ผู้กำกับ ศิลปินประชาชน ดั่งเหญิดมิงห์ได้รับรางวัลบุ่ยซวนฟ้ายเพื่อความรักฮานอยครั้งที่ 16 (VNA) |
การได้รับรางวัลบุ่ยซวนฟ้าย – เพื่อความรักฮานอยครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้สร้างความยินดีเป็นอย่างมากให้แก่ผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่องค์กร Trigger Film Academy และ Storii ได้จัดงาน “เดือนภาพยนตร์ ดั่งเหญิดมิงห์” เพื่อเชิดชูผลงานภาพยนตร์ดีเด่นของเขารวมทั้งหมด 9 เรื่อง ผู้กำกับ ศิลปินประชาชน ดั่งเหญิดมิงห์ เผยว่า
“ฮานอยคือความรักของผม เป็นที่ที่ผมได้ใช้ชีวิตมานานกว่า 60 ปี รางวัลบุ่ยซวนฟ้าย – เพื่อความรักฮานอย ที่ผมได้รับในครั้งนี้ถือเป็นการรับทราบถึงความรักนั้นของผม ซึ่งได้แสดงออกผ่านภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ที่ผมได้สร้างสรรค์ขึ้นมา และยิ่งไปกว่านั้นคือ ผมได้รับรางวัลดังกล่าวในช่วงเดือนตุลาคม”
ในเส้นทางการทำภาพยนตร์ ซึ่งมีหลายผลงานที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้กำกับ ศิลปินประชาชน ดั่งเหญิดมิงห์ ได้ทำภาพยนตร์ 5 เรื่องเกี่ยวกับกรุงฮานอยและคนฮานอย ได้แก่ “ฮานอยในฤดูหนาวปี 1946” ที่ถ่ายทำในปี 1997 "กลับบ้าน " ที่ถ่ายทำในปี 1994 “ฤดูฝรั่ง” ในปี 2001 “อย่าเผา” ในปี 2009 และเรื่องใหม่ล่าสุดคือ “ดอกมะลิ” ในปี 2020
ผลงานแต่ละเรื่องถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ โดยภาพยนตร์เรื่อง “ฮานอยในฤดูหนาวปี 1946” ที่ได้รับการฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตเมื่อเดือนธันวาคมปี 1997 และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติสิงคโปร์เมื่อเดือนเมษายนปี 1998 ในขณะที่หนังเรื่อง “ฤดูฝรั่ง” ได้รับรางวัลดอกบัวทองในเทศกาลภาพยนตร์เวียดนามปี 2001 รางวัลคณะกรรมการรุ่นใหม่และและรางวัล Donkihote จากสมาคมชมรมภาพยนตร์โลกในเทศกาลภาพยนตร์โลการ์โน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2000 รางวัลพิเศษจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติในเทศกาลภาพยนตร์ออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อปี 2001 ประกาศนียบัตรพิเศษในเทศกาลภาพยนตร์นามูร์ ประเทศเบลเยียม เมื่อปี 2000 รางวัล NETPAC ในเทศกาลภาพยนตร์ร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่วนเรื่อง “อย่าเผา” ไม่เพียงแต่ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลมากมายจากเทศกาลภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ เช่น เทศกาลภาพยนตร์เวียดนาม รางวัลว่าวทอง รางวัลขวัญใจผู้ชมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฟุกุโอกะเมื่อปี 2009 เป็นต้น กวี บั่งเหวียด ประธานคณะกรรมการรางวัล บุ่ยซวนฟ้าย – เพื่อความรักฮานอยครั้งที่ 16 ได้แสดงความเห็นว่า
“ตั้งแต่ ฮานอยในฤดูหนาวปี 1946 จนถึงผลงานในช่วงหลังของผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงความรักอย่างสุดซึ้งต่อฮานอย ชีวิตของผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับฮานอย ดังนั้น ผลงานของเขาในทุกๆ ด้านจึงมีกลิ่นอายของฮานอย ซึ่งเกิดจากความรักฮานอยของตัวเขาเอง และเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่รางวัลปีนี้มอบให้แก่ผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ ซึ่งถือเป็นการยกย่องการมีส่วนร่วมของศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่มีต่อกรุงฮานอย รวมถึงความรักที่มีต่อฮานอยผ่านผลงานทุกชิ้นของเขา”
