นับตั้งแต่ยึดคืนอำนาจรัฐเมื่อปี1945 หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญอันดับแรกที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้ความสนใจคือการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยโดยถือเป็นศัตรูที่อันตรายเหมือนผู้รุกรานที่คุกคามทำลายประเทศ ผ่านช่วงเวลา77ปีแห่งการชี้นำการพัฒนาประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ยืนหยัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างต่อเนื่องและความตั้งใจนั้นได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในเอกสารของสมัชชาพรรค ในมติและคำสั่งของคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรค รวมทั้งได้รับการแปร สรุปและระบุในเอกสารกฎหมายของรัฐ จนถึงช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมางานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นได้รับการผลักดันอย่างแข็งขันตามหลักการ "ไม่มีเขตต้องห้าม ไม่มีการยกเว้น" โดยกรณีทุจริตคอรัปชั่นถูกดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยและโปร่งใส ลงโทษถูกคนและได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
ในช่วง2ปีที่ผ่านมา การระบาดใหญ่ของ โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อชีวิตของคนทุกชนชั้น ซึ่งพรรคและรัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้นโยบายต่างๆอย่างทันท่วงทีเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชนและงานด้านสวัสดิการสังคมเพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังและค่อยๆนำสังคมปรับตัวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่อย่างคล่องตัวและปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม ในสภาวการณ์ดังกล่าวก็มีองค์กรและบุคคลที่มุ่งฉกฉวยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ซับซ้อนของโรคโควิด-19 ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ของตนเพื่อมีพฤติกรรมทุจริต ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชน
ทั้งนี้จากการเกาะติดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ พรรคและรัฐบาลเวียดนามได้มีการชี้นำแก้ไขอย่างทันท่วงทีพร้อมทั้งมีการจัดการกับกรณีฝ่าฝืนอย่างเข้มงวดเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคก็ได้รับการจัดการอย่างเข้มงวดรวดเร็วเพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ประชาชน ตามข้อมูลสถิติในปี 2021 คณะกรรมการพรรคและคณะกรรมการตรวจตราในทุกระดับได้ดำเนินคดีลงโทษสมาชิกพรรค 618 คนในข้อหาทุจริตคอรัปชั่นและจงใจทำผิดกฎหมาย คณะกรรมการตรวจตราส่วนกลางได้เน้นการตรวจสอบสัญญาณการทำผิดขององค์กรพรรคและสมาชิกพรรคที่เกี่ยวข้องกับคดีที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการฯ ส่วนคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้สั่งลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคอรัปชั่นด้วยหลักการ "ไม่มีเขตต้องห้าม ไม่มีการยกเว้นไม่ว่าบุคคลทำผิดเป็นใคร" ในขณะเดียวกันหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศได้สอบสวนดำเนินคดีทุจริต 390 คดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี10คดีใหญ่ ร้ายแรง และซับซ้อน มีการเดินหน้าขยายผลการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเจาะลึก ชี้แจงลักษณะของการคอรัปชั่นในหลายกรณี ดำเนินคดีต่อผู้ต้องสงสัยที่เป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูงทั้งผู้ที่ยังดำรงตำแหน่งหน้าที่และผู้ที่เกษียณอายุราชการ ทั้งนายพลในกองทัพ รวมทั้งบุคคลระดับสูง 10 คนที่อยู่ภายใต้การกำกับของกรมการเมืองพรรคและคณะเลขาธิการกลางพรรค ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพรรคและรัฐในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นผ่านมาตรการที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง
พร้อมกับความมุ่งมั่นปฏิบัติการป้องกันการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ เวียดนามก็ได้มุ่งปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นด้วยความตั้งใจอย่างเข้มแข็งและปฏิบัติอย่างไม่หยุดยั้งไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ไม่ ละเลย พรรคและรัฐบาลเวียดนามกำลังพยายามที่จะจัดการกับกรณีที่รุนแรงที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่ประชาชน ควบคู่กับการต่อต้านการคอรัปชั่น พรรคและรัฐบาลเวียดนามยังเน้นการบริหารชี้นำเพื่อผลักดันการสร้างและปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ต่อไปเพื่อไม่ให้ "การทุจริตคอรัปชั่น" เกิดขึ้นได้ เน้นการควบคุมอำนาจเพื่อป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นในด้านที่อาจจะเกิดการทุจริตได้ การตรวจสอบทรัพย์สินและรายได้ต้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบช่องโหว่และข้อจำกัดด้านกลไก นโยบาย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมูล การใช้ที่ดิน การเงิน และทรัพย์สินสาธารณะ การแก้ไขและเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการตรวจตรา กฎหมายว่าด้วยที่ดิน กฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติประชาธิปไตยในระดับอำเภอ เขต แขวงและโครงการกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น
ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าพรรคและรัฐเวียดนามได้ตั้งใจต่อต้านการคอรัปชั่นอย่างเข้มงวดเด็ดขาด และตระหนักเสมอว่า การต่อต้านกับ "ศัตรูภายใน" ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการประนีประนอม เป็นภารกิจที่ลำบากและยาวนาน โดยความมุ่งมั่นและความพยายามบนเจตนารมณ์ของหลักนิติธรรมก็เพื่อทำให้การทุจริตคอรัปชั่นไม่เป็นภัยคุกคามต่อการคงอยู่ของระบอบและการพัฒนาประเทศเวียดนามที่ยุติธรรมแข็งแกร่งและมั่นคงอีกต่อไป./.