10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม

Chia sẻ
(VOVWORLD) - นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19  รายแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีนเมื่อวันที่ 17พฤศจิกายน ปี 2019 จนถึงสิ้นเดือนธันวาคมปี 2020 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 83 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 1.8 ล้านราย โดยสหรัฐ อินเดีย บราซิลและรัสเซียคือประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 1การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจโลก (thoibaotaichinhvietnam.vn)

1/การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ทำให้เกิดวิกฤตในทุกด้านที่ไม่เคยมีมาก่อนและส่งผลกระทบในเชิงลึกต่อโลก

ธนาคารโลก หรือ WB ได้พยากรณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ได้ทำให้จีดีพีโลกลดลงร้อยละ 3-6  สร้างความเสียหายอย่างน้อย 5ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งทำให้เกิดวิกฤตในทุกด้านและสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกต่อชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ การเมือง การทูต วัฒนธรรม กีฬา การเดินทางและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยกิจกรรมที่สำคัญๆ เช่น การประชุมผู้นำจี20 การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติและการประชุมผู้นำอาเซียนต้องจัดขึ้นผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ส่วนการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ รวมทั้งการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2020 ถูกเลื่อนออกไป แต่การที่ประเทศต่างๆเร่งทำการวิจัยและผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้สร้างความหวังว่า จะสามารถขจัดการแพร่ระบาดได้ภายในปี2021.

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 2ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกันกับนายโจไบเดน ผู้ลงสมัครจากพรรคเดโมแครต (thethaovanhoa.vn)

2/ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2020 - การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกันกับนายโจไบเดน ผู้ลงสมัครจากพรรคเดโมแครต

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2020ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อทั้งด้านชีวิต เศรษฐกิจและสังคมของสหรัฐ โดยความแตกต่างในนโยบายบริหารประเทศและการต่างประเทศระหว่าง 2 ผู้สมัครตัวเต็งคือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันกับนาย โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต จะไม่เพียงแต่ส่งผลต่อประเทศสหรัฐเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบต่อโลกอีกด้วย

นี่คือการเลือกตั้งที่มีประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุดและแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกในสังคมและเวทีการเมืองสหรัฐ โดยถึงแม้นาย โจ ไบเดนได้คะแนนโหวตจากคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมด 306 เสียง ซึ่งสูงกว่าคะแนนโหวตขั้นต่ำที่ 270 เสียงทำให้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง  ซึ่งการสร้างความสามัคคีในประเทศ การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรและการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือความท้าทายที่สำคัญสำหรับทางการของนาย โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ.

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 3ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนได้บานปลายจนกลายเป็นความขัดแย้งในทุกด้าน  (Nikkei Asian Review)

3/ การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐยังคงตึงเครียดมากขึ้น

ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนได้บานปลายจนกลายเป็นความขัดแย้งในทุกด้าน เช่น ต้นตอและมาตรการขจัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีและการทูตหลังจากทั้ง 2 ฝ่ายได้สั่งปิดสถานกงสุลของอีกฝ่ายโดยกล่าวหาว่า เป็นสายลับ โดยรัฐบาลสหรัฐได้สั่งห้ามใช้แอปพลิเคชัน “ติ๊กต็อก” และ “วีแชท” ในสหรัฐ อีกทั้งประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อสถานประกอบการใหญ่ๆของจีน

การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับจีนได้บานปลายจนกลายเป็นการแข่งขันในทุกด้าน ไม่ว่าจะในด้านกลาโหม การเมือง ความมั่นคง การทูตและอุดมการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างลึกในทั่วโลกและอาจยืดเยื้อต่อไป

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 4การลงนามข้อตกลง RCEP ได้สร้างนิมิตหมายของเวียดนามในฐานะเป็นประธานอาเซียน

4/ การลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านระดับภูมิภาคหรือ RCEPช่วยจัดตั้งเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

พิธีลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านระดับภูมิภาคหรือ RCEP คือกิจกรรมทางประวัติศาสตร์ โดยประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่สนทนาได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้สร้างพื้นฐานให้แก่ระยะความร่วมมือใหม่ในทุกด้านอย่างยาวนาน สอดคล้องกับสถานการณ์การพัฒนาและเอื้อประโยชน์ให้แก่ประเทศที่เข้าร่วม

การลงนามข้อตกลง RCEP ได้สร้างนิมิตหมายของเวียดนามในฐานะเป็นประธานอาเซียน ข้อตกลง RCEP มี 15 ประเทศสมาชิกที่มีประชากร 2.2 พันล้านคน คิดเป็นร้อยละ 30ของโลก และจีดีพี 2 หมื่น 6 พัน 2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 30 ของโลก ซึ่งทำให้ RCEP กลายเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากมีผลบังคับใช้ ข้อตกลงนี้จะช่วยยกเลิกภาษีนำเข้าร้อยละ 90 ระหว่างประเทศสมาชิกภายในเวลา 20ปีและจัดทำข้อกำหนดเกี่ยวกับการค้าอิเล็กทรอนิกส์ การแลกเปลี่ยนสินค้าและลิขสิทธิ์ทางปัญญา

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 5ทหารอาร์เมเนีย (Reuters)

