รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน (Photo: TTXVN) |
ผลสำเร็จที่สำคัญที่ประเทศได้บรรลุในวันนี้มีส่วนร่วมอันล้ำค่าของชาวเวียดนามโพ้นทะเล รวมอยู่ด้วย ซึ่งชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเห็นพ้องและสนับสนุนภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และพร้อมปฏิบัติภาระหน้าที่ของประเทศ
ทูตแห่งมิตรภาพต่างๆ
นาย เหงวียนหงอกกวาง เกิดเมื่อปี 1995 เป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกในมหาวิทยาลัย Hanyang กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เขาได้รับรางวัล “นักศึกษา 5 ดี” ระดับส่วนกลาง ซึ่งเป็นรางวัลที่สมาคมนักศึกษาส่วนกลางเวียดนามมอบให้แก่นักศึกษาที่ได้ 5 มาตรฐานได้แก่ มีคุณสมบัติที่ดี มีผลการเรียนดี เข้าร่วมกิจกรรมอาสาอย่างเข้มแข็ง สามารถปรับตัวได้ดีและมีสุขภาพดี
ในปีที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาระหว่างประเทศซึ่งนายกวาง เป็นหัวหน้ากลุ่มได้รับรางวัลที่ 1ของการประกวดความคิดริเริ่มภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งหัวข้อวิจัยของกลุ่มกล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกโดยใช้เวลาที่สั้นลง
“ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากเพราะมีไม่กี่กลุ่มที่มีสมาชิกถือหลายสัญชาติ ซึ่งในนั้น มีนักศึกษาชาวสาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซียและเวียดนามได้รับรางวัลในการประกวดระหว่างประเทศในสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นการประกวดเกี่ยวกับความคิดริเริ่มการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ผมดูแลการวางแผนและมีความคิดริเริ่มเพื่อจัดทำรูปแบบการบำบัดและการออกแบบ”
นอกจากการปฏิบัติโครงการดังกล่าว นาย หงอกกวาง ยังเป็นนักข่าวกิตติมศักดิ์ของศูนย์สาธารณรัฐเกาหลี-อาเซียนในสาธารณรัฐเกาหลี ในปีที่ผ่านมา นายกวางได้เขียนบล็อกประมาณ 30 บทและบทความ 30 บทเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลีลงหนังสือพิมพ์
“กิจกรรมนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลี เป้าหมายของผมเมื่อเขียนบทความนี้คือประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของคนเวียดนามผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็เป็นโอกาสเพื่อให้ผมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของเวียดนาม คนเวียดนามและเอกลักษณ์วัฒนธรรมเวียดนามต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ”
นาง เหงวียนถิเบี๊ยด ที่อาศัยในสาธารณรัฐเกาหลีได้ 14 ปีแล้วเป็นหนึ่งในผู้ที่พยายามอนุรักษ์และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลี นับตั้งแต่ปี 2016 มาจนถึงปัจจุบัน นางเบี๊ยดได้เปิดชั้นเรียนสอนภาษาเวียดนามฟรี 5 ชั้นให้แก่เด็กๆ โดยมีผู้เข้าเรียนประมาณ 30 คน
“ดิฉันกำลังดูแลการพัฒนาด้านภาษา แนะนำและส่งเสริมให้ผู้ปกครองสอนภาษาเวียดนาม ให้คนรุ่นที่สองและที่สาม พัฒนาภาษาเวียดนามและวัฒนธรรมเวียดนามในบ้านเกิดแห่งที่สองนี้ ซึ่งเป็นงานที่ดิฉันชอบมาก”
ส่วนนาง หวอหงอกเตี๊วยด ที่อาศัยในสาธารณรัฐเกาหลีมา 18 ปี และเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีความคล่องตัวในการค้าข้าวก็เป็นหนึ่งในชาวเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลีที่ไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองเท่านั้น หากยังเป็นสะพานเชื่อมในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจทวิภาคีอีกด้วย
"ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศมีจำนวนมาก ดังนั้น ความต้องการข้าวเวียดนามจึงสูงมาก ชาวสาธารณรัฐเกาลีชอบข้าวเวียดนาม ซึ่งการส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนามไปยังต่างประเทศจะช่วยให้เกษตรกรเวียดนามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันอยากทำ ปัจจุบัน ดิฉันจัดหาข้าวให้แก่โรงงานบางแห่งหรือผู้ขายปลีกเท่านั้น ดิฉันพยายามพัฒนาการประกอบธุรกิจมากขึ้นเพราะเมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ Made in Vietnam ดิฉันก็รู้สึกภูมิใจมาก”
มีส่วนร่วมสร้างพลังให้แก่ประเทศ
นาย หงอกกวาง นางเหงวียนถิเบี๊ยดและนางหงอกเตวี๊ยด เป็นหนึ่งในจำนวนชาวเวียดนามนับร้อยคนที่อาศัยในกว่า 130 ประเทศและดินแดน ซึ่งเป็นทูตที่ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม ประเทศและคนเวียดนาม ซึ่งคุณค่าวัฒนธรรมพื้นเมืองที่ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกำลังอนุรักษ์และส่งเสริมไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยเชื่อมโยงระหว่างสมาชิกในครอบครัว ระหว่างครอบครัวกับชุมชนกับปิตุภูมิเท่านั้นหากยังเป็นสารที่ส่งถึงเพื่อมิตรชาวต่างชาติ มีส่วนร่วมสร้างพลังให้แก่เวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน ได้เผยว่า
“ในภารกิจการสร้างสรรค์ ปกป้องและพัฒนาประเทศ ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศมีบทบาทที่สำคัญ มีส่วนร่วมต่อการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกของเวียดนาม ส่งเสริมความร่วมมือ กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศ องค์การและหุ้นส่วนต่างๆ ซึ่งชาวเวียดนามโพ้นทะเลร่วมกันระดมแหล่งพลังต่างๆจากต่างประเทศเพื่อปฏิบัติภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ ยกระดับสถานะและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศและคนเวียดนามบนเวทีโลก”
ผลสำเร็จของประเทศในปัจจุบันเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนเวียดนามนับร้อยล้านคนทั้งภายในและต่างประเทศ การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ได้กำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาเวียดนามให้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาและมีรายได้สูงในปี 2045 ในกระบวนการนี้ ชาวเวียดนามโพ้นทะเลจะร่วมกันปฏิบัติเพื่อประเทศเวียดนามที่เจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็ง.