นายกรับมนตรีพบปะกับสถานประกอบการนอกรอบการประชุม (Photo: baodientuchinhphu.vn)

นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก สนทนากับสถานประกอบการ โดยการประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ทั่วประเทศครั้งแรกได้มีขึ้นเมื่อ 1 ปีก่อน ณ นครโฮจิมินห์ โดยมีตัวแทน1 หมื่น 2 พันคนจากสถานประกอบการทุกภาคส่วน เช่น สถานประกอบการที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอ สถานประกอบการภาครัฐ บริษัทหุ้นส่วน ธุรกิจครอบครัว  รวมทั้งสถานทูตประเทศต่างๆ สถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐบางแห่งเข้าร่วม

แก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ

หลังการประชุมกับสถานประกอบการเมื่อปี 2016 นายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้มติที่ 35 เกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาสถานประกอบการ ส่วนกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆได้ยกเลิกระเบียบราชการที่ไม่เหมาะสมและขัดขวางการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เข้มแข็งของรัฐบาลเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ อีกทั้งส่งเสริมให้สถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและพัฒนานวัตกรรม นาย ดั่งเท้เหลือง เลขาธิการสมาคมสถานประกอบการเขตหายอาน เมืองท่าไฮฟองได้เผยว่า

“ประธานคณะกรรมการเมืองท่าไฮฟองได้สนทนากับสถานประกอบการเป็นประจำทุกเดือนเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการอย่างทันการณ์ตามเจตนารมณ์ของมติที่ 35 ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สถานประกอบการ โดยปัญหาต่างๆที่ต้องแก้ไขในระดับกระทรวงก็จะส่งถึงกระทรวงที่รับผิดชอบ ส่วนสำหรับปัญหาในระดับท้องถิ่นก็จะส่งให้ทางการท้องถิ่นแก้ไข”

นาย เหงวียนชี๊หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้เผยว่า ความพยายามปฏิรูประเบียบราชการเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ ลดค่าใช้จ่ายและส่งเสริมการทำธุรกิจสตาร์ทอัพในท้องถิ่นต่างๆตามเจตนารมณ์ของมติที่ 35 ได้มีส่วนร่วมที่สำคัญในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนาม เฉพาะในปี 2016 ได้มีการจัดตั้งสถานประกอบการใหม่กว่า 1 แสนแห่ง ซึ่งสูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาและเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปี 2015  ส่วนรายงานเกี่ยวกับดัชนีบรรยากาศการประกอบธุรกิจ ปี 2016 ของธนาคารโลกระบุว่า เวียดนามได้เลื่อนขึ้น9อันดับมาอยู่อันดับ 82 จากจำนวนทั้งหมด 190 เศรษฐกิจ ส่วนองค์กรต่างๆ เช่น Eurocham - Amcham และ Jetro ต่างก็มีการประเมินในเชิงบวกเกี่ยวกับบรรยากาศการประกอบธุรกิจในเวียดนาม

เดินพร้อมและสนับสนุนสถานประกอบการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง

ก่อนการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสถานประกอบการปี 2017 หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้รับข้อเสนอแนะ 200 ข้อจากสถานประกอบการ โดยได้ส่งให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆพิจารณาแก้ไข พร้อมทั้งยื่นเสนอมาตรการแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการต่อนายกรัฐมนตรี นาย หวูเตี๊ยนโหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้ประเมินว่า

“นายกรัฐมนตรีจะรับฟังความคิดเห็นของทั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสถานประกอบการเพื่อมีมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเด็ดขาด ซึ่งตามความคิดเห็นของสถานประกอบการ มีกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆยังไม่แปรมติที่ 35 ให้เป็นรูปธรรม ดังนั้น ความท้าทายที่สำคัญของนายกรัฐมนตรีคือ ทำเช่นไรเพื่อแปรแนวทางการปฏิรูปของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรมในท้องถิ่นต่างๆ”

เวียดนามตั้งเป้าหมายว่า จนถึงปี 2020 จะมีสถานประกอบการ 1 ล้านแห่ง แต่ข้อมูลสถิติล่าสุดปรากฎว่า จำนวนสถานประกอบการที่ล้มละลายในไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บรรยากาศการประกอบธุรกิจของเวียดนามยังคงมีปัญหาต่างๆที่ต้องได้รับการแก้ไข การประชุมนายกรัฐมนตรีกับสถานประกอบการปี 2017 มีขึ้นหลังจากที่การประชุมครั้งที่ 5 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 มีมติส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลที่เดินพร้อมและสนับสนุนสถานประกอบการเพื่อให้สถานประกอบการกลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม.