เวทีสำหรับเด็ก 

เมื่อวสันต์เวียดนาม บรรดาผู้ที่รักกลอนจะพบปะกันในวันกลอนเวียดนาม  วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนอ้ายปีนี้หรือวันมฆบูชาปีนี้เป็นวันกลอนเวียดนามครั้งที่ ๑๔ในหัวข้อ “ แผ่นดิน-ใบเรือแห่งวันต์ ” ถูกจัดขึ้นพร้อมกันในหลายจังหวัดทั่วประเทศ  ส่วนในบริเวณโบราณสถานวันเมี้ยว-ก๊วกตื่อย้าม ในกรุงฮานอย วันกลอนเวียดนามได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการหลังเสียงกลองเปิดงาน  งานเทศกาลกลอนที่ไพเราะเหนาะหูเป็นการเชิดชูคุณค่าแห่งมนุษยศาสตร์ซึ่งได้รับการรอคอยจากวงการผู้รักกลอนในทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นโอกาสแนะนำกลอนสมัยใหม่ในวิถีชีวิตใหม่ อันเป็นการมีส่วนร่วมสร้างจิตใจและบุคลิกคนเวียดนาม กวีหิว ถินห์ นายกสมาคมนักเขียนเวียดนามกล่าวว่า  “ ผ่านมา ๑๓ ปี วันกลอนเวียดนามได้กลายเป็นงานเทศกาลวัฒนธรรมใหม่ที่ดีงามด้วยคุณค่าแห่งมนุษยศาสตร์อย่างลึกซึ้ง อันเป็นการตอบสนองความต้องการของบรรดาผู้ที่รักวรรณกรรมในประเทศ  วันกลอนเวียดนามเป็นหนึ่งในวันกลอนพิเศษจาก ๒๖ เฟสติวัลกลอนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ”

วันกลอนเวียดนามไม่เพียงแต่เชิดชูคุณค่าของกลอนในอดีตเท่านั้น หากสิ่งที่สำคัญคือ การแนะนำกลอนสมัยใหม่ของเวียดนามในวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงใหม่ การสร้างสรรค์และปกป้องมาตุภูมิเวียดนามทุกวันนี้ กวีเหงวียน กวาง เถี่ยว ได้กล่าวว่า   “ ผ่านมา ๑๔ ปี ผู้ขับกลอนและรักกลอนชาวเวียดนามได้มาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น  พวกเขาจำได้ว่า ในหนึ่งปีมีหนึ่งวันที่มีชื่อว่า วันกลอนเวียดนาม ซึ่งที่นั่นอาจมีผู้แต่งกลอนหรือไม่ใช่ผู้แต่งกลอนแต่กลอนยังสถิตอยู่ในดวงใจและชีวิตของพวกเขา  ที่นั่นมีความแบ่งปัน มีความรักใคร่ตลอดจนการอนุรักษ์ความงามของวัฒนธรรมพื้นบ้าน  แม้จะกล่าวถึงประเด็นอะไรก็ตาม แต่วันกลอนเวียดนามยังคงเป็นวันแห่งภาษากลอนที่ทำให้ทุกคนรักกลอนมากขึ้น เวทีวันเมี้ยวได้กลายเป็นเวทีวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ เป็นเวทีวัฒนธรรมขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกดีๆให้แก่ผู้ฟังและความคิดแห่งปรัชญาอันลึกซึ้งของเวียดนาม ”

วันกลอนเวียดนามในแต่ละปีจะมีสิ่งใหม่ๆ โดยสมาคมวรรณกรรมและศิลปะเวียดนามได้เชิญกวีและนักเขียนชาวต่างชาติมาสังสรรค์กับกวี นักเขียนและผู้ชมชาวเวียดนาม

บรรยากาศในวันเมี้ยว-ก๊วกตื่อย้าม

วันกลอนปีนี้ นับเป็นปีแรกที่มีกวีจากคณะตัวแทนสหภาพยุโรปเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเพื่อเผยแพร่บทกวีสมัยใหม่ของยุโรปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายแก่ชาวเวียดนามผู้รักกลอน อีกทั้งเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์กลอนสมัยใหม่ของเวียดนามให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในทั่วโลก  และพัฒนาวันกลอนเวียดนามเป็นกิจกรรมระดับโลก  กวี อันเดร เวลเตอร์ ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตัวแทนของบรรดากวีจากคณะตัวแทนสหภาพยุโรปได้กล่าวว่า  “ ในการเข้าร่วมวันกลอนเวียดนามผมได้พบปะสังสรรค์กับกวีเวียดนามบางท่าน ซึ่งเป็นการพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกวีทำให้ผมชอบมาก  กิจกรรมนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับกลอนเท่านั้น หากยังเกี่ยวข้องกับศิลปะเกี่ยวกับการแสดงออกด้วยวาจา ศิลปะการแสดง ศิลปะการระบำและดนตรีด้วย ”

สิ่งใหม่สำหรับวันกลอนปีนี้คือ มีการจัดเวทีกลอนสำหรับเด็ก โดยเด็กได้ขับกลอนที่แต่งเองด้วยลีลาที่สดใสแห่งความไร้เดียงสา  รวมถึงการขับกลอนที่คุ้นเคยแต่ขับในสไตล์ใหม่เช่นบทกลอน “ มุมลานบ้านกับท้องฟ้า ”ของกวีเจิ่น ดัง คัว และบทกวี “ ท้องฟ้าในไข่ฟองหนึ่ง ” ของกวีหญิงซวน กวิ่ง ที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม คุณหวู ถิ่ กวิ่ง เลียน รองผู้อำนวยการสำนักพิมพ์กิม ด่ง เห็นว่า  “  กลอนเป็นช่องทางเข้าถึงภาษาและลีลาที่สวยงามอย่างรวดเร็ว  ดังนั้น เวทีกลอนเด็กมีความหมายสำหรับผู้อ่านบทกลอนและเด็กๆ  พวกเราหวังว่า จากการดัดแปลงผลงานกลอนตามสไตล์ใหม่จะช่วยให้เด็กเข้าถึงกลอนสมัยใหม่มากขึ้นและถูกรสนิยมของผู้อ่านในทุกวันนี้ ”

มีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

วันกลอนเวียดนามได้กลายเป็นกิจกรรมวัฒนธรรมประจำปีที่มีคุณค่าแห่งมนุษยศาสตร์ ซึ่งได้ตอบสนองความรอคอยของบรรดาผู้รักวรรณกรรมและกลอนเวียดนาม  นับเป็นจุดนัดพบของผู้ที่รักกลอนหลากเพศหลายวัยไม่ว่าจะเป็นคนแก่คนเฒ่าหรือเด็กๆเพื่อพัฒนาชีวิตทางจิตใจให้มีความหลากหลายและพัฒนากลอนเวียดนามมากขึ้น .