ข้อตกลงปารีสปี 1973 นิมิตหมายที่สำคัญของการทูตเวียดนาม

Bá Thi
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่  27 มกราคมปี 1973 ข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการยุติสงคราม นำสันติภาพมาสู่เวียดนามอีกครั้งได้รับการลงนาม ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนี่เป็นผลจากการเจรจาที่ยากลำบากและยาวนานมากที่สุดในประวัติศาสตร์การทูตโลก อีกทั้งสร้างนิมิตหมายแห่งชัยชนะทางการทูต แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทักษะการทูตปฏิวัติเวียดนาม ตลอดจนมีความหมายแห่งยุคสมัยที่ลึกซึ้ง
ข้อตกลงปารีสปี 1973 นิมิตหมายที่สำคัญของการทูตเวียดนาม - ảnh 1ภาพการลงนามข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการยุติสงคราม นำสันติภาพมาสู่เวียดนามอีกครั้งเมื่อวันที่  27 มกราคมปี 1973 (qdnd.vn)

การเจรจาข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับสงครามเวียดนามได้ใช้เวลานานถึง 5 ปีคือตั้งแต่ปี 1968- 1973 โดยได้มีการจัดประชุมเต็มคณะ 201 ครั้ง การประชุมระดับสูง 45 ครั้ง จัดการแถลงข่าว 500 ครั้งและตอบสัมภาษณ์สื่อมวลชน ประมาณ1 พันครั้ง ซึ่งการทูตเวียดนามที่แม้จะเพิ่งก่อตั้ง แต่ก็มีความมุ่งมั่น เป็นตัวแทนของความยุติธรรมและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนหัวก้าวหน้าในทั่วโลกจนได้รับชัยชนะในการเจรจา

ชัยชนะของภูมิปัญญาการทูตเวียดนาม

เอกสารทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ในทุกการประชุมและการพบปะระดับสูงของกระบวนการเจรจาข้อตกลงปารีส คณะเจรจาเวียดนามไม่เคยมองข้ามประเด็นที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับสงครามในอินโดจีน โดยเน้นประเด็นที่สำคัญ 2 ข้อได้แก่กองทัพสหรัฐและพันธมิตรในย่านเอเชีย-แปซิฟิกต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากภาคใต้ของเวียดนามและให้ความเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานและสิทธิในการกำหนดอนาคตของประชาชนภาคใต้เวียดนาม ซึ่งนาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า หลักการแห่งเอกราชและเป็นตัวของตัวเองได้รับการยืนหยัดเชิดชูในระหว่างการเจรจา ส่วนท่านเลดึ๊กเถาะที่ปรึกษา คณะเจรจาเวียดนามได้ใช้แนวทาง ”ยึดมั่นจิตใจอันเด็ดเดี่ยวเพื่อรับมือทุกความผันผวน”อย่างมีความคิดสร้างสรรค์และแปรชัยชนะในสมรภูมิเป็นความได้เปรียบในการเจรจา นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า

“ท่าน เลดึ๊กเถาะ ได้ใช้แนวทางยุทธศาสตร์นี้ ของประธานโฮจิมินห์ในการเจรจาหลายร้อยครั้งอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยืนหยัดปฏิบัติตามแนวทางการชี้นำของพรรคฯบวกกับประสบการณ์และไหวพริบ ซึ่งท่านเลดึ๊กเถาะและคณะเจรจาได้แปรชัยชนะในสมรภูมิเป็นความได้เปรียบเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในการเจรจา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาการทูตเวียดนาม”

บทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่า

50 ปี หลังการลงนามข้อตกลงปารีส ผลงานวิจัย บทวิเคราะห์ การประเมินของผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศล้วนได้ยืนยันว่า ข้อตกลงปารีสปี 1973 คือชัยชนะที่สำคัญและเป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ของการทูตเวียดนาม อีกทั้งเป็นบทเรียนที่ล้ำค่าและมีความหมายแห่งยุคสมัยที่ลึกซึ้งในด้านการทูต โดยความเข้าใจสถานการณ์และใช้โอกาสอย่างเต็มที่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง นาง เหงวียนถิบิ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลสาธารณรัฐภาคใต้เวียดนามช่วงปี 1969 – 1975 และหัวหน้าคณะเจรจาของรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลในการเจรจาข้อตกลงปารีสได้ย้ำว่า

“ต้องประเมินสถานการณ์ระหว่างสองฝ่าย ใช้โอกาสต่างๆอย่างเต็มที่ มีแนวทางการเจรจาที่ชัดเจน คล่องตัวและมีความคิดริเริ่มต่างๆอย่างสร้างสรรค์”

ข้อตกลงปารีสปี 1973 นิมิตหมายที่สำคัญของการทูตเวียดนาม - ảnh 2นาย หวูควาน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (vtc)

ส่วนนาย หวูควาน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ข้อสังเกตว่า

“นี่คือการเจรจาเกี่ยวกับการยุติสงครามที่ใช้เวลายาวนานที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้การทูตเวียดนามสามารถถอดบทเรียนต่างๆ เช่น การประสานงาน การยึดมั่นแนวทางต่างๆ ความอดทนและความคล่องตัว”

เอกสารต่างๆระบุว่า ในช่วงการเจรจาข้อตกลงปารีส มีการจัดการชุมนุม กิจกรรมต่อต้านสงครามและสนับสนุนเวียดนามหลายพันครั้งในประเทศต่างๆในทั่วโลก รวมถึงในประเทศสหรัฐ ซึ่งขบวนการต่อต้านสงครามและสนับสนุนเวียดนามเป็นการให้กำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ทั้งการต่อสู้ในสมรภูมิและคณะเจรจาเวียดนามที่เข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงปารีส มีส่วนร่วมนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงปารีสและชัยชนะของการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ฤดูใบไม้ผลิปี 1975 เพื่อปลดปล่อยภาคใต้และรวมประเทศเวียดนามเป็นเอกภาพ

การสนับสนุนของประชาคมโลกก็ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับการแสวงหาและใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนและแหล่งพลังจากภายนอกต่อภารกิจการปกป้อง สร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ยากที่จะคาดเดาได้และมีความท้าทายนานัปการในปัจจุบัน.

Komentar