ผู้กำกับ ศิลปินประชาชน ดั่งเหญิดมิงห์ เกิดเมื่อปี 1938 ที่จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ โดยในช่วงวัยเด็กได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เว้ และย้ายมาอยู่ฮานอยในตลอด 60 ปีที่ผ่านมา สำหรับเขา กรุงฮานอย "เหมือนญาติพี่น้องในครอบครัว" เป็นสถานที่ที่เขาสร้างเนื้อสร้างตัวจนกลายเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียง และเป็นประจักษ์พยานต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของกรุงฮานอย ด้วยความผูกพันและความเข้าใจที่ลึกซึ้ง แต่ละช่วงเวลาของฮานอยจึงกลายเป็นสิ่งที่น่าจดจำในภาพยนตร์เกี่ยวกับฮานอยของผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์
ผลงานของ ผู้กำกับ ศิลปินประชาชน ดั่งเหญิดมิงห์ (VNA) |
ในภาพยนตร์ที่กำกับโดย ดั่งเหญิดมิงห์ ผู้ชมสามารถเห็นถึงฮานอยในอดีตที่สงบสุขและผู้คนที่เป็นมิตรต่อกัน ซึ่งเกิดจากการที่เขาให้ความสำคัญต่อพัฒนาการของตัวละคร รวมถึงจิตใจและศักดิ์ศรีของชาวฮานอย สำหรับเขา เมื่อสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับฮานอย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบอกเล่าถึงตัวตนของคนฮานอย และยืนยันถึงความงดงามทางจิตใจของชาวฮานอย ผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ ได้พูดถึงหนังเรื่อง “ดอกมะลิ” ซึ่งเป็นของขวัญที่เขาอยากมอบให้ฮานอยตอนอายุกว่า 80 ปีว่า
“นี่เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชาวฮานอย ผู้คนที่พวกเราได้พบเจอในทุกๆ วันตามท้องถนน ที่มีทั้งทุกข์ สุขและความกังวลใจในการดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ พวกเขาเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมสร้างสรรค์ภาพยนต์เรื่องนี้ ผมต้องขอบคุณชาวฮานอยทุกคนที่ผมได้พบ นี่ไม่ใช่หนังที่มีความขัดแย้งหรือเน้นดราม่าที่หนัก แต่เป็นหนังเรื่องธรรมดาที่พูดถึงคนธรรมดา”
ด้วยความผูกพัน ความเข้าใจ และความรักฮานอย มาเป็นเวลา 60 ปี ประสบการณ์ของผู้กำกับ ดั่งเหญิดมิงห์ กับกรุงฮานอยยังคงทำให้เขามีความซาบซึ้งใจอยู่เสมอ ซึ่งความรู้สึกนั้นก็เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา และได้แสดงออกผ่านภาพยนตร์ โดยในภาพยนตร์ของเขา ฮานอยมีความเรียบง่าย แต่ในอีกมุมมองเราก็จะเห็นสีสันที่สดใสและหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้ชมอยากค้นคว้าและเรียนรู้เกี่ยวกับความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายในเมืองหลวงแห่งนี้.
ผู้กำกับ ศิลปินประชาชน ดั่งเหญิดมิงห์ เป็นบุคคลแรกที่นำภาพยนตร์เวียดนามดังไกลไปทั่วโลก โดยเขาเคยได้รับกการยกย่อง พร้อมรางวัลทั้งในและต่างประเทศมากมาย
เมื่อปี 1993 เขาได้รับการยกย่องเป็นศิลปินประชาชน
เมื่อปี 2005 เขาได้รับรางวัลเกียรติยศ “Lifetime Achievement Award” จากผลงานที่ยอดเยี่ยให้แก่ภาพยนตร์เอเชียในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกวางจู
เมื่อปี 2007 เขาได้รับรางวัลโฮจิมินห์สาขาภาพยนตร์จากผลงาน “The Town within Reach” “When the Tenth Month Comes” “Hanoi-Winter 1946” และ “The Season of Guavas”
เมื่อปี 2010 เขาได้รับการยกย่องจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกันในฮอลลีวูดเป็นผู้กำกับที่มีผลงานยอดเยี่ยมต่อภาพยนตร์เวียดนาม
เมื่อปี 2016 เขาได้รับการยกย่องเป็น "พลเมืองดีเด่น" จากทางการกรุงฮานอย
เมื่อปี 2022 เขาได้รับบรางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งวรรณกรรมและศิลปะของประเทศฝรั่งเศส