ปฏิบัติสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง

Thu Hoa
Chia sẻ

(VOVWORLD) - ในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนโลก 10 ธันวาคมของทุกปี กลุ่มที่เป็นอริและพวกที่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐเวียดนามมักจะใช้คารมเก่าๆเพื่อปล่อยข่าวเท็จและข้อมูลที่บิดเบือนความจริง ปฏิเสธความพยายามและผลสำเร็จของเวียดนามในการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน โดยล้วนแต่เป็นคารมที่ไร้มูลความจริงเพราะตั้งแต่การสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ธำรงการปฏิบัติเป้าหมายและนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายคือ ให้ความเคารพ ปกป้องและค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

ปฏิบัติสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง - ảnh 1การศึกษาภาคบังคับคือความสำเร็จของเวียดนามในการปฏิบัติสิทธิของมนุษย์  (VNA) 

สิทธิมนุษยชนคือคุณค่าของมนุษยชาติและได้รับการรับรองจากแทบทุกประเทศ รวมทั้งเวียดนาม ตั้งแต่การสถาปนาประเทศตามระบอบประชาธิปไตยสังคมนิยมจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายส่งเสริม ปกป้องและค้ำประกันสิทธิมนุษยชนให้แก่ประชาชนทุกคน ถึงแม้เวียดนามไม่ใช่ประเทศแรกๆที่เสนอประเด็นด้านสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ แต่ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เข้าถึงสิทธิมนุษยชนอย่างรวดเร็ว โดยในปฏิญญาเอกราชที่ประธานโฮจิมินห์เป็นผู้เขียนและอ่านต่อหน้าสาธารณชนเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 เพื่อสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามระบุว่า “ทุกประชาชาติในโลกถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน ทุกประชาชาติต่างมีสิทธิ์ในการใช้ชีวิต มีสิทธิ์ได้รับเสรีภาพ และมีความสุข” โดยผ่านการยืนยันคุณค่าของประชาชาติที่สะท้อนให้เห็นจากสิทธิความเสมอภาค สิทธิในการมีชีวิต มีความสุขและมีเสรีภาพ ประธานโฮจิมินห์ได้ย้ำว่า สิทธิของมนุษย์จะได้รับการค้ำประกันก็ต่อเมื่อมีความผูกพันกับสิทธิแห่งเอกราชและเสรีภาพของประชาชาติ และในชื่อของประเทศเวียดนามตั้งแต่จัดตั้งทางการปกครองการปฏิวัติจนถึงปัจจุบันต่างอยู่คู่กับคำขวัญประจำประเทศที่ว่า  “เอกราช-เสรีภาพ-ความผาสุก” ซึ่งหมายความว่า เป้าหมายที่เสมอต้นเสมอปลายของประชาชาติเวียดนามคือค้ำประกันประชาชาติที่มีเอกราช ประชาชนมีอิสระ เสรีและมีชีวิตที่อิ่มหนำผาสุก

การจัดทำและแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ เช่น รัฐธรรมนูญปี 1946 รัฐธรรมนูญปี 1959 รัฐธรรมนูญปี 1980 รัฐธรรมนูญปี 1992 และรัฐธรรมนูญปี 2013 ต่างกำหนดถึงสิทธิของมนุษย์และสิทธิพลเมือง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 2013 มี 1 บรรพเกี่ยวกับสิทธิของมนุษย์ สิทธิและหน้าที่ขั้นพื้นฐานของพลเมือง โดยต่อจากมาตราที่ 1 ที่ระบุถึงอำนาจอธิปไตยทางภูมิศาสตร์ มาตราที่ 2 ก็ได้ยืนยันถึงหลักอำนาจอธิปไตยสูงสุดที่เป็นของประชาชน นั่นคือ “รัฐสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามคือนิติรัฐของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน” และนับเป็นครั้งแรกที่คำว่า “Nhân Dân” หรือแปลว่า ประชาชน ถูกพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ในรัฐธรรมนูญเพื่อย้ำถึงสถานะและบทบาทชี้ขาดของประชาชนในประวัติศาสตร์และในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ส่วนในช่วงปี 2014-2019 รัฐเวียดนามได้ประกาศใช้เอกสารประกอบกฎหมายและกฤษฎีกากว่า 100 ฉบับเกี่ยวกับการค้ำประกันสิทธิของมนุษย์และสิทธิของพลเมือง

ผลสำเร็จในการปฏิบัติสิทธิมนุษยชนในเวียดนามในตลอดกว่า 70ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นจากผลงานในทุกด้าน โดยเฉพาะก้าวพัฒนาที่ข้ามขั้นในด้านเศรษฐกิจหลังการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตลอดเกือบ 35 ปี โดยจากเศรษฐกิจการเกษตรที่ล้าหลังและมีจีดีพีที่ 1 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 1985 จีดีพีได้เพิ่มขึ้นเป็น18.7 เท่าในปี 2019 อยู่ที่ 2 แสน 6 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  เมื่อเร็วๆนี้ นิตยสาร The Economist  ฉบับเดือนสิงหาคมปี 2020 ได้ระบุเวียดนามในรายชื่อ 16 เศรษฐกิจเพิ่งโดดเด่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้เศรษฐกิจโลกตกเข้าสู่ภาวะถดถอย รัฐบาลเวียดนามได้ชี้นำปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงเพื่อปฏิบัติ 2 เป้าหมายพร้อมกัน ซึ่งช่วยให้เวียดนามมีการขยายตัวเป็นบวกในปี 2020 นี่เป็นพื้นฐานให้แก่การปฏิบัตินโยบายสวัสดิการสังคม วัฒนธรรมและสังคม สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นจากดัชนีพัฒนามนุษย์หรือ HDI  โดยตามรายงานพัฒนามนุษย์ปี 2019 ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติที่ประกาศเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมปี 2019 ดัชนี HDI ของเวียดนามอยู่ที่ 0.63 อยู่อันดับที่ 118 จาก 189 ประเทศ อายุขัยเฉลี่ยประชากรเพิ่มขึ้น 4.8 ปี รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 354% สิ่งนี้ช่วยให้เวียดนามถูกระบุในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวดัชนี HDI สูงที่สุดในโลก

จากประเทศที่ล้าหลังและไม่มีชื่อบนแผนที่โลก ภายหลังการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประชาชาติ การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิมากว่า 70 ปี เวียดนามได้กลายเป็นประเทศที่มีสันติภาพ เอกราช ได้รับการรับรองจากประชาคมโลกให้เป็นหนึ่งในประเทศที่เดินหน้าและเป็นจุดเด่นเกี่ยวกับการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจน ปฏิบัติความยุติธรรมและความก้าวหน้าทางสังคม เวียดนามมีศักยภาพในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและวัฒนธรรมเพื่อค้ำประกันสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆของมนุษย์

การที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกำหนดเป้าหมายการสร้างสรรค์ประเทศตามแนวทางสังคมนิยม “ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม” ที่มีความหมายย้ำถึงการที่เวียดนามพยายามค้ำประกันสิทธิในการมีชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกและสิทธิเสรีภาพที่ประธานโฮจิมินห์ได้ระบุในปฏิญญาเอกราช  การที่ประเทศพัฒนาอย่างเข้มแข็งและมีการค้ำประกันเสรีภาพและประชาธิปไตยในทุกด้านคือคำมั่นของเวียดนาม ประเทศต่างๆและประชาคมโลกในการปฏิบัติสิ่งที่มีค่าเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ถูกระบุในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างมีประสิทธิภาพ.

Komentar