5/ การปะทะในเขตนากอร์โน-คาราบัคและ เขต Kavkaz ใต้บานปลายจนกลายเป็นการปะทะที่รุนแรงระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานในปี 2020

นี่คือการปะทะครั้งรุนแรงที่สุดระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานนับตั้งแต่ปี 1994 โดยการปะทะในระหว่างวันที่ 27 กันยายนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนปี 2020 ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5 พันคน ส่วนรัสเซียได้เข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยและได้มีการลงนามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีความเสี่ยงที่การปะทะอาจปะทุขึ้นอีกครั้งเนื่องจากความขัดแย้งทางเชื้อชาติ

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 6ขบวนรถของกองทัพอินเดียในเขตททางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Srinagar เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนปี 2020 (AP)

6/ การเผชิญหน้าในเขตชายแดนระหว่างจีนกับอินเดีย

ความตึงเครียดระหว่างอินเดียกับจีนได้บานปลายจนเกิดการปะทะครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50ปีที่หุบเขากาลวาน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเลวร้ายลง ถึงแม้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน อินเดียและจีนได้เห็นพ้องที่จะทำข้อตกลงถอนทหารออกจากเขตที่เกิดการปะทะเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดและการเผชิญหน้าในตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีในหลายด้านในระยะยาว.

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 7ภาพพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพ Abraham เมื่อวันที่ 15 กันยายนปี 2020 (Reuters)

7/อิสราเอลและบางประเทศในตะวันออกกลางลงนามข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์

ในปี 2020 สถานการณ์ในตะวันออกกลางได้มีสัญญาณที่น่ายินดี โดยอิสราเอลและบางประเทศในภูมิภาค เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรนได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์หลังการเผชิญหน้าในหลายปีที่ผ่านมา ข้อตกลงเหล่านี้ได้สร้างนิมิตหมายของความพยายามเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยของสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ในสภาวการณ์ที่ความขัดแย้งทางการเมือง ภูมิศาสตร์และศาสนาในภูมิภาคยังคงมีอยู่ ทุกฝ่ายก็ยังคงแสวงหามาตรการเพื่อแก้ไขความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในหลายสิบปีในตะวันออกกลางต่อไป

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 8ประชาชนอิหร่านเข้าร่วมพิธีศพของนายพลคาเซ็ม ซูลีมานี (Reuters)

8/ เหตุลอบสังหารต่างๆทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านตึงเครียดมากขึ้น

เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายพลคาเซ็ม ซูลีมานี (Qasem Soleimani) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านได้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐในกรุงแบกแดด ประเทศอิรักเพื่อตอบโต้การโจมตีใส่สถานทูตสหรัฐ ณ กรุงแบกแดด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวบวกกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านในเวลาที่ผ่านมาได้ทำให้สถานการณ์บานปลายจนเกือบเกิดการปะทะ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน การที่อิหร่านได้ประกาศถอนตัวจากแผนปฏิบัติการร่วมในทุกด้านหรือ JCPOA ที่ลงนามกับกลุ่มพี5+1 ถือเป็นการโต้ตอบสหรัฐและประเทศตะวันตกและการที่นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ชั้นนำของอิหร่าน มอห์เซน ฟาครีซาเดห์ (Mohsen Fakhrizadeh) ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่าน อิสราเอลและสหรัฐเลวร้ายมากขึ้น.

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 9ภาพในห้องประชุมระหว่างอียูกับอังกฤษ เมื่อวันที่ 20 กันยายนปี 2019 ณ ประเทศเบลเยียม (Reuters)

9/ การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ อียูกับข้อตกลงด้านการค้าหลังกระบวนการ Brexit

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม อียูและอังกฤษได้บรรลุข้อตกลงด้านการค้าที่ค้ำประกันผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย โดยภายหลังเข้าเป็นสมาชิกของอียูมาเป็นเวลา 47 ปี อังกฤษได้ถอนตัวออกจากอียูอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคมปี 2020 และในกระบวนการเปลี่ยนผ่านในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา การเจรจาเพื่อกำหนดความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคตได้ประสบอุปสรรคมากมายจนต้องขยายเวลาการเจรจา  ซึ่งข้อตกลงด้านการค้าคือผลงานที่สำคัญเพราะช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายหลีกเลี่ยงความเสียหายต่างๆ.

10 เหตุการณ์เด่นต่างประเทศประจำปี 2020 จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนาม - ảnh 10ประมวลภาพเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่ท่าเรือในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน

10/ เหตุระเบิดในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ได้เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คนและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 7 พันคน โดยจุดที่เกิดระเบิดเป็นโกดังที่เก็บแอมโมเนียมไนเตรตมากถึง 2,750 ตัน มานานถึง 6 ปีโดยไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ ความรุนแรงของระเบิดเทียบเท่ากับเหตุแผ่นดินไหวขนาด 3.3 ริกเตอร์ ทำให้เมืองเบรุตได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่วนมูลค่าความเสียหายมากถึง 1 หมื่นถึง 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลเลบานอนได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์และได้เกิดการชุมนุมประท้วงรัฐบาลในทั่วประเทศเลบานอน ซึ่งทำให้สมาชิกคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี Hassan Diab ต้องลาออกจากตำแหน่ง.

Komentar