(VOVworld)- งานนิทรรศการในหัวข้อ มรดกวัฒนธรรมทางทะเลเวียดนาม ได้มีขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนามในกรุงฮานอยโดยมีการแสดงสิ่งของวัตถุกว่า300ชิ้นที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อยืนยันส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามในประวัติศาสตร์การพัฒนาการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นสาส์นที่ยืนยันอธิปไตยเหนือเขตทะเลและหมู่เกาะของเวียดนาม

ทะเลตะวันออกถือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอารยธรรม เป็นชุมทางแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตก รวมทั้งระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างในภูมิภาคและโลก โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีผลงานวิจัยของของนักวิชาการทั้งในและต่างๆประเทศเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและการพัฒนาของเส้นทางสายไหมทางทะเลโดยเฉพาะบทบาทและสถานะของทะเลตะวันออกรวมทั้งนครและท่าเรือพาณิชย์ต่างๆของเวียดนามที่มีต่อเส้นทางนี้ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอารยธรรมต่างๆเลียบตามเส้นทางสายไหมดังกล่าว กระบวนการก้าวเข้าสู่ทะเลกว้างเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและอธิปไตยทางทะเลของเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนามจึงจัดนิทรรศการเกี่ยวกับมรดกทางทะเลเวียดนามตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงปัจจุบัน นาย Nguyen Van Cuong ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนามเผยว่าพวกเราอยากส่งสาส์นให้ประชาชนเวียดนามและมิตรประเทศได้รับทราบเกี่ยวกับความรักที่มีต่อทะเลและปิตุภูมิ อธิปไตยเหนือเขตทะเล หมู่เกาะและแผ่นดินใหญ่ของประเทศเวียดนามที่เอกภาพเพื่อช่วยเพิ่มความเข้าใจและส่งเสริมจิตสำนึกของประชาชนทุกคนจงปฏิบัติการร่วมเพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยของประเทศ

จากเอกสารข้อมูล ภาพถ่ายและวัตถุสิ่งของที่จัดแสดง ผู้ชมสามารถเห็นและเข้าใจว่าหลักฐานที่มีชีวิตชีวาเหล่านี้ได้เป็นการยืนยันส่วนร่วมและการผสมผสานที่เข้มแข็งของเวียดนามในกิจกรรมการค้าทางทะเลของโลก รวมทั้งเป็นการกล่าวย้ำถึงอธิปไตยที่มีมาช้านานของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่ เช่นจากหลักฐานด้านโบราณคดีที่ค้นพบที่เกาะ หลีเซิน ได้สะท้อนให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนทางการค้าและวัฒนธรรมของประชาชนเวียดนามกับประชาชนในแถบจีนตอนใต้และฟิลิปปีนส์ ซึ่งช่วยสร้างเป็นกระแสการพบปะสังสรรค์กับโลกภายนอก นอกจากนี้ ในนิทรรศการยังแนะนำภาพของนครและท่าเรือพาณิชย์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณจากเหนือจรดใต้ที่มีส่วนร่วมสำคัญต่อการพัฒนาเส้นทางการค้าที่คึกคักในทะเลตะวันออก เช่น Cattigara ในเขตที่ราบลุ่มภาคเหนือ Oc eo-ที่จังหวัดAn giang Luy Lau-ที่Bac Ninh  Van Don-ที่จังหวัดQuang ninh  Pho Hien-ที่จังหวัดHung Yen  Hoi An-ที่จังหวัดQuang Nam  Gia dinh-ที่นคร HCM และHa tien-ที่จังหวัดKien Giang เป็นต้น  นาย Tran Trong Ha ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จังหวัดกว๋างนิงเผยว่า ทางพิพิธภัณฑ์ได้นำวัตถุที่มีค่ามาร่วมจัดแสดงในครั้งนี้เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจในบทบาทสำคัญของท่าเรือพาณิชย์ต่างๆของเวียดนามในสมัยโบราณ สิ่งของวัตถุ47ชิ้นที่เรานำมาจัดแสดงได้สะท้อนให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนด้านการค้าระหว่างทางจังหวัดกว๋างนิงกับประเทศจีนในช่วงศตวรรษที่1-3 ชุดเครื่องเซรามิกที่ยืนยันความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกว๋างนิงและโหยอาน เครื่องเซรามิกช่วงศตวรรษที่12-17ที่ค้นพบที่กว๋างนิง และที่อิยิปต์ ซึ่งในปัจจุบันกำลังจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในอังกฤษและญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จากท่าเรือ เวินโด่น ในจังหวัดกว๋างนิงของเวียดนาม เซรามิกเวียดนามก็ได้ถูกนำไปขายในทั่วโลกมานานแล้ว.

สำเนาแผนที่ในสมัยกษัตริย์Minh Mang

นอกจากนี้ ในการจัดแสดงตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่19มาจนถึงปัจจุบันยังมีเอกสารข้อมูลเชิงวิชาการที่เป็นหลักฐานสำคัญต่างๆเช่น สำเนาแผนที่ในสมัยกษัตริย์Minh Mang แผนที่ประเทศAn Nam ของพระคาดินัน Jean-Louis Taberd  และสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับอธิปไตยของเวียดนามเหนือหว่างซาและเจื่องซาสมัยราชวงเหงวียน  ตลอดจนเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านชายแดนของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมา ซึ่งตามความเห็นของนาย Nguyen Van Huan ผู้ชมคนหนึ่งที่มาชมนิทรรศการ สิ่งของต่างๆได้สื่อถึงความหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรักความหวงแหนที่มีต่อเขตทะเลและหมู่เกาะต่างๆของชาวเวียดนาม งานนิทรรศการได้แนะนำมรดกวัฒนธรรมเกี่ยวกับทะเลและหมู่เกาะต่างๆของเวียดนามค่อนข้างสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากจะช่วยทบทวนเกียรติประวัติแห่งการต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติแล้วยังสะท้อนให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของบรรพชนในการผลิตคิดค้นสิ่งของต่างๆที่ยังคงรักษาไว้ได้ตราบเท่าทุกวันนี้เพื่อให้การศึกษาแก่ชนรุ่นหลัง

นิทรรศการนี้ได้สร้างมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับท่าเรือพาณิชย์ต่างๆของเวียดนามในประวัติศาสตร์การพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมเวียดนามกับอารยธรรมต่างๆตามเส้นทางสายไหมแห่งทะเลตะวันออก รวมทั้งเป็นการยืนยันอีกครั้งว่า อธิปไตยของเวียดนามในทะเลตะวันออกเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้./.