การประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ณ กรุงฮานอย (VNA) |
ในปี 2020 เวียดนามจะเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ยกระดับผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพ การพึ่งพาตนเองและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่ ปรับปรุงระเบียบการ ระดมแหล่งพลังต่างๆและสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
แรงกระตุ้นจากปี 2019
ในปี 2019 เศรษฐกิจเวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดี โดยอัตราการขยายตัวจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 7.02 ซึ่งสูงที่สุดในโลกและเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2016 โดยปี 2019 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่อัตราการขยายตัวจีดีพีของเวียดนามอยู่ที่กว่าร้อยละ 7 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามและความตั้งใจในระดับสูงของทั้งพรรค กองทัพและประชาชนทุกคน เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไออยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับเป้าหมายที่สภาแห่งชาติได้วางไว้ ที่น่าสนใจคือนี่เป็นครั้งแรกที่มูลค่าการส่งออกได้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากบรรลุ 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อ 2 ปีก่อนและผลงานนี้ก็ยิ่งมีความหมายในสภาวการณ์ที่ภาคการนำเข้าส่งออกของประเทศต่างๆในภูมิภาคและโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งทำให้เวียดนามได้เปรียบดุลการค้าเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
สถานการณ์ชีวิตสังคมของเวียดนามในปี 2019 สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและความหมายของการขยายตัวด้านเศรษฐกิจเพราะนอกจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว เวียดนามได้รับความเสียหายอย่างหนักจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุ น้ำท่วม รวมถึงอัคคีภัยและโรคระบาดต่างๆ โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อหน่วยงานปศุสัตว์ ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรและสัตว์น้ำก็ประสบอุปสรรคต่างๆเนื่องจากมาตรฐานที่เข้มงวดของตลาดต่างๆไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าและการรักษาความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี เวียดนามยังสามารถสร้างก้าวกระโดดใหม่ โดยได้บรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของเวียดนามในปี 2019
ส่วนในการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ณ กรุงฮานอย เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้ประเมินว่า ในปี 2019 เวียดนามได้ประสบผลงานที่สำคัญในหลายด้านและสูงกว่าผลงานในปี 2018 ก่อนหน้านั้น เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้ชี้ชัดว่า หลังการปฏิบัติตามพินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์ในตลอด 50ปีที่ผ่านมา ประเทศเวียดนามได้ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ยืนหยัดเป้าหมายในปี 2020
ย่างเข้าสู่ปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่มีความหมายสำคัญในการปฏิบัติเป้าหมายและหน้าที่ที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ได้วางไว้ ในการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงวียนฟู้จ่องและนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า จะไม่คิดถึงผลสำเร็จที่ได้รับมากเกินไป หากต้องพยายามค้ำประกันการปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ให้ประสบความสำเร็จบนเจตนารมณ์ของการเป็นฝ่ายรุกอย่างเข้มแข็ง ความคล่องตัว ความคิดสร้างสรรค์เพื่อบรรลุผลงานที่สูงกว่าในปี 2019 โดยหน้าที่แรกคือการพัฒนาเศรษฐกิจ เวียดนามจะเสริมสร้างเศรษฐกิจมหภาคและศักยภาพในด้านต่างๆ ควบคุมภาวะเงินเฟ้อและพัฒนาการพึ่งพาตนเองของเศรษฐกิจ รัฐบาลจะเน้นปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ ผลักดันการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ในปี 2020 เวียดนามจะต้องสร้างก้าวกระโดดในการประยุกต์ใช้ผลสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 นั่นคือเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจแบ่งปัน การคลังอัจฉริยะ การค้าอิเล็กทรอนิกส์และการทำธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและเป็นแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ
ในช่วงต้นปีใหม่ 2020 รัฐบาลได้ประกาศใช้มติ 2 ฉบับเกี่ยวกับการชี้นำการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและร่างงบประมาณแผ่นดินปี 2020 มาตรการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งถือเป็นแนวทางหลักและเป็นจุดเด่นของการบริหารชี้นำของรัฐบาลเวียดนามที่สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดตั้งแต่ต้นปี 2020
เศรษฐกิจเวียดนามในปี 2020 มีโอกาสใหม่ๆ โดยความมุ่งมั่นตั้งใจ ความพยายามและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์จากส่วนกลางมาจนถึงส่วนท้องถิ่นและการสนับสนุนจากสถานประกอบการจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดของเวียดนามในปี 2020.