พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐอย่างมีเสถียรภาพ กว้างลึกและมีประสิทธิภาพต่อไป

Hong Van- VOV5
Chia sẻ

(VOVWORLD) -นาย ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่8-9กรกฎาคมตามคำเชิญของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝามบิ่งมิง  ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นาย ไมค์ ปอมเปโอ เดินทางมาเยือนนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา การเยือนเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวพัฒนาใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคีและเป็นการยืนยันสถานะของเวียดนามในนโยบายการต่างประเทศของทางการประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์

พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐอย่างมีเสถียรภาพ กว้างลึกและมีประสิทธิภาพต่อไป - ảnh 1 (Photo: TTXVN)

เวียดนามเป็นจุดหมายที่3ในกรอบการเยือน5ประเทศของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกอบด้วยสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเร็ดส์และเบลเยี่ยมในระหว่างวันที่5-12กรกฎาคม นาง  Heather Nauert โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เผยว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐ เป็นประเทศที่มีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าที่ดีกับสหรัฐและประเทศอื่นๆก็มีความสัมพันธ์ที่ดีงามกับเวียดนามเช่นกัน

สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม

  ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหรัฐในเวลาที่ผ่านมาได้บรรลุความคืบหน้าใหม่  สิ่งที่น่าสนใจคือในปี2017 นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกได้กลายเป็นผู้นำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่เดินทางไปเยือนสหรัฐ ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ก็ได้เลือกเยือนเวียดนามเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีแรกของวาระการดำรงตำแหน่ง  ในกรอบการเยือน5ประเทศในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี2017 เวียดนามเป็นประเทศที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์เยือนนานที่สุดและใช้เป็นสถานที่ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐต่อภูมิภาคเอเชีย  ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจเป็นพิเศษและความประสงค์ของสหรัฐที่จะผลักดันความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม

จากการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ดีงามเมื่อปี2017 การเยือนนครดานังของเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐUSS Carl Vinsonในระหว่างวันที่5-9มีนาคมที่ผ่านมาก็เป็นนิมิตหมายใหม่ในกระบวนการผลักดันความเชื่อมโยงระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ ซึ่งการเยือนนี้ได้ช่วยผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน มีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค

ส่วนการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ไมค์ ปอมเปโอ ก็เพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจัง  โดยเฉพาะ ในด้านการเมือง-การทูต เศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุน กลาโหม-ความมั่นคงและการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม

สำหรับความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศ นาย Anthony Nelson  ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลปัญหาภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของเครือบริษัท Albright Stonebridgeได้เผยว่า “ทางการประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ให้ความสนใจต่อความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้ง เวียดนามผ่านการเยือนครั้งต่างๆ  ผมเห็นว่า ทางการของประธานาธิบดีสหรัฐมีความประสงค์ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชีย”

การพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าที่น่าประทับใจ

ควบคู่กับการขยายความสัมพันธ์ทางการเมือง  ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐก็ได้รับการพัฒนา โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่5หมื่น1พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี2017  มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศในช่วงปี2000-2017ได้เพิ่มขึ้นเป็น40เท่า  ซึ่งเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม นาย James W. Fatheree รองประธานหอการค้าสหรัฐที่ดูแลภูมิภาคเอเชียได้เผยว่า “พวกเราหวังว่า ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหรัฐจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในเวลาที่จะถึง  ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการผลักดัน ซึ่งหวังว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์จะถือเวียดนามเป็นเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ชมรมสถานประกอบการสหรัฐให้ความสนใจต่อตลาดเวียดนามและพวกเราจะส่งเสริมให้รัฐบาลธำรงนโยบายความร่วมมือกับเวียดนาม”

แต่อย่างไรก็ดี ในสภาวการณ์ที่ทางการสหรัฐกำลังปรับปรุงนโยบายและความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆตามแนวทางถือผลประโยชน์ของสหรัฐเหนือกว่าสิ่งอื่นใด  เพื่อธำรงความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองประเทศต้องผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงที่ได้บรรลุในกรอบการเยือนระดับสูง มีวิธีการเข้าถึงและกลไกการสนทนาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ.

Komentar