ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ผู้ลงสมัครจะพบปะโดยตรงกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือทำการหาเสียงผ่านสื่อต่างๆเพื่อเสนอแผนการที่จะปฏิบัติถ้าหากได้รับเลือกเป็นผู้แทนสภาแห่งชาติและผู้แทนสภาประชาชน พูดคุยปัญหาต่างๆที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ความสนใจ และทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความเข้าใจในตัวผู้ลงสมัครมากขึ้นเพื่อพิจารณาว่าจะลงคะแนนให้หรือไม่
การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมีขึ้นอย่างมีประชาธิปไตยและเปิดเผย
กฎหมายเวียดนามระบุว่า การพบปะระหว่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องมีขึ้นอย่างมีประชาธิปไตย ยุติธรรมและถูกต้องตามข้อกำหนด นอกจากนี้การหาเสียงเลือกตั้งผ่านสื่อต่างๆก็ถือเป็นช่องทางที่สำคัญ นาย เลบ๊าจิ่ง อดีตรองประธานแนวร่วมปิตุภูมิ แสดงความคิดเห็นว่า การประชุมหาเสียงเหล่านี้มีความหมายเหมือนการทดสอบทักษะความสามารถและคุณสมบัติของผู้ลงสมัครเพื่อดูว่าจะมีความใกล้ชิดกับประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ “ผู้ลงสมัครต้องแสดงทักษะความสามารถและความรับผิดชอบผ่านแผนการต่างๆที่จะปฏิบัติถ้าได้รับเลือกเพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตัดสินใจลงคะแนนให้ และถ้าได้รับเลือก ประชาชนก็จะเฝ้าติดตามการปฏิบัติคำมั่นต่างๆที่ผู้ลงสมัครได้ให้ไว้ในการหาเสียง”
ส่วนนาย เลญือเตี๊ยน อดีตรองหัวหน้าคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม การศึกษาเยาวชน ยุวชนและเด็กสังกัดสภาแห่งชาติแสดงความคิดเห็นว่า เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ ผู้ลงสมัครต้องเตรียมพร้อมเนื้อหาที่จะแนะนำต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการหาเสียง โดยต้องมีแผนการปฏิบัติ นำเสนอมาตรการแก้ไขและนโยบายที่สนับสนุนการพัฒนาประเทศและท้องถิ่น “ในการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ลงสมัครต้องแสดงความจริงใจและความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศ”
ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชน
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่างมีความปรารถนาว่า ผู้แทนสภาแห่งชาติและสภาประชาชนทุกระดับในวาระที่จะถึงนี้ต้องเป็นผู้ที่ตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตามเจตนารมณ์ “สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนถึงแม้จะยุ่งยากแค่ไหนก็ต้องพยายามทำให้ได้” ดังนั้น ปัญหาที่ได้รับความสนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคือ ผู้ลงสมัครจะทำอะไรและปฏิบัติหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชนเช่นไรถ้าหากได้รับเลือกเป็นผู้แทนสภาแห่งชาติและผู้แทนสภาประชาชนทุกระดับ คุณ เหงียนเติมจริง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตด๊งดา กรุงฮานอยและนาย ชูวันเฟือง จากเมืองเหวียดตรี จังหวัดฟู้เถาะได้แสดงความคิดเห็นว่า “ในการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ลงสมัครต้องพูดถึงเป้าหมายและความพยายามถ้าหากได้รับเลือกเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อช่วยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทราบว่า ผู้ลงสมัครมีคุณสมบัติเพียงพอเพื่อปฏิบัติตามแผนการและความปรารถนาของผู้มิสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่”
“หวังว่า ผู้ลงสมัครจะมีแผนการปฏิบัติและให้คำมั่นต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะติดตามและประเมินประสิทธิภาพการทำหน้าที่ของผู้ลงสมัคร”
การเลือกตั้งผู้แทนสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 และผู้แทนสภาประชาชนทุกระดับวาระปี 2021-2025 จะมีขึ้นในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ดังนั้น การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างมีประชาธิปไตย เปิดเผยและยุติธรรมจะอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับตัวของผู้ลงสมัครเพื่อพิจารณาเลือกผู้ที่มีทักษะความสามารถมาเป็นตัวแทนของประชาชนในสภาแห่งชาติ ซึ่งเป็นสำนักงานที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐเวียดนาม.