งานนิทรรศการ ” ทะเลสาบคืนดาบ ชุมทางตะวันออก-ตะวันตก” ย้อนความทรงจำเกี่ยวกับกรุงฮานอยในอดีต |
ในการเข้าร่วมงานนิทรรศการ ผู้เข้าร่วมงานจะรู้สึกประทับใจต่อภาพถ่ายขาวดำทะเลสาบคืนดาบขนาดใหญ่ที่ถ่ายเมื่อปี 1873 และปี 1884 ตามเอกสารของศูนย์จดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งให้ความรู้สึกและบรรยากาศที่แตกต่างจากในปัจจุบัน ทะเลสาบคืนดาบในอดีตเหมือนบึงน้ำในเขตชนบท บริเวณโดยรอบทะเลสาบคืนดาบ มีกระท่อมเล็กๆของชาวบ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งถ้าใครจะลงไปที่ทะเลสาบก็ต้องเดินผ่านทางเล็ก ๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงภาพถ่ายซุ้มดอกไม้ของชาวฝรั่งเศส ที่มีไม่กี่คนรู้ว่าสถานที่ในรูปดังกล่าวคือบริเวณถนนห่างไค-ดิงเตียนหว่างในปัจจุบันที่มีร้านขายของเป็นจำนวนมาก นี่คือ 2 ใน 100 ภาพถ่ายและแผนที่ที่ถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการนี้ งานนิทรรศการ “ทะเลสาบคืนดาบชุมทางตะวันออก-ตะวันตก”แบ่งเป็นสามโซนได้แก่ กระบวนการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของทะเลสาบคืนดาบ การอนุรักษ์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของทะเลสาบคืนดาบ ทะเลสาบคืนดาบ –ศูนย์กลางแห่งการบริการ วัฒนธรรมและการบันเทิง ซึ่งได้สนองข้อมูลที่น่าสนใจให้แก่ผู้ชม นาย เจิ่นด่วานเลิม นักวิจัยด้านประวัติศาสตร์ได้เผยว่า เมื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการนี้ เขาได้ชมเอกสารที่มีค่าต่างๆ
"งานนิทรรศการเป็นโอกาสเพื่อให้ผมค้นคว้ามรดก เกียรติประวัติศาสตร์ของแผ่นดินที่ผมรักคือกรุงฮานอย ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้ชมเอกสารเก่า โดยเฉพาะภาพถ่ายต่างๆ”
ทะเลสาบคืนดาบ-ร่องรอยของแม่น้ำหญิห่าในอดีต ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของกรุงฮานอย จากการที่มีที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ชาวฝรั่งเศสได้เลือกทะเลสาบคืนดาบให้เป็นศูนย์กลางของฮานอย จากการวางผังของชาวฝรั่งเศส ทะเลสาบคืนดาบเหมือนสี่แยกแห่งการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอย่างกลมกลืน ควบคู่กับขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวฮานอย โฉมหน้าใหม่ของตัวเมืองแบบตะวันตกได้ทำให้วิถีชีวิตของประชาชนมีการเปลี่ยนแปลง
ผ่านกาลเวลา กรุงฮานอยได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยกลายเป็นศูนย์กลางแห่งความเลื่อมใส การค้า การบริการ วัฒนธรรมและการบันเทิง เป็นทางแยกที่เชื่อมโยงระหว่างสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตก นาง เจิ่นถิมายเฮือง ผู้อำนวยการศูนย์จดหมายเหตุแห่งชาติ เผยว่า
“ ชุมทางตะวันออก-ตะวันตกสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอย่างกลมกลืนโดยเฉพาะ สถาปัตยกรรมบริเวณโดยรอบทะเลสาบคืนดาบ ดังนั้น พวกเราใช้ชื่อดังกล่าวในการตั้งชื่องานนิทรรศการนี้ก็เพื่อให้ผู้ที่เคยอาศัยในกรุงฮานอยในอดีตได้รำลึกถึงช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะทะเลสาบคืนดาบ”
ผู้เข้าร่วมงาน |
ผ่านภาพถ่ายและเอกสารเกี่ยวกับโบราณสถานต่างๆและทะเลสาบคืนดาบที่ถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการนี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทบทวนความทรงจำในอดีต การผสานระหว่างสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตกได้สร้างเป็นทะเลสาบคืนดาบและย่านถนนโบราณ 36 สายที่มีชีวิตชีวาในปัจจุบัน เมื่อชมการเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบคืนดาบผ่านกาลเวลา นักท่องเที่ยวและชาวกรุงฮานอยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ช่างภาพ เหงวียนหึวบ๋าว ได้เผยว่า
“บ้านของผมอยู่ห่างจากทะเลสาบคืนดาบประมาณ 100 เมตร สำหรับผมเอง ทะเลสาบคืนดาบเหมือนบ้านแห่งที่สอง ผมอยู่ที่นี่มา 70 ปีแล้ว เมื่อได้ชมภาพถ่ายและอ่านเอกสารเกี่ยวกับทะเลสาบคืนดาบในยุคต่างๆ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจมากและทำให้รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “วัฒนธรรมทะเลสาบคืนดาบ”
ทะเลสาบคืนดาบถือว่าเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นพยานทางประวัติศาสตร์ของกรุงฮานอยและของประชาชนที่นี่ ภาพวาด 22 ภาพและเอกสารที่มีค่ากว่า 100 ชุด ได้บอกเล่าความทรงจำเกี่ยวกับทะเลสาบคืนดาบและกรุงฮานอยในอดีต ภาพลักษณ์ที่คุ้นเคยเกี่ยวกับชีวิตของชาวฮานอย โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยบริเวณโดยรอบทะเลาบคืนดาบ นาง เจิ่นถิทวี๊ลาน รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารทะเลสาบคืนดาบและย่านถนนโบราณฮานอย เผยว่า
“พวกเรามีความประสงค์ว่า เอกสารและภาพถ่ายที่ถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการนี้จะช่วยให้ผู้ชมมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ชาวฝรั่งเศสมาเวียดนามและกรุงฮานอย จนถึงขณะนี้ ในบริเวณรอบ ๆ ทะเลสาบคืนดาบ ยังมีกิจการต่างๆที่มีสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศส ผ่านงานนิทรรศการนี้ พวกเรามีความประสงค์ว่า ประชาชนทุกคนจะร่วมกันอนุรักษ์คุณค่ามรดกของกรุงฮานอย”
หลังงานนิทรรศการนี้ เอกสารและสิ่งของวัตถุเหล่านี้จะถูกนำไปจัดแสดงตามโรงเรียนต่างๆในกรุงฮานอย โดยเฉพาะเขตหว่านเกี๊ยม เพื่อช่วยให้นักเรียนและประชาชนมีโอกาสได้ศึกษาเอกสารที่มีค่าเกี่ยวกับกรุงฮานอยเพื่อยกระดับความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของทังลองฮานอย.