ความสัมพันธ์ระหว่างจีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเน้นแนวโน้มแห่งความร่วมมือ

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – ความสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือคือ จีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นได้เกิดปัญหาขึ้นอีกครั้งหลังการเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิของส.ส.ญี่ปุ่น 85 นายในโอกาสเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ การเยือนครั้งนี้ก็สร้างความไม่พอใจต่อสองประเทศเพื่อนบ้านคือจีนและสาธารณรัฐเกาหลี

(VOVworld) – ความสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือคือ จีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นได้เกิดปัญหาขึ้นอีกครั้งหลังการเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิของส.ส.ญี่ปุ่น 85 นายในโอกาสเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ การเยือนครั้งนี้ก็สร้างความไม่พอใจต่อสองประเทศเพื่อนบ้านคือจีนและสาธารณรัฐเกาหลี

ความสัมพันธ์ระหว่างจีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเน้นแนวโน้มแห่งความร่วมมือ - ảnh 1
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีออกแถลงข่าวร่วมหลังการพบปะ ณ กรุงโตเกียว (Photo AFP/VNplus)

การเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิของส.ส.ที่มาจากพรรคการเมืองต่างๆของญี่ปุ่นได้มีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นส่งเครื่องเซ่นไหว้ไปยังศาลเจ้ายาสุคุนิเพียง 1 วัน ซึ่งได้ถูกประท้วงย่างหนักจากสาธารณรัฐเกาหลีและจีน
ความขัดแย้งแห่งประวัติศาสตร์
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ปักกิ่งคัดค้านการส่งสิ่งของไปเซ่นไหว้ศาลเจ้ายาสุคุนิและเรียกร้องให้ญี่ปุ่นพิจารณาท่าทีที่รุนแรงในอดีตและเสนอมาตรการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมระหว่างประเทศ ส่วนสาธารณรัฐเกาหลีได้แสดงความ “กังวลอย่างลึกซึ้งและความผิดหวัง” ต่อท่าทีของกลุ่มส.ส.ญี่ปุ่น โดยในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศว่า รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีเรียกร้องให้นักการเมืองญี่ปุ่นตระหนักในเรื่องประวัติศาสตร์ให้ถูกต้องพร้อมทั้งแสดงความสำนึกในความผิดอย่างจริงจังผ่านกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน ประชาคมระหว่างประเทศและมุ่งสู่อนาคต
ศาลเจ้ายาสุกุนิถูกใช้เพื่อเป็นที่สถานที่บูชาดวงวิญญาณของทหารญี่ปุ่น 2ล้าน 5 แสนนายที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่2 แต่เมื่อปี 1978 ได้มีการเชิญป้ายชื่อบุคคล 14 คนที่ถูกหาว่าเป็นอาชญากรสงครามไว้ที่ศาลเจ้านี้ด้วย ซึ่งได้สร้างความถกเถียงทางการทูตอย่างต่อเนื่องเพราะสาธารณรัฐเกาหลีและจีนถือว่าเป็นการรำลึกเชิดชูอาชญากรสงครามและถือศาลเจ้ายาสุกุนิเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิขุนศึกญี่ปุ่นในช่วงสงคราม ดังนั้น การเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและสมาชิกรัฐบาลญี่ปุ่นจึงทำให้สาธารณรัฐเกาหลีไม่พอใจโดยรัฐบาลได้ออกมาประท้วงและสื่อต่างๆก็เสนอข่าวคัดค้านการเยือนดังกล่าว จนกระทั่งเกิดการเดินขบวนประท้วงของประชาชน ส่วนประชาชนจีนก็แสดงการคัดค้านเช่นกัน รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาประท้วงและบางครั้งก็บานปลายจนเกิดการเดินขบวนประท้วง ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นเองนั้น การเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ของผู้นำรัฐบาลก็เคยสร้างการถกเถียงกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา
การแข่งขันในทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ความสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือตึงเครียด นอกจากความขัดแย้งในเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศาลเจ้าแห่งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศก็สามารถเกิดมรสุมได้ง่ายเนื่องจากการพิพาททางดินแดน โดยในหลายปีมานี้ ได้เกิดการพิพาทและฟ้องร้องกันหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น การพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับจีนเกี่ยวกับปัญหาหมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยูในภาษาจีนที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ การพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับสาธารณรัฐเกาหลีเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะทาเกชิมะหรือดอกโดในภาษาเกาหลี แม้หมู่เกาะดังกล่าวจะมีไม่คุณค่าทางเศรษฐกิจ แต่กลับมีความหมายสำคัญในด้านอธิปไตยของประเทศ ดังนั้น ทั้งสองประเทศต่างประกาศว่า หมู่เกาะแห่งนี้อยู่ภายใต้อธิปไตยของตนในตลอดกว่า 1 ศตวรรษที่ผ่านมา นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีและจีนยังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากการที่สหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสาธารณรัฐเกาหลีอาจติดตั้งระบบป้องกันขีปานาวุธ THAAD ในดินแดนของสาธารณรัฐเกาหลี

ความสัมพันธ์ระหว่างจีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเน้นแนวโน้มแห่งความร่วมมือ - ảnh 2
รัฐมนตรีต่างระเทศ 3 ท่าน (Photo AFP/VNplus)

ความร่วมมือยังเป็นแนวโน้มหลักในความสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศ
ทั้งนี้เบื้องหลังของการถกเถียงกันนั้นคือการแข่งขันอย่างดุเดือดทางด้านภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างญี่ปุ่น ซึ่งอยากยืนยันสถานะประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคกับจีน ที่กำลังเป็นที่โดดเด่นและสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีนโยบายแข็งกร้าวในหลายด้าน รวมทั้งในปัญหาดินแดน แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มแห่งความร่วมมือยังคงเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ทางการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือด้วยจุดเด่นคือความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า โดยในทางเป็นจริง สามประเทศได้ผูกพันกันอย่างใกล้ชิดทางเศรษฐกิจและต่างตระหนักได้ดีว่า ถ้าหากทำลายความสัมพันธ์นี้ก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ในฐานะเป็นสามประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ความสัมพันธ์ระหว่างจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีจึงมีผลที่สำคัญในเชิงลึกต่อสถานการณ์ในภูมิภาค ดังนั้น ต้องทำอย่างไรเพื่อควบคุมความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจร่วมกันและผลักดันความร่วมมือเพื่อรักษาความมั่นคง เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า ความตึงเครียดในปัจจุบันที่เกิดจากความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์เป็นเพียงการถอยหลังชั่วคราวในมาตรการทางการทูตเท่านั้น เพราะความร่วมมือและการแข่งขันคือกระบวนการวที่ซับซ้อนและแต่ละประเทศต่างก็มีเหตุผลของตัวเองเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน.

Komentar