและประชาชนได้รับการผลักดัน
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนนับวันเข้าสู่ส่วนลึก จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา และปัจจุบัน เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียนและเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ 4ของจีนในโลก รองจากสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศได้เพิ่มขึ้นเป็น 9 เท่า จาก 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2008 ขึ้นเป็น 1 แสน 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ยอดเงินลงทุนจากจีนในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าจาก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2008 ขึ้นเป็น 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ในปี 2023 จีนเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 4 ในจำนวนประเทศและดินแดนที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม
ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงได้รับการพัฒนาในรูปแบบใหม่ หลังการเยือนจีนของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่อง ทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของความสัมพันธ์ทวิภาคี ส่วนในระดับพุหภาคี ความร่วมมือระหว่างสองประเทศในฟอรั่มได้รับการขยายและสนับสนุนความคิดริเริ่มที่สำคัญระหว่างกัน
 นาย สูงปัว เอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนาม (Photo: TTXVN) |
กำหนดแนวทางความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับจีนในระยะใหม่
นี่เป็นครั้งที่สามที่เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง มาเยือนเวียดนามหลังการเยือนเมื่อปี 2015 และปี 2017 ดอกเตอร์ เหงวียนห่งหาย อาจารย์จากมหาวิทยาลัยวิน เผยว่า การเยือนเวียดนามของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ สีจิ้นผิง จะผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เข้าสู่ส่วนลึกและจริงจังมากขึ้น
“นี่เป็นการเยือนที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพราะไม่ค่อยมีกรณีที่ภายในเวลา 1 ปีเลขาธิการใหญ่พรรคฯของทั้งสองประเทศจะมาเยือนกันอย่างนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี ตามประกาศของกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ในกรอบการเยือนนี้ ทั้งสองประเทศจะยกระดับความสัมพันธ์ในระดับที่สูงขึ้น ผมเห็นว่า จากความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของผู้นำทั้งสองประเทศในการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี การเยือนนี้จะตอบสนองความปรารถนาของทั้งสองประเทศ”
นาย เหงวียนวิงกวาง รองนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-จีนเผยว่า การที่นาย สีจิ้นผิง มาเยือนเวียดนามสามครั้งในฐานะเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคฯ และประธานประเทศจีนได้แสดงให้เห็นว่า ตัวเขาให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งความเข้าใจร่วมระหว่างสองประเทศจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ในเวลาที่จะถึงให้เข้มแข็ง
“ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในปีที่ผ่านมาได้รับการพัฒนาอย่างเข้มแข็งเนื่องจากการปฏิบัติความเข้าใจร่วมที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุในกรอบการเยือนจีนของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่อง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในการพบปะครั้งนี้ แน่นอนว่า ผู้นำของพรรคและรัฐจะบรรลุความเข้าใจร่วมใหม่ ซึ่งจะมีส่วนช่วยกำหนดแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เข้มแข็งมากขึ้น”
บนพื้นฐานของผลงานที่ได้บรรลุในการปฏิบัติตามหลักความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในตลอด 15 ปีที่ผ่านมา การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ สีจิ้นผิง ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีในเวลาที่จะถึง.