(Photo dangcongsan.vn)
|
ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม ให้การดูแลเอาใจใส่ต่อชีวิตของประชาชนต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ สภาแห่งชาติได้พิจารณา หารือและอนุมัติรายงานต่างๆเกี่ยวกับผลการปฏิบัติและแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมปี 2019 และปี 2020 ในมติเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2020 สภาแห่งชาติได้ตั้งเป้าไว้ว่า การขยายตัวจีดีพีของประเทศจะต้องบรรลุร้อยละ 6.8 โดยผู้แทนสภาแห่งชาติได้วิเคราะห์และหารืออย่างรอบคอบเพื่อตั้งเป้าหมาย หน้าที่และวางมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมให้รวดเร็วและยั่งยืน รวมทั้งให้การดูแลเอาใจใส่ต่อชีวิตทั้งทางวัตถุและจิตใจของประชาชนให้ดีขึ้น นางมายเฟืองฮวา ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดนามดิ๋งแสดงความคิดเห็นว่า “ตามธรรมเนียม การประชุมนัดสุดท้ายในปลายปีจะพิจารณารายงานต่างๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจ – สังคมเพื่อสรุปผลใน 1 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น การพิจารณารายงานนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้เราประเมินผลงานและกำหนดแนวทางให้แก่ปีหน้า ดิฉันคิดว่า จุดเด่นในการประชุมครั้งนี้คือการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจสังคม โดยผู้แทนสภาแห่งชาติได้แสดงความคิดเห็นและมีข้อเสนอต่างๆที่เป็นประโยชน์มาก”
ในการประชุมครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สภาแห่งชาติได้ผ่านความเห็นชอบมติอนุมัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมแบบบูรณาการในเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขาระยะปี 2021-2030 ซึ่งมีนโยบายที่พร้อมเพรียงเพื่อผลักดันการพัฒนาอย่างรอบด้าน ลดช่องว่างการพัฒนาและรายได้เพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติแนวทางของพรรค นโยบายและกฎหมายของรัฐเกี่ยวกับงานด้านชนกลุ่มน้อยให้ลุล่วงไปด้วยดี นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามย้ำว่า “ต้องยืนยันว่า การประกาศมตินี้คือการตัดสินใจที่ถูกต้องตามแนวทางของพรรค สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและปฏิบัติตามโอวาทของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับงานด้านชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะในเขตเขาและเขตชายแดน เพื่อช่วยให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดช่องว่างระหว่างเขตเขากับเขตที่ราบลุ่ม สภาแห่งชาติมีแนวทางร่วมมือกับรัฐบาลพิจารณาและรวบรวมนโยบายที่ได้ประกาศเพื่อเน้นลงทุนให้แก่การพัฒนา หลีกเลี่ยงการจัดงบประมาณอย่างกระจัดกระจายและมีประสิทธิภาพไม่มากนัก”
ยกระดับความสามารถในการจัดทำกฎหมาย
สิ่งที่น่ายินดีในการประชุมครั้งนี้คือ การจัดทำกฎหมาย โดยมีการอนุมัติร่างกฎหมายและประมวลกฎหมาย 11 ฉบับเพื่อเป็นพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การบริหารและจัดทำกลไกการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังการหารือในการประชุมสภาแห่งชาติรวม 3 ครั้ง ที่ประชุมครั้งนี้ได้อนุมัติประมวลกฎหมายแรงงานฉบับแก้ไข โดยมีข้อกำหนดเพิ่มเกณฑ์อายุในการเกษียณราชการเป็น 62 ปีสำหรับผู้ชายตั้งแต่ปี 2028 และ 60 ปีสำหรับผู้หญิงตั้งแต่ปี 2035 ซึ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชน นาย ด่าว หงอก ยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมยืนยันว่า นี่คือก้าวเดินที่สำคัญเพื่อรับมือปัญหาประชากรสูงอายุ ช่วยแก้ไขปัญหาความเสมอภาคทางเพศและเข้าถึงการลดช่องว่างทางเพศในเวียดนาม “ประมวลกฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหาบางส่วนที่จะมีผลต่อไปในอีกนับสิบปีข้างหน้า นี่ยังเป็นโอกาสให้เวียดนามปฏิบัติคำมั่นต่างๆในอนุสัญญาระหว่างประเทศและข้อตกลงการค้า เพราะว่า เราต้องเสริมสร้างกฎหมายให้สอดคล้องกับสากลและเงื่อนไขของเวียดนาม”
เพื่อเป็นการสานต่อผลสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการประชุมครั้งก่อนๆ ในการประชุมครั้งนี้ การตั้งและตอบกระทู้ถามมีการพัฒนามากขึ้น โดยมีรัฐมนตรี 4 ท่าน รวมทั้งนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กได้ตอบกระทู้ถามโดยตรง ซึ่งในตลอด 3 วันของการตั้งและตอบกระทู้ถามนั้น บรรยากาศมีความคึกคัก ประชาธิปไตย ตรงไปตรงมา มีความรับผิดชอบและสร้างสรรค์ ดังความคิดเห็นของนาง เหงียนแทงหาย หัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์มวลชนแห่งสภาแห่งชาติ “ดิฉันเห็นว่า ปัญหาที่ถูกตั้งและตอบกระทู้ถามต่างเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งบรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติได้ปฏิบัติสิทธิและความรับผิดชอบในการเป็นตัวแทนของประชาชน ณ ที่ประชุมสภาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยให้ประชาชนและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรู้สึกเหมือนว่า ตนเองกำลังตั้งกระทู้ถามโดยตรงต่อรัฐมนตรีในการประชุมครั้งนี้”
การประชุมครั้งที่ 8 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ไม่เพียงแต่เสร็จสิ้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้านนิติบัญญัติและตัดสินใจปัญหาสำคัญฯของประเทศเท่านั้น หากยังทำหน้าที่การตรวจสอบได้ดีอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความพอใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับแนวทางและนโยบายต่างๆที่สภาแห่งชาติได้อนุมัติและแสดงความคิดเห็นในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งรวมทั้งคำมั่นต่างๆต่อสภาแห่งชาติของรัฐบาลและสมาชิกของรัฐบาลเพื่อพัฒนาประเทศให้มีเสถียรภาพและยั่งยืน.