ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครงและนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง |
การเข้าร่วมการประชุม COP 26 ของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งมีความหมายที่สำคัญ โดยเป็นการส่งสารเกี่ยวกับความพยายามของเวียดนามในการปฏิบัติคำมั่นต่างๆเกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความพยายามของเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียว เปิดโอกาสความร่วมมืออย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพกับอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนามในยุโรป
ยืนยันอีกครั้งถึงสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีความรับผิดชอบ เป็นฝ่ายรุกในการแก้ไขความท้าทายร่วมของโลก
การประชุม COP 26 เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากประชาคมระหว่างประเทศในปี 2021ในสภาวการณ์ที่โลกกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในฟอรั่มนี้ ในฐานะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝามมิงชิ้งได้ส่งสารและคำมั่นที่เข้มแข็งในการร่วมกันรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในทั่วโลก
“ทุกประเทศต้องมีคำมั่นที่เข้มแข็งมากขึ้นเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกบนหลักการแห่งความรับผิดชอบร่วมแม้มีความแตกต่าง สอดคล้องกับเงื่อนไข สถานการณ์และทักษะความสามารถของแต่ละประเทศ ผมขอเรียกร้องเรื่องความเท่าเทียมกันในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คำมั่นและปฏิบัติการของพวกเราในปัจจุบันจะช่วยปกป้องโลกแห่งสีเขียว ยั่งยืนและความสุขให้แก่คนรุ่นหลัง”
ประชาคมโลกและหุ้นส่วนต่างชาติได้ชื่นชมจุดยืนนี้ของเวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันว่า พร้อมที่จะร่วมมือกับเวียดนามในการปฏิบัติมาตรการผลักดันการขยายตัวแห่งสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรเวียดนามได้ยืนยันว่า
“ผ่านฟอรั่มนี้ การประกาศของบรรดาผู้นำ เครือบริษัทและองค์การต่างๆได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาให้ความสนใจต่อเวียดนาม ประเทศต่างๆพร้อมที่จะเดินพร้อมกับเวียดนามในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวตามแนวทางการเกษตรแห่งสีเขียว การเกษตรแห่งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการเกษตรแห่งการปรับตัว ”
นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งเป็นสักขีพยานในพิธีประกาศเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเวียดนามกับอังกฤษ |
เวียดนามยืนยันความตั้งใจและพร้อมต้อนรับนักลงทุน
ในโอกาสเข้าร่วมการประชุม COP26 และเยือนอังกฤษ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้มีการพบปะกับองค์กร เครือบริษัท สถานประกอบการรายใหญ่ของโลก เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ 26 ฉบับระหว่างกระทรวง หน่วยงานและสถานประกอบการชั้นนำในด้านการค้า การเกษตร พลังงาน สาธารณสุข การศึกษา การฝึกอบรมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น รวมยอดเงินลงทุนนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างโอกาสครั้งใหญ่เกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนในเวียดนาม
ซึ่งตามนั้น เครือบริษัทนิเคอิให้คำมั่นที่จะลงทุนและขยายการลงทุนในเวียดนาม ส่วนเครือบริษัทแอสตร้า เซเนกา ได้ลงนามสัญญาเกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด -19 จำนวน 25 ล้านโดสให้แก่เวียดนาม โดยวัคซีนงวดแรกจะมาถึงเวียดนามในเดือนธันวาคมนี้ โดยเฉพาะสายการบิน Bamboo Airways ได้จัดพิธีประกาศเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเวียดนามกับอังกฤษ ซึ่งได้รับการคาดหวังว่า จะมีส่วนช่วยผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ สร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อผลักดันการพบปะสังสรรค์ในทุกด้าน
ส่วนในกรอบการเยือนประเทศฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้พบปะเจรจากับบรรดาผู้นำฝรั่งเศส ในการนี้ ปัญหาที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือได้บรรลุความเห็นพ้องระดับสูง ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ได้ลงนามเมื่อปี 2013 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บุ่ยแทงเซินได้เผยว่า
“ในกรอบการเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ บรรดาผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะต้องจัดทำแผนปฏิบัติงานทุกปีเพื่อปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสในทุกด้าน เช่น การเมือง การทูต กลาโหม ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน วัฒนธรรม การศึกษาและฝึกอบรมและสาธารณสุข โดยจะได้รับการปฏิบัติผ่านโครงการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส ผมเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสจะได้รับการยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ในเวลาที่จะถึง”
อาจยืนยันได้ว่า การปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ซึ่งไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างผู้นำเวียดนามกับผู้นำประเทศต่างๆเท่านั้นหากยังเปิดโอกาสความร่วมมือในทุกด้านและจริงจังมากขึ้นในเวลาที่จะถึง.