หมู่บ้านจั่ว- หมู่บ้านแห่งบทกลอนของเวียดนาม

To Tuan – VOV5
Chia sẻ

( VOVworld )-หมู่บ้าน จั่ว (Chua) ตำบลเซินกง อำเภออึ๊งหว่า ชานกรุงฮานอยเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบและได้รับฉายาว่า หมู่บ้านแห่งร้อยกลองเพราะชาวบ้านที่นี่รักร้อยกลองและแต่งบนกลอนจำนวนมาก บางคนได้กลายเป็นกวีและสมาชิกสมาคมวรรณกรรมเวียดนาม


( VOVworld )-หมู่บ้าน Chua ตำบลเซินกง อำเภออึ๊งหว่า ชานกรุงฮานอยเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบและได้รับฉายาว่า หมู่บ้านแห่งร้อยกลองเพราะชาวบ้านที่นี่รักร้อยกลองและแต่งบนกลอนจำนวนมาก บางคนได้กลายเป็นกวีและสมาชิกสมาคมวรรณกรรมเวียดนาม

หมู่บ้านจั่ว- หมู่บ้านแห่งบทกลอนของเวียดนาม - ảnh 1
ซุ้มประตูของหมู่บ้าน Chua
( Nguoi Ha Noi )
ชาวหมู่บ้าน Chuaริมแม่น้ำได๊ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและผูกพันกับเรือกสวนไร่นามาหลายชั่วคนแต่พวกเขามีอารมณ์ศิลป์ ซึ่งสะท้อนจากคำโบราณ ๔ คำที่ถูกแกะสลักบนประตูเข้าหมู่บ้านคือ
หว่อง-ตื่อ-เหญิป-เซว๊ตที่มีความหมายว่า มองคำศัพท์ก่อนเข้าหมู่บ้าน  คุณลุงเหงวียนญอเต๊ อายุ ๘๐ ปีเผยว่า ร้อยกลองและการเรียนหนังสือคือเกียรติประวัติของหมู่บ้าน

ชาวบ้าน Chua ยังสั่งสอนลูกหลานผ่านร้อยกลอนเพื่อให้ฝึกฝนเป็นคนดี มีคุณธรรม ชีวิตที่ดีงามกว่าและเป็นประโยชน์ต่อหมู่บ้าน  โดยตามเส้นทางต่างๆได้แขวนป้ายคำกลอนเป็นคติเตือนใจเช่น “ หากไม่มีข้าวกินเราจะเดินไม่ได้ แต่หากไม่มีความรู้จะมองไม่เห็นลู่ทาง ” หรือ คำประพันธ์ “ มือหว่านข้าว ปากหว่านวาจา” ซึ่งคำประพันธ์เหล่านี้ได้สถิตอยู่ในใจของชาวบ้านจั่วรุ่นแล้วรุ่นเล่า  นายเหงวียนซวนหุ่งสมาชิกสมาคมแห่งบทกวีหมู่บ้านChua  เผยว่า  “ คำประพันธ์ต่างๆที่ถูกแขวนตามทางของหมู่บ้านได้สั่งสอนชาวบ้านทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนแก่เฒ่าหรือเด็กๆเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างมีวินัยถูกต้องตามจารีเของหมู่บ้าน  ปัจจุบัน เรามีคำประพันธ์สวยๆประมาณ ๒๕ คำ ซึ่งล้วนแต่งโดยชาวบ้าน Chua ”

บทกลอนได้กลายเป็นอาหารทางใจของชาวบ้านทุกคนที่ไม่อาจขาดได้ หมู่บ้าน Chua เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งร้อยกลองที่ซึมซับเข้าไปในทุกบ้านและทุกตรอกซอกซอย ชาวบ้านทุกคนต่างรักบทประพันธ์และแต่งเป็นด้วยจึงสมกับที่ได้รับฉายาว่า หมู่บ้านแห่งร้อยกลอง ชาวบ้านที่นี่ได้แต่งบทกวีนับพันบทและได้พิมพ์บทกวีชุดถึง ๖ ชุด นายเหงวียนยาตื่อ หนึ่งในผู้รื้อฟื้นขบวนการรักบทกวีของหมู่บ้าน Chua เผยว่า  “ แม้จะเป็นหมู่บ้านที่มีเกียรติประวัติแห่งการรักบนกลอนแต่ก็ถูกหลงลืมระยะหนึ่งเพราะสงคราม และได้ถูกฟื้นฟูมาใหม่เมื่อปีค.ศ. ๑๙๘๒  ในเริ่มแรกมีผู้รักบทกวีและชอบแต่งบทกวีเข้าร่วม ต่อมาชาวบ้านจึงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ”

หมู่บ้านจั่ว- หมู่บ้านแห่งบทกลอนของเวียดนาม - ảnh 2
คุณลุงเถื้องขับกลอน( Internet )
ปัจจุบัน สมาคมแห่งบทกวีของหมู่บ้านมีสมาชิก ๑๐๐ คนที่มีอาชีพและอายุที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นผู้แก่ผู้เฒ่า สตรีและเด็กๆ โดยเหงวียนทูจางนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาตอนต้นเซินกงเป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุด บทกวีของเธอที่มอบแด่คุณแม่ได้รับรางวัลที่ ๑ สำหรับเด็กวัยเรียนของหมู่บ้านเซินกง  จางคุยกับพวกเราว่า  “ หนูเพิ่งเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ หนูอยากสืบสานเกียรติประวัติการรักกลอนของหมู่บ้าน  หนูรักแม่เหนือชีวิตจึงได้แต่งบทกวีมอบแด่ท่าน 
ชาวบ้านจั่วแต่งบทประพันธ์เพื่อกล่าวถึงความในใจและความรู้สึกนึกคิดของตนจึงคำกลอนออกมาจากอารมณ์นั้นแม้จะไม่ได้สละสลวยและไม่ได้สัมผัสกันมากนักแต่ก็สมถะเสมือนชีวิตของพวกเขา นายโงแหม่งเกื่อง นายกสมาคมแห่งบนกวีของหมู่บ้านเผยว่า  “ ชาวบ้านแต่งบทกลอนไม่ใช่เพื่อขายหากเพื่อสั่งสอนลูกหลานด้วยคำประพันธ์ที่สวยที่ดี ทุกๆค่ำวันพฤหัสบดีจะมีรายการอ่านบทกลอนที่แต่งโดยชาวบ้านออกอากาศผ่านเสียงตามสายของหมู่บ้าน ทั้งนี้มีส่วนร่วมในการสร้างความรักในหมู่บ้านด้วยกัน  ”  ความรักและหลงไหลในบทกลอนของชาวบ้านจั่วได้รับการสืบทอดมาทุกวันนี้ และเสียงกลอนเป็นคุณลักษณะทางวัฒนธรรมที่ดีงามของหมู่บ้านที่ทำให้พวกเขามีจิตใจบริสุทธิ์โปร่งใส เกิดความรักหมู่บ้าน ความสามัคคีกันและทำให้ชีวิตทางจิตใจมีความหลากหลายและมีความหมายมากขึ้น ./.


Komentar