สำนักงานใหญ่ของสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียม (AFP) |
ท่าทีล่าสุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของผู้นำ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปคือการเห็นชอบให้สถานะผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกอียูแก่มอลโดวาและยูเครน ซึ่งการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ทำให้ยูเครนสามารถก้าวไปอีกขั้นในการเข้าร่วมสหภาพยุโรป
การตัดสินใจเชิงสัญลักษณ์
ยูเครนถือว่านี่คือการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ในขณะที่รัสเซียได้ออกมาคัดค้านการตัดสินใจของสหภาพยุโรปทันทีโดยถือว่า นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนเพราะระยะเวลาตั้งแต่การลงสมัครไปจนถึงการได้รับสถานะผู้สมัครสหภาพยุโรปของยูเครนและมอลโดวาดำเนินไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยอมรับประเทศนอกกลุ่มในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้
สถานะผู้สมัครได้ทำให้ยูเครนสามารถทำการเจรจาอย่างเป็นทางการกับสหภาพยุโรปได้ ซึ่งต้องผ่านการเจรจาประมาณ 30 รอบเกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมดของสหภาพยุโรป เช่น ภาษี สิทธิของชนกลุ่มน้อย การขนส่งสินค้า การเดินทางอย่างเสรีและปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยการเจรจามีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบว่า กฎหมายของยูเครนสอดคล้องกับกฎหมายของสหภาพยุโรปหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า การตัดสินใจของสภายุโรปจริง ๆ แล้วเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์สำหรับทั้งยูเครนและมอลโดวา เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่ซับซ้อนและยาวนานเพราะสหภาพยุโรปจะไม่ปรับลดเกณฑ์มาตรฐานในด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม โดยเฉพาะ ในด้านเสรีภาพ นอกจากนี้ การตัดสินใจมีขึ้นในสภาวการณ์ที่การปะทะในยูเครนอาจเพิ่มความท้าทายให้แก่ทั้งทางการเคียฟและสหภาพยุโรปในเวลาที่จะถึง ถึงแม้ยูเครนจะได้รับสถานะผู้สมัครจากสหภาพยุโรป แต่โอกาสที่จะได้เข้าเป็นสมาชิกก็อาจต้องใช้เวลาอีกหลายพร้อมพร้อมข้อกำหนดต่าง ๆ มากมาย
ส่วนสหภาพยุโรปสามารถยอมรับยูเครนได้หรือไม่ก็เป็นคำถามที่ต้องได้รับคำตอบ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การจะรับหรือไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ของสหภาพยุโรป ไม่ว่าจะเป็นในด้านงบประมาณหรืออำนาจในการรับสมาชิกเพิ่ม
การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (THX) |
สร้างภัยคุกคามต่อความฝันเกี่ยวกับการขยายสมาชิกของยุโรป
ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ในสภาวการณ์ที่ภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน เช่น วิกฤตยูเครน วิกฤตผู้อพยพ บวกกับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะ ปัญหาBrexit และการแพร่ระบาดของโรโควิด-19 ได้ทำให้อียูต้องแก้ปัญหาแบบบูรณาการและพิจารณาเรื่องผลประโยชน์ของแต่ละประเทศ นี่เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับสหภาพยุโรป โดยเฉพาะการเผชิญความท้าทายใหม่ที่ส่งผลต่อการพัฒนาและการคงอยู่ของกลุ่ม
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แนวความคิดเกี่ยวกับ "ยุโรปอธิปไตย" เพื่อเป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งทางการเมืองและเศรษฐกิจทั้งภายในกลุ่มและในโลกได้ถูกระบุอย่างชัดเจน เช่น การก่อตั้ง “ข้อคิดริเริ่มแทรกแซงยุโรป” และ “การกำหนดยุทธศาสตร์”ได้รับการอนุมัติในวาระประธานหมุนเวียนอียูของฝรั่งเศส หรือสหภาพยุโรปประกาศยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปี 2021 สำหรับการปฏิรูปเขตยูโรโซน บางประเทศสมาชิกได้ผลักดัน "เครื่องมืองบประมาณและการแข่งขัน" เพื่อให้ประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกของเขตยูโรโซนเข้าร่วม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังนำมาซึ่งความสำเร็จอีกครั้งในนโยบายการเงินของสหภาพยุโรปผ่านการที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปอนุมัติกองทุนฟื้นฟูยุโรป มูลค่าสูงถึง 7 แสน 5 หมื่นล้านยูโร เมื่อเดือนกันยายนปี 2020 สหภาพยุโรปได้จัดตั้งสำนักงานตรวจสอบชายฝั่งและชายแดนของยุโรป เผยแพร่ร่างกฎบัตรคนเข้าเมืองและผู้ลี้ภัยฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในปีนี้
สามารถเห็นได้ว่า ท่าทีเหล่านี้มีเป้าหมายในการปฏิบัติแนวทาง “ยุโรปที่มีอธิปไตย" ซึ่งรวมถึงเรื่องการให้สถานะผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกอียูแก่ยูเครนก็ไม่อยู่นอกเหนือจากเป้าหมายนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เส้นทางเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ยังคงมีความท้าทายมากมาย ประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรปได้แสดงให้เห็นว่า กระบวนการเจรจาเพื่อยอมรับผู้สมัครไม่เคยเป็นไปอย่างราบรื่น โดยอาจต้องใช้เวลาหลายปี และมีการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา ดังนั้น แม้ว่ายูเครนจะได้รับสถานะผู้สมัครเป็นสมาชิกอียูอย่างรวดเร็วด้วยปัจจัยทางการเมืองของสหภาพยุโรป แต่การที่จะได้เข้าเป็นสมาชิกอียูอย่างเป็นทางการกลับเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง.