ลดความขัดแย้งเกี่ยวกับอนาคตของยุโรป-หน้าที่ที่ปฏิบัติไม่ง่ายนัก

Hong Van- VOV5
Chia sẻ
(VOVWorld)-ในการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปหรืออียูที่เสร็จสิ้นลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา  ความขัดแย้งระหว่าง๒๗ประเทศสมาชิกเกี่ยวกับอนาคตของยุโรปได้ปรากฎขึ้นโดยที่ไม่สามารถลงเอยกันได้  ในสภาวการณ์ที่วันรำลึกครบรอบ๖๐ปีการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยการจัดตั้งอียู ๒๕มีนาคมกำลังใกล้จะถึง การที่ประเทศสมาชิกอียูไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาของอียูได้แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกที่ลึกซึ้งภายในกลุ่ม  โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ที่อียูต้องส่งเสริมความสามัคคีเพื่อทำการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์กับอังกฤษเกี่ยวกับปัญหาการถอนตัวออกจากอียูหรือ Brexit 
(VOVWorld)-ในการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปหรืออียูที่เสร็จสิ้นลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา  ความขัดแย้งระหว่าง๒๗ประเทศสมาชิกเกี่ยวกับอนาคตของยุโรปได้ปรากฎขึ้นโดยที่ไม่สามารถลงเอยกันได้  ในสภาวการณ์ที่วันรำลึกครบรอบ๖๐ปีการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยการจัดตั้งอียู ๒๕มีนาคมกำลังใกล้จะถึง การที่ประเทศสมาชิกอียูไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาของอียูได้แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกที่ลึกซึ้งภายในกลุ่ม  โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ที่อียูต้องส่งเสริมความสามัคคีเพื่อทำการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์กับอังกฤษเกี่ยวกับปัญหาการถอนตัวออกจากอียูหรือ Brexit 

ลดความขัดแย้งเกี่ยวกับอนาคตของยุโรป-หน้าที่ที่ปฏิบัติไม่ง่ายนัก  - ảnh 1
นาย ฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมการยุโรป

การประชุมผู้นำอียูที่หารือเกี่ยวกับอนาคตของยุโรปหลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากอียู ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่๑๐มีนาคม  ซึ่งไม่มีผู้แทนของอังกฤษเข้าร่วม 

 ในการประชุมครั้งนี้ บรรดาผู้นำอียูได้พยายามแสวงหาเสียงพูดเดียวกันเพื่อออกแถลงการณ์ร่วมในโอกาสฉลองครบรอบ๖๐ปีการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยการก่อตั้งอียู ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลีในวันที่๒๕มีนาคม แต่อย่างไรก็ดี หลังการประชุมดังกล่าว  ยังไม่มีการประกาศเอกสารใดๆเกี่ยวกับอนาคตของยุโรป
  ความขัดแย้งเกี่ยวกับภูมิภาคยุโรปที่มีความหลากหลาย
แผนการเกี่ยวกับยุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการพัฒนาเป็นเนื้อหาที่สร้างความขัดแย้งในการประชุมผู้นำอียูครั้งนี้ ซึ่งแผนการดังกล่าวถูกระบุในหนังสือปกขาวเกี่ยวกับอนาคตของยุโรป  โดยบรรดาผู้นำอียูได้ยอมรับว่า   ปัจจุบัน  บรรดาประเทศสมาชิกอียูยากที่จะมีปฏิบัติการและความคิดเห็นเหมือนกันและการเปลี่ยนแปลงจะเป็นสิ่งที่จำเป็น  การที่อังกฤษถอนตัวออกจากอียูเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ยุโรปกำหนดกรอบการพัฒนาใหม่  ซึ่งตามนั้น บรรดาประเทศสมาชิกอียูมีสิทธิ์ตัดสินใจเองเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงระดับการผสมผสานและการเชื่อมโยงภายในกลุ่ม
แผนการดังกล่าวได้เป็นที่ถกเถียงกันระหว่างประเทศมาชิกอียูเนื่องจากได้กระทบกระเทือนถึงระดับการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก  สำหรับบางเศรษฐกิจชั้นนำในยุโรป ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน  ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับยุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการผสมผสานถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เป็นจริง   ซึ่งจะสร้างกรอบทางนิตินัยเพื่อให้ประเทศต่างๆผสมผสานอย่างรวดเร็ว  นาง แองเกลา แมร์เคิล  นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ประกาศว่า ในการประชุมผู้นำอียูที่จะมีขึ้น ณ กรุงโรมในวันที่๒๕มีนาคมนี้  อียูจะต้องยืนยันถึงจุดยืนเกี่ยวกับ “เอกภาพในความหลากหลาย”และเพื่อปฏิบัติข้อคิดริเริ่มดังกล่าว  ก่อนการประชุมผู้นำอียูที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเยอรมนี สเปนและอิตาลีและประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ประชุมกัน ณ วังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส  โดยนาย  ฟรองซัว อองลองค์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ชี้ชัดว่า บางประเทศสมาชิกอียูจะอาจจะมีก้าวที่รวดเร็วและก้าวไกลพัฒนาในด้านกลาโหมและศุลกากร  ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ยืนยันว่า การที่ประเทศสมาชิกอียูที่มีระดับการพัฒนาที่แตกต่างกันเป็นสิ่งที่จำเป็นและยุโรปต้องยอมรับความจริงที่ว่า จะมีบางประเทศสมาชิกพัฒนารวดเร็วกว่าประเทศสมาชิกอื่นๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำในกระบวนการโลกาภิวัติน์
แต่อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกของอียูเนื่องจากการเน้นถึงยุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการพัฒนาจะทำลายเอกลักษณ์ของสหภาพและเปิดทางการให้แก่จัดระดับการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก  เพิ่มช่องว่างระหว่างยุโรปตะวันออกกับยุโรปตะวันตกเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ การเงินและข้อกำหนดกฎหมาย  โปแลนด์และฮังการีมีความวิตกกังวลว่า ถ้าหากไม่ผลักดันความสัมพันธ์รร่วมมือ มีความเสี่ยงที่จะตกอยู่กลุ่มประเทศชั้น๒ในอียู  ส่วนนาง บีธา ซีดโล นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ได้ประกาศว่า ไม่สนับสนุนข้อคิดริเริ่มดังกล่าว  โปแลนด์ไม่ยอมรับปฏิบัติการใดๆทีส่งผลเสียต่อตลาดร่วม  การเดินทางอย่างเสรีในเขตเชงเก้นและของสภาพยุโรป  ก่อนการประชุมครั้งนี้ โปแลนด์ สโลวาเกีย สาธารณรัฐเช็กและฮังการีได้เรียกร้องให้อียูมีความเสมอภาคต่อทุกประเทศสมาชิก
การเรียกร้องให้ส่งเสริมความสามัคคีระหว่างประเทศสมาชิก
จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิก  นาย ฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมการยุโรปได้เผยว่า แผนดังกล่าวไม่ใช่เพื่อสร้างกำแพงใหม่  อียูไม่มีแผนการปรับปรุงสนธิสัญญาที่มีอยู่ เพราะในสถานการณ์ที่เป็นจริง  “ยุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการพัฒนา"ได้ปรากฎอยู่แล้ว  โดยอ้างอิงเกี่ยวกับเขตยูโรโซนและเขตเชงเก้น  นี่เป็นผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของความร่วมมือภายในอียูและไม่ใช่ทุกประเทศสมาชิกต่างเข้าร่วมความเชื่อมโยงดังกล่าว  แต่อย่างไรก็ดี นาย ฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ได้ยอมรับว่า ยุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการพัฒนาจะส่งผลกระทบต่อประเทศในยุโรปตะวันออก
ในขณะเดียวกัน นาย โดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรปหรืออีซีได้เรียกร้องให้ทุกประเทศสมาชิกอียูต้องพยายามเพื่อมุ่งสู่การส่งเสริมความสามัคคีหลัง Brexit พร้อมทั้ง เห็นว่า ก็มีเหตุผลเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับยุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการพัฒนา ถ้าหากคำนึกถึงผลประโยชน์ของ๒๗ประเทศสมาชิกในสภาวการณ์ที่จะทำการเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexitและผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาว  บรรดาประเทศสมาชิกก็ต้องพยายามเพื่อส่งเสริมความสามัคคีทางการเมืองระหว่าง๒๗ประเทศสมาชิก
ในขณะที่ยังไม่มีเอกสารใดๆที่ระบุเกี่ยวกับอนาคตของยุโรป  การประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวก็จะถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แต่อย่างไรก็ดี ถ้าอยากให้ยุโรปมีความสามัคคีและพัฒนา  ต้องมีความระมัดระวังในการกล่าวถึงปัญหายุโรปที่มีความหลากหลายในระดับการพัฒนา โดยเฉพาะ ในขณะที่ปัญหาต่างๆในเขตยูโรโซนและวิกฤตผู้อพยพกำลังสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิก.

Komentar