(VOVWorld)-เมื่อวันที่๒๘กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น นาย โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้มีบทปราศรัยต่อรัฐสภาและสมาชิกรัฐบาลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ในบทปราศรัยดังกล่าว ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ได้กล่าวถึงแผนการที่เขาจะยืนหยัดปฏิบัติในวาระ๔ปีที่บริหารประเทศ โดยเฉพาะ ในปีแรก ซึ่งหัวข้อ "การฟื้นคืนจิตใจอเมริกัน"เป็นหัวข้อหลักของบทปราศรัยดังกล่าวและประชามติได้มีท่าทีในเชิงบวกต่อบทปราศรัยนี้
นาย โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ (Photo: vietnamplus.vn)
|
บทปราศัยต่อรัฐสภาของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ มีความแตกต่างกับบทปราศรัยในพิธีเข้าสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่๒๐มกราคมที่กล่าวถึงภาพลักษณ์ของประเทศสหรัฐที่กำลังถดถอย แต่ในบทปราศรัยครั้งนี้ได้สะท้อนมุมมองในแง่ดีและสัญญาณแห่งการไกล่เกลี่ยเพื่อสร้างความสามัคคีภายในประเทศ
คำมั่นที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัติเป้าหมายที่ให้ไว้ในวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
หัวข้อ "การฟื้นคืนจิตใจอเมริกัน"ได้คลอบคลุมบทปราศรัยครั้งนี้ของนาย โดนัล ทรัมป์ ซึ่งปัญหาแรกที่กล่าวถึงในบทปราศรัยก็คือการยืนยันถึงคำมั่นต่อสิทธิพลเรือน พร้อมทั้ง ประณามภัยคุกคามล่าสุดต่อชุมชนชาวยิวในประเทศสหรัฐ อีกทั้ง ประกาศว่า สหรัฐเป็นประเทศที่มีความสามัคคีในการประณามการก่ออาชญากรรมในทุกรูปแบบ
สำหรับด้านเศรษฐกิจประเทศ ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวถึงผลสำเร็จเบื้องต้นภายหลัง๑เดือนที่เขาขึ้นดำรงตำแหน่ง รวมทั้ง การดูดซับเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเกือบ๓ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเครือบริษัทใหญ่ๆ เช่น ฟอร์ด เฟียต- ไครสเลอร์เจเนรั่ลมอเตอร์วอลมาร์ทและล็อกฮิตได้ประกาศว่า จะลงทุนนับพันดอลลาร์สหรัฐในตลาดภายในประเทศ ซึ่งจะสร้างงานทำให้แก่ชาวอเมริกันจำนวนมาก เพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นาย โดนัล ทรัมป์ได้เรียกร้องให้สร้างบรรยากาศที่ยุติธรรมให้แก่บริษัทและแรงงานสหรัฐ พร้อมทั้ง ให้คำมั่นที่จะปรับลดภาษีให้แก่ชนชั้นกลางและสถานประกอบการสหรัฐและสร้างงานทำให้แก่แรงงานนับล้านคน ประธานาธิบดีสหรัฐยังให้คำมั่นที่จะสงวนวงเงิน ๑ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทางการของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ได้ตั้งความหวังว่า การปฏิบัติมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐธำรงอัตราการขยายตัวให้อยู่ที่ร้อยละ๓ต่อปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า อาจจะบรรลุได้
สำหรับด้านการศึกษา นาย โดนัล ทรัมป์ได้กำหนดว่า นี่เป็นปัญหาทางเชื้อชาติ พร้อมทั้ง เรียกร้องให้สมาชิกของทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันอนุมัติร่างรัฐบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา โดยจะจัดสรรเงินให้แก่คนรุ่นใหม่ที่ประสบความลำบาก รวมทั้ง ชาวสหรัฐเชื้อสายแอฟริกาและลาตินอเมริกา
ส่วนปัญหาคนเข้าเมืองและความมั่นคงแห่งชาติ ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ได้ย้ำอีกครั้งถึงความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเขตชายแดนเพื่อจำกัดกระแสผู้อพยพ โดยเห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองจะช่วยเพิ่มเงินเดือนให้แก่แรงงาน เอื้อประโยชน์ให้แก่คนว่างงาน ประหยัดเงินนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐและช่วยให้สหรัฐมีความปลอดภัยมากขึ้น นาย โดนัล ทรัมป์ ยังให้คำมั่นที่จะก่อสร้างกำแพงเลียบตามเขตชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกโดยเร็ว พร้อมทั้ง จะประกาศใช้ระบบการเข้าเมืองใหม่เพื่อจำกัดกระแสผู้อพยพที่ไม่มีทักษะความสามารถเข้าสหรัฐ อีกทั้ง เรียกร้องให้บรรดาส.ส.ของทั้งสองพรรคในรัฐสภาร่วมมือกันเพื่อวางแผนการปรับปรุงกฎหมายคนเข้าเมือง
สำหรับการต่อต้านการก่อการร้าย ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ได้เผยว่า ทางการใหม่ของสหรัฐจะมีขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ ทำเนียบขาวได้กำชับให้กระทรวงกลาโหมคิดหาแผนการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส พร้อมทั้ง ให้คำมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรของสหรัฐในการต่อต้านการก่อการร้าย
ท่าทีในเชิงบวกจากประชามติ
ประชามติต่างให้ความสนใจต่อบทปราศรัยในรัฐสภาของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์เนื่องจากอยากดูแผนการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติคำมั่นที่เขาให้ไว้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นาย Sean Spicer โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เผยว่า ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ จะใช้โอกาสดังกล่าวเพื่อวางวิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ประเทศและเพื่อให้สหรัฐตระหนักได้ดีว่า สหรัฐจะพัฒนาถึงระดับไหนและต้องทำอย่างไรเพื่อบรรลุเรื่องนี้และศักยภาพของสหรัฐคืออะไร
แม้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากส.ส.พรรคเดโมแครตแต่ผลการสำรวจประชามติของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นปรากฎว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ได้มีท่าทีในเชิงบวกต่อบทปราศรัยดังกล่าว นาย Vincent Michelot นักวิเคราะห์ชาวฝรั่งเศสได้ให้ข้อสังเกตว่า นี่เป็นบทปราศรัยที่มีลักษณะของประธานาธิบดีที่สุด ส่วนหนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ ได้ให้ข้อสังเกตว่า นาย โดนัล ทรัมป์ ได้กล่าวปราศรัยด้วยท่าทีอย่างจริงจังและประณีประนอม
โดยผ่านบทปราศรัยครั้งแรกต่อรัฐสภา ประธานาธิบดีสหรัฐได้ส่งสาส์นเกี่ยวกับความหวังและการมองในแง่ดี แต่อย่างไรก็ดี ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐยังคงมีความระแวงเกี่ยวกับแผนการทางการเมืองของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ซึ่งกาลเวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบที่ดีที่สุดต่อสาส์นของเจ้าของทำเนียบขาว.