วันที่ 11 เมษายนปี 2019 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหารือเกี่ยวกับ "สตรีในกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ" รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ เลหว่ายจุง หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Vietnamplus)
|
การลงสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตครีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่สันติภาพ เพื่อเอกราชของประชาชาติ ความร่วมมือและพัฒนา นโยบายการต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของเวียดนามในฟอรั่มและองค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งองค์กรพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดของสหประชาชาติ
สถานการณ์โลกมีความท้าทายมากมาย
เวียดนามเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008-2009 เป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2008 และเมื่อเดือนตุลาคมปี 2009 ซึ่งผลสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาได้สร้างชื่อเสียงให้แก่เวียดนามบนเวทีนานาชาติ อีกทั้งเป็นประสบการณ์ที่ดีเพื่อให้เวียดนามเตรียมแผนการในเวลาที่จะถึงเมื่อได้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อน สถานการณ์ความมั่นคงโลกในปัจจุบันยังมีความท้าทายและความผันผวนอย่างซับซ้อน อาจกล่าวได้ว่า เกือบทุกเดือน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งเป็นองค์กรรักษาสันติภาพและความมั่นคงสำคัญชั้นนำของสหประชาชาติต้องหารือเกี่ยวกับปัญหาร้อนระอุในสถานที่ทุกแห่งในภูมิภาคและโลก ซึ่งสถานการณ์ที่เป็นจริงนี้ทำให้เวียดนามต้องเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบเพื่อปฏิบัติบทบาทของตนให้ดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามกวางวิงห์ ได้แสดงความเห็นว่า “ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โลกได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สันติภาพและการพัฒนายังคงเป็นแนวโน้มหลักและเป็นเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ แต่ก็มีความผันผวนใหม่ๆที่มีความซับซ้อน นั่นคือการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างประเทศใหญ่ๆ การพิพาทระหว่างภูมิภาคต่างๆ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเกี่ยวกับมุมมองสันติภาพและความมั่นคงของประเทศต่างๆที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน ดังนั้น พวกเราต้องพิจารณาการร่วมกับประเทศต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพโลกให้มากที่สุด ผลักดันความร่วมมือของทุกประเทศในโลกเพื่อทำให้ภูมิภาคมีสันติภาพ”
ประชาคมโลกเคยประเมินเวียดนามว่า เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่กระตืนรือร้นและมีความรับผิดชอบของสหประชาชาติ สนับสนุนวิธีการเข้าถึงพหุภาคี ปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด ซึ่งในการดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติครั้งแรกวาระปี 2008-2009 เวียดนามได้สร้างนิมิตหมายที่น่าประทับใจ ดังนั้นในการลงสมัครครั้งนี้ ประชาคมโลกต่างรอคอยเวียดนามส่งเสริมบทบาทและสถานะของตน รวมทั้งการปฏิบัติแนวทางต่างๆที่ให้ความเคารพกฎหมายสากล การแก้ไขความขัดแย้งระหว่างประเทศผ่านมาตรการสันติ นาย Shahriman Lockman จากสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศมาเลเซียได้แสดงความเห็นว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือภูมิภาคที่มีความเสี่ยงเกิดการปะทะและการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ตรงกับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนจะทำให้เวียดนามมีความรับผิดชอบที่หนักหน่วงมาก แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านสงคราม 2 ครั้งและการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออก เวียดนามจะสามารถแก้ไขและป้องกันการปะทะ ผมคิดว่า สถานะของเวียดนามในหลายปีที่ผ่านมาสามารถตอบสนองความปรารถนานี้ได้”
ความรับผิดชอบเพื่อโลกที่สันติภาพ
ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในโลกมีความท้าทายมากมายทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติและประเทศสมาชิกต้องพยายามปฏิบัติหน้าที่ที่ประชาคมโลกมอบหมาย ดังนั้นเวียดนามจึงได้เตรียมและพยายามในทุกด้านเมื่อได้รับเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อสามารถสร้างพลังขับเคลื่อนและผลักดันความร่วมมือของทุกประเทศในโลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางวิงห์ ได้แสดงความเห็นว่า “พวกเราต้องเกาะติดปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในโลกด้วยความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งไม่เพียงแต่คือความรับผิดชอบในระดับประเทศเท่านั้น แต่เป็นความรับผิดชอบในระดับโลกและความรับผิดชอบของประเทศสมาชิกสหประชาชาติ 2 คือเวียดนามต้องเตรียมพร้อมในการขอคำปรึกษาจากประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สมาชิกของสหประชาชาติและประเทศที่มีปัญหาเพื่อมีข้อเสนอและมีส่วนร่วมอย่างดีที่สุด นอกจากนั้น ต้องเตรียมกลไกนโยบาย ทรัพยากรและบุคลากร โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโดยตรงทั้งที่เมืองหลวงและสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ”
แนวคิดใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลายรูปแบบหลายฝ่าย เปลี่ยนจาก “การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็ง” มาเป็น “การเป็นฝ่ายรุกและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง สร้างสรรค์ กำหนดกลไกพหุภาคี” พร้อมประสบการณ์เมื่อ 10 ปีก่อนจะเป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามปฏิบัติหน้าที่สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ให้ประสบความสำเร็จ.