รายการแสดงศิลปะเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อคุณูปการของบรรพกษัตริย์หุ่ง (VGP) |
ในการรายงานต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 15 เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า ในเวลาที่ผ่านมา การพัฒนาวัฒนธรรมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ ข้อสรุปของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง ในการประชุมวัฒนธรรมทั่วประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ที่ได้มีการศึกษาเพื่อเข้าใจและปฏิบัติอย่างจริงจัง ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง ย้ำเป็นพิเศษว่า วัฒนธรรมเป็นหนึ่งในพลังภายในที่แข็งแกร่งและมีบทบาทยุทธศาสตร์ของประชาชาติเวียดนาม
การพัฒนาวัฒนธรรมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง แสดงความเห็นว่า ด้วยความตระหนักในบทบาทของวัฒนธรรมที่มีความครอบคลุมและลึกซึ้งมากขึ้น ได้มีการสืบทอด อนุรักษ์และส่งเสริม คุณค่าวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและมรดกทางวัฒนธรรมของประชาชาติมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมมีความหลากหลายและสมบูรณ์มากขึ้น มีการยกย่องและขยายผลตัวอย่างดีเด่นในขบวนการแข่งขันรักชาติและขบวนการ “ปวงชนสามัคคี สร้างสรรค์ชีวิตวัฒนธรรม” ส่วนกลไกทางวัฒนธรรมและการกีฬาต่างๆก็กำลังได้รับความสนใจลงทุนในท้องถิ่น เขตชุมชน นิคมอุตสาหกรรมและตัวเมือง
บนเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การพัฒนาวัฒนธรรมต้องได้รับความสนใจเท่าๆกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้องการค้ำประกันความก้าวหน้า ความยุติธรรมในสังคม การดูแลชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชน ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งข้อเสนอนี้เป็น 1 ใน 6 ทัศนะของรัฐบาลในการบริหารชี้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปี 2023 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ย้ำว่า
“เน้นพัฒนาวัฒนธรรมอย่างครอบคลุมและพร้อมเพรียง ค้ำประกันการเชื่อมโยงอย่างกลมกลืนระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับวัฒนธรรมและสังคม สวัสดิการสังคม การปรับปรุงชีวิตทางวัตถุและจิตใจให้แก่ประชาชน ส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรมและชาวเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ให้ความสนใจต่อการอนุรักษ์ เสริมสร้างและส่งเสริมคุณค่ามรดกวัฒนธรรมประชาชาติ คุณค่าวัฒนธรรมนามธรรมและรูปธรรมของภูมิภาคต่างๆ เน้นลงทุนก่อสร้าง ยกระดับและปรับปรุงกลไกด้านวัฒนธรรม สร้างสรรค์บรรยากาศวัฒนธรรมที่โปร่งใส ชีวิตด้านวัฒนธรรมในท้องถิ่นและวัฒนธรรมในสำนักงานภาครัฐ โดยเฉพาะจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ข้าราชการ”
การพัฒนาวัฒนธรรมเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
เมื่อวันที่ 8 กันยายนปี 2016 นายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้มติที่1755 โดยอนุมัติ “ยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเวียดนามจนถึงปี 2020 วิสัยทัศน์ถึงปี 2030” ที่กำหนดเป้าหมายและหน้าที่สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเวียดนาม ซึ่งเป้าหมายหลักคือพยายามจนถึงปี 2020 รายได้จากอุตสาหกรรมวัฒนธรรมมีส่วนร่วมประมาณร้อยละ 3 ต่อ GDP และสร้างงานทำเพิ่มขึ้นให้แก่สังคม แต่ในทางเป็นจริงจนถึงปี 2018 อุตสาหกรรมวัฒนธรรมและนวัฒกรรมของเวียดนามได้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อเศรษฐกิจของระเทศอย่างรวดเร็ว ด้วยมูลค่าเกือบ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 3.61 ของ GDP และสร้างงานทำกว่า 3 ล้านตำแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 6.1 ของจำนวนแรงงานทั้งหมดทั่วประเทศ
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง อ่านรายงานต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 15 (VGP) |
ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารด้านวัฒนธรรม การจัดทำและความสำเร็จในการปฏิบัติ "ยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเวียดนามจนถึงปี 2020 วิสัยทัศน์ถึงปี 2030" เป็นหนึ่งในการพิสูจน์อย่างชัดเจนสำหรับความเห็นที่ว่า วัฒนธรรมเป็นทั้งเป้าหมายและเป็นแรงผลักดันสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รองศาสตราจารย์ ดร. หวูถิเฟืองโห่ว หัวหน้าสถาบันวัฒนธรรมและพัฒนาของสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ยืนยันว่า วัฒนธรรมไม่ได้เป็นเพียงแรงจูงใจทางอ้อมเท่านั้น หากยังเป็นแรงจูงใจโดยตรงในการพัฒนาเศรษฐกิจ มีส่วนร่วมต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจอีกด้วย จากสถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมได้สร้างความคาดหวังเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาที่รวดเร็วและยั่งยืนของหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนามด้วย ส่วนรองศาสตราจารย์ ดร. เหงียนถิเฟือง เชิม หัวหน้าสถาบันวิจัยวัฒนธรรมกล่าวว่า ความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมกับการพัฒนาเศรษฐกิจจะนำไปสู่การพัฒนาหลายมิติ ครอบคลุมและยั่งยืน จะไม่มีการพัฒนาสังคมที่แท้จริงได้ถ้าหากปราศจากการพัฒนาวัฒนธรรมและการพัฒนาเพื่อเป้าหมายด้านวัฒนธรรม เช่นเดียวกับความเห็นนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. บุ่ยหว่ายเซิน สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม การศึกษาเยาวชนและเด็กของสภาแห่งชาติกล่าวว่า
"ต้องทำให้คุณค่าและทรัพย์สมบัติทางวัฒนธรรมกลายเป็นศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ เป็นข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจ หรือเป็นปัจจัยช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศ เรากำลังกำหนดและปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเพื่อเป้าหมายนี้ ซึ่งหมายความว่า เราต้องการผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพื่อช่วยให้เรามี soft power มีพลังที่เข้มแข็งและทำให้เราได้เปรียบในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในปัจจุบัน"
ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามเมื่อเร็วๆ นี้ ดร. เลหายบิ่ง รองหัวหน้าคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษาส่วนกลางกล่าวว่า การพัฒนาวัฒนธรรมเป็นการส่งเสริม พัฒนาและใช้ประโยชน์จากพลังที่เข้มแข็งภายในและยุทธศาสตร์ของประเทศเวียดนามที่มีประชากรเกือบ 100 ล้านคน เนื่องจากเอกสารของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ได้กำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ โดยกำหนดการใช้ประโยชน์จากพลังภายในของประชาชาติเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง.